รีวิวหนังฝรั่ง Atomic Blonde หนังแอ็คชั่น ไซไฟ น่าดู ปี 2017

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้จะมา รีวิวหนังฝรั่ง แนวแอ็คชั่น สายลับ สุดมัน ที่ตัวเอกตัวหลักในเรื่องเป็นผู้หญิงสุดแข็งแกร่ง ที่ไม่ว่าชายหนุ่มหน้าไหนเจอเธอ ก็เป็นต้องส่ายหน้าหนีกันไปหมด ใช่ละครับ นี่คือเรื่อง Atomic Blonde ปี 2017 เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยดูกันมาแล้ว แต่ถ้าไม่ เราไปทำความรู้จักกันครับ

รีวิวหนังฝรั่ง Atomic Blonde หนังที่ได้ผู้กำกับครนเดียวกับ John Wick

แม้ว่าจะเผาหัวมาว่าเป็นหนัง จากผู้กํากับหนัง John Wick แต่ว่าเอาเข้าจริงเนื้อแท้มันเป็นหนังสายฉบับ หักเหลี่ยม คดโกง แอบซ่อนเงื่อนสลับซับซ้อนแบบ Mission Impossible (1996) เสียมากกว่า

ทว่าด้วยการออกแบบ ผู้แสดง การใช้ภาพ การควบคุม โทนสี แล้วก็ ดนตรี สุดเฟี้ยว มันเลย สร้างเอกลักษณ์ ส่วนตัวขึ้นมาได้ และก็ ก็ไม่ใช่ว่า พาร์ท แอ็คชันจะโหลยโท่ย อะไร

เมื่อใดที่มันเข้าโหมด ปะ ฉะ ดะก็แซ่บถึงทรวง จริง ชาร์ลิซ คุณรอน กับ เจมส์ แม็คอะวอย สร้างสีสัน ให้เรื่อง ได้โข มีโป๊ๆ ให้มองเห็นแว้บๆ อยู่ร่าไร

นี่ก็เลยเป็นหนัง คนแก่ ทั้งยัง ความ สลับซับซ้อนของรายละเอียด รวมทั้ง การนําเสนอ แต่ว่าส่วนตัวเลยจ้ะนะครับ ยังมีความรู้สึกว่า หนัง ไม่กลมกล่อมละมุนละไม เยอะแค่ไหน

สําหรับการผสมแนว หลัก สายเข้มกางเป็นจริงเป็นจังกับแอ็คชันแบบเวอร์วังเกินจริงเป็นหนัง ที่ส่วนตัว คิดว่า มาแบบม้ามืด

เป็นตอนสร้างมิได้มีความเปิดเผย แบบ หนังบล็อกบัสเตอร์อะไร มามองเห็นอีกครั้ง ก็ตอนปีที่จะเข้าฉายเลย บางทีอาจด้วยอานิสงค์จาก ความดัง ของ หนัง อย่าง John Wick ที่ภาค 2 พึ่งจะผงาดเมื่อต้นปีด้วย

เนื่องจาก หนังก็ใช้บารมีจากหัวข้อนั้นมา โปรโมทมากมาย ทั้งยังว่า ได้ผล สําเร็จงานจาก ผู้กํากับ John Wick (2014) ตลอดตัวอย่าง ที่โชว์ ฉากแอ็คชัน สไตล์ รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยํา แล้วก็ ทารุณโหดร้าย

รีวิวหนังฝรั่ง Atomic Blonde

เรื่องย่อ Atomic Blonde

atomic blonde เรื่องย่อ หนังเล่า ของการทําศึก สาย ใน ตอนที่กําแพงเบอร์ลิน กําลังถูกท่า ลายลง ปี 1989 เรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงเกิดขึ้นได้เนื่องมาจาก
การสืบสวน ภารกิจ หนึ่งของ ลอร์เรน โบรห์ตัน (ชาลิซ คุณรอน) สาย ของ หน่วยราชการลับอังกฤษ ที่ออกปฏิบัติงาน ในเยอรมัน
เพื่อตามหา สปายกลาส ที่ถือครอง เดอะลิสต์ หรือไฟล์รวมรายนาม สาย ทั้งหมดทั้งปวง ที่ทําภารกิจอยู่ โดยจะได้ เดวิด เพอร์ ซิวัล (เจมส์ แมคอะวอย) สายที่ทําธุรกิจมืด
ในเยอรมัน รอ ช่วย เหลือ โดยอีกฝั่ง ที่ตามล่า รายนาม นี้เหมือนกัน ก็คือ กรุ๊ปเคจีบี ของ บรีโมวิช ที่มีผลกว้างใหญ่ ยังรวมถึงหน่วยงานอื่นที่เข้ามา พันพัว รุงรัง ทั้งยัง สาย ประเทศฝรั่งเศสอย่าง เดลฟีน (โซเฟีย โบ เทลล่า)
รวมทั้ง หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกา ฝั่ง อเมริกันอย่าง เคิร์ตเฟลด์ (จอห์น กู้ดแมน) เรียกว่าเป็นพลอตที่ ชงมาให้พูดปด และก็ จริง สไตล์ The Usual Suspects (1995)
รวมทั้ง คิดคดทรยศหักมุมระหว่างคนแต่ละข้างกันได้สนุกสนาน ทีเดียว โดยนี่ก็สําเร็จงานดัดแปลงแก้ไขจาก กราฟิก โนเวลเรื่อง The Coldest City โดยมือเขียนบทหนัง 300 ทั้งยัง 2 ภาคอย่าง เคิร์ต จอห์นสแตด ด้วย
รีวิวหนังฝรั่ง Atomic Blonde

ความรู้สึกหลังดูหนังจบ

Charlize Theron คือแทบทุกสิ่งอย่างในหนัง ฝีมือการแสดงจัดจ้านทุกบทบาทสมดีกรีดาราออสการ์ ในส่วนของฉากบู๊ ขุ่นแม่ก็สตรองไร้ข้อกังขามาตั้งแต่ Mad Max แล้วพอมาเรื่องนี้
ยิ่งเห็นได้ชัดถึงความเต็มที่ และ ทุ่มสุดตัว (แถมเรื่องนี้นางดูต้องเจ็บตัว และ เปลืองตัวอยู่ไม่น้อย) ส่วน James McAvoy ก็เล่นดี มีความหล่อลุ่มลึกน่าค้นหา ชอบเวลานางทำหน้าโหด ๆ โรคจิต ๆ แบบใน Split รู้สึกว่านางควรมาทางนี้
ฉากที่น่าจดจำระดับมาสเตอร์พีซคือ ฉากแอ็คชั่นลองเทค ที่เป็นฉากต่อสู้บนบันไดตอนที่นางเอกต้องช่วยพา Spyglass หนีข้ามฝั่งกำแพง
คิวบู๊ดูผ่านการดีไซน์มาอย่างดี มีความสวยงาม ในขณะเดียวกันก็มีความโหดร้าย รุนแรง เลือดสาดกระจุย เรียกว่าเป็นความระห่ำแบบ non-stop ที่เราต้องนั่งอ้าปากหวอและ ลุ้นจิกเบาะยาวนานกว่า 12 นาที!
รีวิวหนังฝรั่ง Atomic Blonde

รีวิวหนังฝรั่ง Atomic Blonde หนังแนวสายลับ ห้ามพลาดเด็ดขาด

สตั๊นท์แมนมากผลงาน David Leitch เริ่มต้นสายงานการกำกับจากการเป็นผู้กำกับร่วมในหนัง John Wick และก่อนที่เราจะได้ชมผลงานของเขาใน Deadpool 2
ซึ่งกำลังถ่ายทำอยู่ เราจะได้ชมเรื่อง Atomic Blonde กันก่อน ณ ตอนนี้ ซึ่ง Atomic Blonde นั้นมีกลิ่นอายของ John Wick อยู่มากเลยทีเดียว จนอาจเรียกได้ว่า นี่คือ John Wick ฉบับผู้หญิง
เรื่องราวของ Atomic Blonde เป็นอยู่ในยุคสงครามเย็น ช่วงปลายปี 1989 ซึ่งเป็นช่วงที่กำแพงเบอร์ลินกำลังใกล้จะถูกทุบ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรของหนัง…

บทสรุป Atomic Blonde

โดยรวมต้องถือว่า ‘บลอนด์ สวยกระจุย’ ทำได้โดดเด่นในด้านการออกแบบและถ่ายทำฉากบู๊ทั้งหลายที่ออกมาได้อย่างดิบและเถื่อน รู้สึกเจ็บจริงจนถึงขึ้นต้องร้องโอ๊ยตาม

ทั้งยังมีฟีลลิ่งของหนังนักสืบย้อนยุคที่บ้านเมืองในเยอรมันยังเป็นยุคเก่าที่กำลังจะทุบกำแพงกัน รถราที่ใช้ก็ยังดูโบราณ ภาพก็ย้อมให้ดูทึม ๆ

นอกจากเราจะได้เห็น Charlize Theron เธอบู๊แหลกชนิดโหดดุดิบแล้ว เรายังได้พบกับ Sofia Boutella ที่เล่นเป็นคาแรคเตอร์สไตล์สายสืบช่างภาพ

แถมยังมีฉากหวิว ๆ ให้ดูกันด้วยอีกทั้งหนังยังมีตัวละครเยอะแยะจนไม่อาจจะจดจำได้หมดในการชมครั้งเดียว (นี่อาจจะต้องมีซ้ำหากอยากจะเข้าใจมันจริง ๆ )

และเมื่อผมไม่อาจจะทำความเข้าใจเรื่องราวได้เป็นส่วนใหญ่ เราจึงไม่อาจจะสนุกกับหนังให้มากพอ เมื่อถึงฉากแอ็คชั่นมัน ๆ

นั่นแหละที่เราจะซึมซับอารมณ์สนุกนั้นได้แม้จะดูรู้ว่าคนเขียนบทและผู้กำกับฯ เขาตั้งใจจะใส่ชั้นเชิงในการเล่าเรื่องราวทั้งพาร์ทที่เป็นบทสนทนาและพาร์ทที่ใช้ภาพเล่าเรื่อง

รวมทั้งความพยายามจะพลิกหักมุมเรื่องไปมาตามประสาหนังนักสืบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *