รีวิวหนังฝรั่ง Valerian
ทั้งคู่เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษซึ่งทำงานอยู่ในองค์กรสำหรับปกครองเขตแดนเพื่อมนุษยชาติ โดยวาเลอเรียน คิดกับคอเรลีน มากกว่าเพื่อน แต่เขามีนิสัยเจ้าชู้ก็เลยทำให้คอเรลีนปฏิเสธเรื่อยมานหนึ่งเขาได้รับภารกิจจากผู้บังคับบัญชา อารุน (Clive Owen) พวกเขาต้องเดินทางไปที่มหานครอัลฟา ดูหนังฟรี ซึ่งอยู่ใจกลางอวกาศ มีสิ่งมีชีวิตหลาย10,000 ประเภทอาศัยอยู่ในจักรวาลร่วมกันซึ่งมีภัยร้ายกำลังคลืบคลานมาซึ่งจุดประสงค์ของภัยร้ายนั้นคือทำลายมนุษยชาติให้สูญสิ้นไปรวมถึงสิ่งมีชีวิตในจักรวาลอื่น ๆ ด้วย ดูหนังออนไลน์
เรื่องนี้คุณจะได้พบกับเอฟเฟคที่มันตระการตามาก เหมือนคุณได้หลุดเขาไปในโลกอีกโลกนึงเลย มันดูสวย ดูว้าวตลอดเวลา ค่อนข้างเก็บรายละเอียดได้ดี อาจมีบางช่วงที่ดูลอยๆไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับน่าเกลียดอะไร ผ่านครับ! ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับดาวดวงนึงที่อยู่ดีมีสุขมาโดยตลอด รีวิวหนังฝรั่ง Valerian
แต่ได้โดนเศษวัตถุที่ตกจากนอกดาวมาตกใส่ ทำให้ดาวของเขาต้องถึงกาลอวสาน และพวกเขาต้องทำถุกวิถีทางเพื่อที่จะอยู่รอดและพยายามที่จะสร้างดาวของเขากลับขึ้นมาอีกครั้ง
วาเลเรียน (เดน ดีฮาน) และ ลอเรลีน (คาร่า เดเลวีน) เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษขององค์การปกครองเขตแดนมนุษยชาติ พวกเขามีหน้าที่พิทักษ์สันติสุขให้กับประชาชนทั่วจักรวาลวันหนึ่งเมื่อพวกเขาได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการ อารุน ฟิลลิตต์ (ไคลฟ์ โอเว่น) ทั้งสองจึงต้องออกเดินทางไปยังมหานครอัลฟ่า
ดินแดนสุดอัศจรรย์ใจกลางอวกาศที่มีสิ่งมีชีวิตเป็นหมื่นๆ สปีชีส์จากทั่วทุกมุมจักรวาลอาศัยอยู่ร่วมกัน แต่โชคไม่ดีนักที่มีหายนะกำลังแฝงตัวคืบคลานอยู่ในความมืด และกำลังจ้องจะทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้หมดสิ้น วาเลอเรี่ยนและลอเรลีนจึงต้องออกผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ ทะยานฝ่าสมรภูมิกาแลคซี่ เพื่อปกป้องอนาคตของทุกเผ่าพันธุ์ไปพร้อมกัน
หนังดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนยุคเก่าแก่ที่เขียนมาตั้งแต่ปี 1967 นู่น
แล้วลากยาวถึง 43 ปี มาจบเอาเมื่อปี 2010 นี่เอง ในฉบับการ์ตูนจะชื่อ Valerian And Laureline ก็เป็นการปฎิบัติการของเอเยนต์คู่หูมือฉกาจที่ทำให้งานให้กับสหพันธ์โลก ด้วยจินตนาการอันบรรเจิดและสนุกสนานของ ฌอง คล็อด เมเซียร์ ผู้สร้างสรรค์เรื่องราวของวาเลเรียน ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลให้เกิดหนังมหากาพย์อย่างสตาร์วอร์ส และตัวลุค เบซอง เองที่อยากจะดัดเแปลงการ์ตูนเรื่องนี้มาเป็นหนัง แต่ด้วยเทคโนโลยีอันจำกัดเมื่อ 20 ปีก่อน ลุค เลยตัดสินใจดัดแปลงตอนหนึ่งของวาเลเรียนออกมาเป็น The Fifth Element (1997) แทน จนกระทั่งลุค
ได้เห็นภาพของชาวเผ่านาวิใน Avatar (2009) ของเจมส์ คาเมรอน ก็เป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าเทคโนโลยีทางด้านภาพมาถึงจุดที่ ลุค จะสามารถสร้างภาพของบรรดามนุษย์ต่างดาวหลากสายพันธุ์ได้แล้ว โครงการหนัง Valerian ถึงได้เริ่มออกสตาร์ทอีกครั้งหนังมีการเล่าเรื่องและเซ็ตฉากโดยใช้จักรวาลและ Galaxy รวมถึงดาวดวงอื่นในการเล่าเรื่อง
และสิ่งมีชีวิตที่แปลกและประหลาดตามสายพันธุ์ต่าง ๆ ทำให้หนังมีEffect และ CG ค่อนข้างอลังการอาจจะเป็นเพราะหนังจัดอยู่ในประเภทไซไฟแฟนตาซีนั่นเอง หนังจึงบอกกับคนที่ต้องการเสพความสวยและอลังการของฉากในหนังรวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เปรียบเสมือนการใช้งานในกาแล็กซี่ยานอวกาศอะไรทำนองนี้
หนังค่อนข้างมีระยะเวลานาน ประมาณ 2 ชั่วโมง บทหนังก็ถือว่าใช้ได้สนุกมีหลายรสชาติไม่ตายตัวอยู่แค่การไล่ล่าและความสวยของเอฟเฟคต์อย่างเดียว ส่วนฉากแอ็กชั่นก็ถือว่าดีเลยแหละแล้วก็มีหลายฉากด้วยค่อนข้างคุ้มสำหรับคนที่ต้องการดูความอลังการและฉันแอ็คชั่น ถึงแม้ว่าพระเอกในเรื่องจะค่อนข้างเจ้าชู้แลถหน้าหม้อ แต่ก็ยังพอจะมีฉากโรแมนติกให้ได้เห็นบ้างก็น่ารักดี แต่ด้วยความที่หนังมันยาวมากโดยปกติภาพยนตร์ที่มีระยะเวลายาวมักจะอืดและเดินเรื่องช้า ในช่วงต้นของภาพยนตร์แต่หนังเรื่องนี้มาแปลกมาเอื่อยในช่วงท้าย แต่ก็สามารถทดแทนได้โดยฉากอลังการนั่นเอง
สิ่งที่เป็นจุดแข็งเรื่องนี้ คือไอเดียสุดล้ำแต่จะล้ำยังไงก็ลองไปดูกันเอง
มันเป็นจุดแข็งมีจินตนาการสูง สามารถสร้างภาพยนตร์ที่มีความสวยงามไว้ได้ขนาดนี้โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตของมนุษย์ต่างดาวที่มีหลากหลายสายพันธุ์และมีความแตกต่างกันด้วยรูปลักษณ์ภายนอกออกไปหรือยังไม่นับรวมถึงฉากอลังการของหนัง เอาเป็นว่าถ้าจินตนาการก็ทำให้หนังสนุกได้ การแสดงของนักแสดงหลักทั้งคู่อย่างแดน ดีฮาน และคาร่า เดเลวีน เป็นอีกเรื่องที่ทำให้รู้สึ
ถ้าเป็นแฟนหนังอวกาศหลายคนน่าจะคุ้นกับภาพนิคมอวกาศที่อัดแน่นด้วยมนุษย์ต่างดาวหลากสายพันธุ์เดินกันขวักไขว่ ภาพร้านเหล้าหรือซ่องโจรที่เต็มไปด้วยมนุษย์ต่างดาวพันธุ์วายร้าย ถ้าชื่นชอบกับบรรยากาศบนจอแบบนี้ ก็น่าจะถูกอกถูกใจกับวาเลเรียนเป็นพิเศษ เพราะหนังวาเลเรียนเนี่ยแหละ เอาบรรยากาศเหล่านี้มาขยายเป็นเรื่องราวตลอด 2 ชั่วโมง 20 นาที
หนังดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนยุคเก่าแก่ที่เขียนมาตั้งแต่ปี 1967 นู่น แล้วลากยาวถึง 43 ปี มาจบเอาเมื่อปี 2010 นี่เอง ในฉบับการ์ตูนจะชื่อ Valerian And Laureline ก็เป็นการปฎิบัติการของเอเยนต์คู่หูมือฉกาจที่ทำให้งานให้กับสหพันธ์โลก ด้วยจินตนาการอันบรรเจิดและสนุกสนานของ ฌอง คล็อด เมเซียร์ ผู้สร้างสรรค์เรื่องราวของวาเลเรียน ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลให้เกิดหนังมหากาพย์อย่างสตาร์วอร์สและตัวลุค เบซอง
ในศตวรรษที่ 28 วาเลเรียน (เดน เดฮาน) และลอเรลีน (คารา เดอลาวีญ) คู่หูเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ สังกัดกระทรวงความมั่นคง มีหน้าที่พิทักษ์สันติสุขทั่วทั้งจักรวาล เขาทั้งสองได้รับมอบภารกิจให้ผจญภัยไปยังมหานครอัลฟ่า ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกสปีชี่ในจักรวาลในการใช้ชีวิตร่วมกัน แลกเปลี่ยนความรู้และวัฒนธรรมกันมาอย่างยาวนาน แต่ที่ ณ ใจกลางของอัลฟ่ากลับมีภัยร้ายที่กำลังคืบคลานอยู่ภายใต้ความมืดนั้น ที่ไม่เพียงแต่จะทำให้มหานครแห่งนี้สั่นคลอน แต่มันรวมถึงอนาคตของทั้งจักรวาลด้วย
หนังเรื่องนี้แอคชั่นไม่ได้จัดหนักมาก รีวิวหนังฝรั่ง Valerian
แต่ก็มีการใช้เทคโนโลยีเจ๋ง ๆ ในการต่อสู้กันหลายฉาก เน้นงานภาพและซีจีที่หวือหวา แต่ที่เด็ดมากคือไอเดียในการสร้างตัวละครหลากสปีชี่ที่มีทั้งความแปลกและตลกปะปนอยู่ในตัว รวมถึงฉากต่าง ๆ ที่ล้ำเกินจินตนาการมาก ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กมาร์เก็ต ตรอกพาราไดซ์ ดาวมิวต์ และมหานครอัลฟ่า ส่วนใครที่จะมาดูริฮานน่าก็ไม่ผิดหวังกับลุคนักเต้นที่แม้จะออกมาไม่นาน แต่ฉากเต้นโชว์เดี่ยวของนางก็ทำได้เริ่ดจริง ๆ
ด้วยชื่อเสียงของตัว ลุค เบซอง เองอยู่ที่ในวงการมากว่า 30 ปี สร้างผลงานน่าประทับใจไว้มากมาย โดยเฉพาะ The Fifth Element ที่ลุคได้แสดงวิสัยทัศน์ของตัวเองลงไปในหนังอวกาศให้กลายเป็นหนังในดวงใจของหลาย ๆ คน เมื่อลุคประกาศว่าจะกลับมาทำหนังอวกาศอีกครั้งจึงได้แรงสนับสนุนมากมายทั้งเงินทุนที่พุ่งทะยานไปถึง 220 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังนอกฮอลลีวู้ดเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ใช้ทุนสร้างสูงขนาดนี้ และการจะเสกสรรค์ภาพให้ได้ตามจินตนาการของลุคเบซอง ถึงกับต้องใช้บริษัทสร้างภาพซีจีระดับแนวหน้าของโลกถึง 3 บริษัท WETA ของปีเตอร์ แจ็คสัน , ILM ของจอร์จ ลูคัส และ Rodeo FX ที่เคยทำ Gods Of Egytpt และ Warcraft
หนังเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจด้วยการเล่าความเป็นมาของ “อัลฟ่า” นิคมจักรวาลที่ถือกำเนิดจากสถานีอวกาศของโลกมนุษย์ จากสถานีอวกาศของชาติต่าง ๆ บนโลกมาเชื่อมต่อกันและเริ่มได้รับการสานสัมพันธ์จากดาวอื่น ๆ จนผ่านไป 400 ปี สถานีก็ขยายไปจนมโหฬาร มีมนุษย์ต่างดาวมากกว่า 5,000 สายพันธุ์ และประชากรถึง 9 ล้านชีวิต อัลฟ่า
เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ ดูสนุกน่าตื่นตา แต่ก็อยู่บนสมมติฐานที่น่าจะเกิดขึ้นจริงได้ในอนาคต หนังตัดสลับไปแนะนำคู่หูวาเลเรียนและลอเรลีน ที่ตามฟอร์มของหนังแนวแอ็คชั่นที่ตัวเอกจะต้องโชว์ปฎิบัติการให้คนดูเห็นฝีมือของทั้งคู่ และวีรกรรมโชว์พาวของทั้งคู่ที่บิ๊กมาร์เก็ต ก็เป็นฉากแอ็คชั่นลากยาวและสนุกสนานมาก และไอ้บิ๊กมาร์เก็ตเนี่ยล่ะ ก็เป็นอีกหนึ่งจินตนาการที่ต้องยกนิ้วให้สองนิ้วว่า “ไอเดียมึงล้ำจริง ๆ” ไม่เล่ารายละเอียดนะ ให้ไปดูเอาเอง จนมาถึงอัลฟ่า คู่หูก็ทำหน้าที่เสมือนไกด์ พาคนดูผจญภัยไปตามซอกมุมต่าง ๆ ของอัลฟ่า บนเส้นเรื่องที่เขียนไว้เบา ๆ แบบมีปริศนาน่าสนใจ ว่ามีมุมลึกลับอยู่ในอัลฟ่า ที่ส่งเอเยนต์เข้าไปกี่คนก็ไม่ได้กลับออกมา แลดูว่าน่าจะเป็นอันตรายต่อทุกชีวิตบนอัลฟ่าในอนาคตถ้าไม่รีบกำจัดเสีย
การดำเนินเนื้อเรื่อง นี่ไม่ได้อวยนะ! แต่ทุกฉากทุกตอน มันดูลื่นไหล น่าติดตามตลอดเวลา คือเวลาสองชั่วโมงกว่ามันยังรู้สึกไม่สาสมแก่ใจ ยังอยากจะดูต่อไปอีก ละสายตาออกจากจอไม่ได้เลย มันทำให้เราอินตามไปกับหนังได้จริงๆ โดยตลอดทั้งเรื่องก็จะแทรกมุขตลก มุขฮา มุขเกรียนมาอยู่ตลอด ทำให้เราได้ขำ ได้หัวเราะ อมยิ้มได้ทุกครั้ง มันช่างเพอเฟคอะไรเช่นนี้!!!
ส่วนเรื่องนักแสดงก็เลือกมาได้อย่างดีเยี่ยม
การแสดงของทุกคนคือดีมากจริงๆ เดน ดีฮาน และ คาร่า เดเลวีน ดูเข้าขาและเหมาะสมกันมากจริงๆเคมีเข้ากันสุดๆ ส่วนคริสวู ส่วนตัวผมไม่รู้จักว่าเขาคือใครแต่แค่ออกมาฉากแรกแว๊บเดียวเท่านัน!เห็นสาวๆแถวหน้าผมเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เผลอร้องกรี๊ดลั่น! ออกมาไม่รู้ตัวเลยฮ่าๆ ก็นะพี่แกปังมากจริงๆแหละ ส่วนรีฮาน่าเธอทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมคุณจะได้พบกับโชว์ของเธอที่ทำให้เราๆดูเคลิ้มไปตามๆกันแต่เธอโผล่มาแค่แป๊บเดียวเอง กว่าจะมาก็ช่วงท้ายๆของเรื่องแล้วแอบเสียดาย
ความสนุกของหนังหลัก ๆ แล้วมาจากจินตนาการบรรเจิดของเจ้าของเรื่องและถูกต่อยอดออกมาเป็นภาพจริงด้วยวิสัยทัศน์ของลุค เบซอง ที่เคยทำสำเร็จมาแล้วจาก The Fifth Element ลุคเลือกหยิบเอาจุดที่คนดูเคยประทับใจมาใช้ได้หมด ทั้งอารมณ์ขันมากมายในหนัง ความยียวนของตัวละครนำ นางเอกน่ารักโดนใจ และที่สำคัญรอบนี้ได้เงินทุนที่มากขึ้น บวกกับวิวัฒนาการของซีจีที่ลุค ทำไม่ได้เมื่อ 20 ปีก่อน คราวนี้ก็เลยจัดเต็ม หนังจึงเต็มไปด้วยมนุษย์ต่างดาวหน้าตาประหลาดแบบนับไม่ถ้วน สัตว์ประหลาดที่มีทั้งตัวที่น่ากลัวและตัวที่น่ารัก ยานหลากหลาย อาวุธแปลก ๆ มากมาย และดีไซน์ชุดที่เท่มาก เรียกได้ว่าทุกนาทีของหนังจะมีอะไรออกมาให้ตื่นตาตื่นใจตลอดเวลา ละสายตากันไม่ได้เลย และตอกย้ำความประทับใจจากฉาก ร้องโอเปร่า ใน The Fifth element ที่หลายคนประทับใจ ลุค ก็เลยหยอดฉากร้องเพลงมาในเรื่องนี้ด้วย และรอบนี้ก็เป็นหน้าที่ของ ริฮานนา ที่เธอได้ 2 นาทีเป็นฉากโชว์เดี่ยวของตัวเอง และต้องย้ำว่าเธอทำได้เริ่ด สมศักดิ์ศรีกับซูเปอร์สตาร์ของยุคนี้จริง ๆ