รีวิวหนังฝรั่ง Sweet Girl

สวัสดีครับวันนี้เราจะมา รีวิวหนังฝรั่ง เรื่องไม่น่าดูกันนะครับ เป็นหนังแนวแอคชั่น ระทึกขวัญบู๊แหลก ที่ได้ไบอันแอนดรูว์เมนโดซา และ เจสัน มัวอา มาร่วมงานกันอีกครั้ง นับเป็นผลงาน เรื่องใหม่ล่าสุดของพวกเขาที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากใครอยากรับชมหนังแบบเต็มๆก็อย่าลืมไปรับชมกันครับ Sweet Girl 2021

นับเป็นผลสําเร็จ การงาน ควบคุม หนังใหญ่เรื่องแรกของ “ไบรอัน แอนดรูว์ เมนโดซา” โปรดิวเซอร์ คู่บารมี สถานที่ ทํางานกับ เจสัน โมโมอา มา แล้ว หลายเรื่อง

บางทีอาจจะเป็นส่วนที่ทําให้วิสัยทัศน์ รวมทั้งการถ่ายทอดผ่าน งาน หนัง ชิ้นนี้ ออกมา ใน ต้นแบบ ที่ออกจะไหลลื่นด้วยดี ถึงแม้ส่วนประกอบต่าง ๆ ในหนังจะออกจะซ้ําแล้วซ้ําอีก

กับหนังแนว ตื่นเต้น ไล่ล่าที่เคยได้เห็นมามานักต่อนัก และไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่เลยก็ตามบทหนัง ประเด็นนี้ได้ 2 นักประพันธ์ “เกร็ก เฮร์วิตซ์” และก็ “ฟิลลิป ไอสเนอร์”

มาช่วยกล่อมเกลา ให้พวกเขา บางทีอาจจะเชี่ยวชาญอยู่ในแวดวงมา ครู่หนึ่ง แม้กระนั้นยังไม่ค่อยมีประสบการณ์มากเท่าไรนัก ทําให้บทหนัง Sweet Girl ออกมา

ในแบบอย่าง สูตรสําเร็จ ตั้งแต่เริ่ม ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเช่นเดียวกับนั่ง ดูหนังเกรดรอง ๆ ที่ สร้างมาเพื่อฉายทางโทรทัศน์มากยิ่งกว่าหนัง สําหรับฉายในโรงหนัง

กลับกลับขั้วได้อย่างมีสไตล์ในตอน 30 นาทีสุด ที่ทําให้ผู้ชม จะต้องรู้สึก ตื่นเต้น!
เจสัน โมโมอา ยังคง ให้การแสดงที่ใช้ได้ตามมาตรฐานของเขา บทที่เขาได้รับ

บางครั้งอาจจะไม่มีความแตกต่าง จากผลงานเรื่องก่อน ๆ ของเขา สักเท่าไหร่นัก แม้กระนั้นก็จําต้องสารภาพว่าเขามีเสน่ห์ กับ หน้าที่ในรูปแบบนี้ อย่างดีเยี่ยม และท่าออกมาได้ ถูกใจอยู่

sweet girl เรื่องย่อ เกิดเรื่องราวของ เรย์ คูเปอร์ ชายผู้รักครอบครัว แล้วก็เอาจริงเอาจัง ที่จะทวงคืนความชอบธรรม จาก บริษัทขายยาที่มีส่วนรับผิดชอบ

สําหรับในการถอดถอนยา ที่ช่วยคน จาก โรคมะเร็ง ออกมาจากตลาด ก่อนที่จะเมีย ที่รักของเขาจะตายลงไป แม้กระนั้นเมื่อการค้นหา ใส่ความจริง

ได้ก่อให้เกิด การเผชิญหน้า สุดอันตราย ที่ทําให้ เขากับ เรเชล บุตรสาว จ่าต้องตกอยู่ในการเสี่ยงไปด้วย ภารกิจของเขา ก็เลยแปรไปเป็นการล้างแค้นเพื่อ คุ้มครอง สมาชิก ครอบครัว ที่เหลือ อยู่ …

ความรู้สึก แรก ของ หนัง หัวข้อนี้เป็นสามารถมอง ได้เพลิดเพลิน ๆ บันเทิงใจ ตามสูตร ที่วางหมากเอาไว้ มีตัวละครที่ หนักแน่น และก็มีตัวละครเป็นตัวถ่วงที่ชักชวนทําให้ผู้ชม

แอบรู้สึกรําคาญอยู่เบา ๆ ยังมีความไม่มีเหตุผลอยู่เยอะ ไปหมด เส้นหัวข้อการสืบหาเรื่องจริง ในหนังก็ยังไม่ค่อยหนักแน่นเพียงพอ สักเท่าไหร่

จนตราบเท่า ไปสู่ช่วงท้าย เรื่อง ได้บีบ ตนเอง ด้วยการหักมุมแบบน่าแปลกใจ ก็เลยทําให้หนังที่ค่อนข้างจะมองน่าระอา ๆ สองเท่าความเพลิดเพลิน ชดเชยขึ้นมา ได้

โดยภาพรวม แล้วนั้น Sweet Girl มีกลิ่นของหนังทริลเลอร์ไล่ล่าหลาย ๆ เรื่อง รวมกัน มีส่วนผสมแบบ ในแฟรน ไชส์หนัง Bourne หน่อยเดียว

บวกกับหนัง ชําระแค้นอย่าง Taken รวมทั้ง หนังบู๊สไตล์ที่ “เลียม นีสัน” ถูกใจ ได้รับบทน่าอยู่ทุก ๆ วันนี้ หนัง ปูเรื่องอย่างราบเรียบ ไม่ค่อยน่าตื่นตาตื่นใจ

แต่ว่าค่อน ๆ ยกฐานะความเข้มข้นเยอะ ขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่จะนํามาซึ่งการก่อให้เกิดจุดหักมุม ที่จําเป็นต้องทําให้ผู้ชม…อ้าปากหวอ ได้

สำหรับ ‘Sweet Girl’ นั้น เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ เจสัน โมโมอา และผู้กำกับ ไบรอัน แอนดรูว์ เมนโดซา (Brian Andrew Mendoza) ที่เคยร่วมงานกับ เจสัน โมโมอา มาก่อนแล้วใน ซีรีส์ ‘Frontier’ (2018) และภาพยนตร์ ‘Braven’ (2018)

และอีกหนึ่งความน่าสนใจคือ ได้ อิซาเบลา เมอร์เซ็ด (Isabela Merced) สาวน้อยวัย 20 ปี ที่ฉายแววความน่ารักและฝีมือการแสดงที่ประทับใจมาแล้วจาก ‘Transformers: The Last Knight’ (2017), ‘Sicario: Day of the Soldado’ (2018), ‘Instant Family’ (2018) และ ‘Dora and the Lost City of Gold’ (2019)

ในท้ายที่สุดแล้ว Sweet Girl ก็เหมาะสมดีแล้วที่สร้างออกมาเป็นหนังฉายจอเล็กแบบนี้ เพราะหลายองค์ประกอบของหนังยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะไปสู้กับหนังเรื่องอื่น ๆ

บนบ็อกซ์ออฟฟิศ ถึงแม้ว่าหนังจะไม่ได้แย่อะไร แต่ก็ยังไม่ใชหนังที่ดีสมบูรณ์แบบเพียงพอที่จะน่าจดจำสักเท่าไหร่ เป็นหนังอาชญากรรมระทึกขวัญที่ระดับความเข้มข้นยังไต่ไปไม่ถึงที่ สตาร์ทติดเครื่องได้ช้า แต่ก็ยังพอมีรสชาติให้รู้สึกอร่อยอยู่

อย่างไรก็ดี ทีมงานสร้าง ‘Sweet Girl’ นั้น สามารถส่งสาส์นที่ต้องการออกมาได้อย่างชัดเจน โดยมีการเน้นย้ำถึงจิดใจอันบอบช้ำจากความสูญเสียของทั้งผู้เป็นพ่อ และลูกสาว อยู่ตลอดทั้งเรื่อง

โดยเฉพาะตัวละครเรเชล ที่ต้องแบกรับทั้งอารมณ์โกรธและเสียใจไปพร้อม ๆ กัน และต้องการใครสักคนคอยให้คำปรึกษาและกำลังใจ เพื่อให้ก้าวเดินต่อไปได้