รีวิวหนังฝรั่ง Space Sweepers

3 มนุษย์ กับอีก 1 หุ่นยนต์ จอมขบถชายขอบของสังคมที่รวมตัวกันเป็นสลัดอวกาศล่าขยะมีค่าที่ลอยเท้งเต้งอยู่นอกโลกในปี 2092 แต่ความซวยมาเยือนเมื่อพวกเขาดันไปเก็บอาวุธระเบิดมหาประลัยในรูปของเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเข้าเสียได้ แต่เหมือนส้มหล่นเพราะมีองค์กรก่อการร้ายพร้อมจะจ่ายให้ไม่อั้นเพื่อแลกตัวเด็กน้อยคืน สุดท้ายกลายเป็นสงครามสาดแสงเลเซอร์กลางอวกาศเพื่อแย่งตัวแบบมะรุมมะตุ้มทั้งฝ่ายคนดีและคนชั่ว ดูหนังฟรี โดยมีเหล่านักเก็บกวาดขยะอยู่ตรงกลางรอเลือกข้าง ว่าจะเอาเงินหรือไม่ก็คุณธรรม

เป็นเรื่องราวของโลกในอนาคต ปี 2092 ที่ในเวลานั้นบนผืนโลกเต็มไปด้วยมลพิษและยากลำบากในการดำรงชีวิต เนื่องจากพืชพรรณต่างๆ ไม่สามารถปลูกขึ้นได้อีกแล้ว ดูหนังออนไลน์ ทำให้มีการย้ายผู้คนขึ้นไปอาศัยอยู่บนโลกจำลองใหม่บนอวกาศ แต่ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ที่จะขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา

ขณะที่ตัวหนังได้โฟกัสที่ลูกเรือประจำยานเก็บขยะอวกาศที่ชื่อ “วิคตอรี่” ที่มี คิมแทโฮ เป็นนักบินหลัก ใต้ภายการดูแลของ กัปตันจาง หญิงแกร่งในยาน แทโฮกลายเป็นคนกระหายเงินเพราะเป้าหมายของเขา การเป็นภารโรงอวกาศของเขากับพรรคพวกเป็นวิธีเดียวในการหาเงินที่แสนจะจนตรอก กระทั่งวันหนึ่งพวกเขาได้ค้นพบสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งในกองขยะ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยสุดขอบจักรวาลในครั้งนี้

เนื้อเรื่องถูกเซ็ตไว้ในปี 2092 ที่ต้นไม้บนโลกเติบโตไม่ได้เนื่องจากทะเลทรายขยายตัว

รีวิวหนังฝรั่ง Space Sweepers

ดินเป็นกรด แสงแดดอ่อน ทำให้อากาศบนโลกมีปัญหา ผู้คนต้องสวมหน้ากากกรองเพื่อช่วยหายใจ ผู้คนไร้ทางออก จนได้บริษัท UTS ที่มีเจมส์ ซัลลิแวน เป็นเจ้าของสร้างอาณานิคมในอวกาศรอบวงโคจรโลกที่มีความเป็นอยู่อย่างดีเหมือนสวรรค์ แต่คัดเลือกคนขึ้นไปเป็นพลเมืองเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ประชากรที่เหลือ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์กลายมาเป็นพลเมืองนอก UTS ซึ่งมีหน้าที่ทำงานไปกลับระหว่างโลกกับ UTS เท่านั้น ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างรุนแรง และทำให้โลกกลายเป็นดาวที่ไม่มีใครมีความหวังเหลืออยู่อีกต่อไป

ใครจะคิดว่าประเทศในฝั่งเอเชียอย่างเกาหลีใต้นั้นจะสามารถผลิตภาพยนตร์คุณภาพแนวตะลุยอวกาศออกมาได้สำเร็จ แต่พวกเขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขามีความสามารถมากพอที่จะนำเสนอเรื่องราวขึ้นไปบนอวกาศนอกโลกได้แล้ว แถมยังสมบูรณ์แบบอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเนื้อเรื่อง บท และงานภาพ เป็นกลิ่นอะไรที่แปลกใหม่และมีการผสมผสานความเป็นเกาหลีใต้เอาไว้ได้เป็นอย่างดี

ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่อง Space Sweepers นำเสนอในรูปแบบภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟคอมเมดี้ ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่มันจะถูกขนานนามว่าเป็น The Guardians of the Galaxy ฉบับเกาหลีใต้ โดยเรื่องราวนั้นจะเล่าถึงโลกอนาคตปี 2092 โลกได้เผชิญวิกฤตเมื่อต้นไม้ทุกต้นบนโลกใบนี้ไม่สามารถเติบโตได้อีกต่อไปเนื่องจากทะเลทรายได้มีการขยายตัวจนทำให้ดินกลายเป็นกรด ไม่เพียงเท่านั้นยังมีปัญหาเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศที่ทำให้แสงแดดอ่อนลง อากาศเป็นพิษจนทำให้ผู้คนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หากอยู่นอกอาคารต้องสวมหน้ากากเพื่อกรองอากาศตลอดเวลา

มนุษยชาติได้ดำเนินมาจนถึงทางตันจนบริษัทเทคโนโลยี UTS ได้ก้าวเข้ามาเป็นฮีโร่ที่จะช่วยจัดการวิกฤตบนโลกใบนี้ให้คลี่คลาย บริษัทดังกล่าวมีเจ้าของชื่อว่าเจมส์  ซัลลิแวน เขานั้นเป็นเจ้าของอาณานิคมบนอวกาศที่โคจรรอบโลก ณอนันต์นิคมแห่งนั้นเต็มไปด้วยความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีจนเหมือนกับยูโทเปีย แต่คนที่จะได้รับคัดเลือกให้ขึ้นไปอยู่บนยูโทเปียแห่งนี้เป็นเพียงแค่พลเมืองบางส่วนเท่านั้น ทำให้มนุษย์ที่เหลืออีก 90 เปอร์เซ็นต์ยังคงต้องอาศัยอยู่บนโลกนี้ต่อไป และมีบางส่วนที่ต้องทำงานไปกลับระหว่างโลกและอาณานิคม ทำให้การเข้ามาช่วยแก้ปัญหากลายเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำให้กับผู้คนทั่วทั้งโลก

หนังเป็นฝีมือของผู้กำกับ โจซองฮี รีวิวหนังฝรั่ง Space Sweepers

รีวิวหนังฝรั่ง Space Sweepers

ที่เคยมีผลงาน A Werewolf Boy (2012) ร่วมกับพระเอกดัง ซงจุนกิ เข้าฉายในบ้านเราเมื่อหลายปีก่อน ทว่าเอาจริงแล้วตัวเขาก็มีงานที่น่าจับตามองตั้งแต่ตอนทำหนังสั้นเรื่องแรก แล้วคว้ารางวัลจากเมืองคานส์กลับบ้านสำเร็จ ในหนัง Don’t Step Out of the House (2009)

นับเป็นอีกคนหนังของเกาหลีที่ช่วยขับอุตสาหกรรมได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะความทะเยอทะยานในการริเริ่มสร้าง Space Sweepers นี่ล่ะ คือหมุดหมายว่าหนังบันเทิงเกาหลีพร้อมจะเอา “โคเรียวูด” ไปชนฮอลลีวูดได้แล้วหรือยัง หลังจากด้านคุณภาพหนังรางวัลนั้นเกาหลีเพิ่งชนะออสการ์มาหมาด ๆ จากหนัง Parasite ของ บงจุนโฮ

ผลงานของผู้กำกับ “โจซึงฮี” ที่ได้นักแสดงคู่บุญ “ซงจุงกิ” กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง หลังจากที่เขาเคยแจ้งเกิดให้กับซุปตาร์หนุ่มมาแล้วใน ‘A Werewolf Boy’ เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว โจซึงฮียังรับหน้าที่เขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองด้วย แม้ว่าภาพรวมของบทหนังจะยังไม่ได้รู้สึกสดใหม่และสร้างความยูนีคในตัวเองสักเท่าไหร่ แต่ภายใต้ความคลีเช่แบบฉบับเกาหลี ยังเป็นสูตรสำเร็จที่ส่งสารถึงคนดูได้อย่างตรึงใจตรึงตา

ตามที่กล่าวไปแล้วว่า บทและโครงเรื่องของหนังมีความเป็นสูตรสำเร็จที่ไม่ว่าอย่างไรก็เอาคนดูไว้อยู่หมัดไปตลอดทั้งเรื่อง ทั้งในส่วนการผจญภัยที่ขยายขอบเขตได้มากขึ้น งานแอคชั่นที่ฉีกกรอบเดิมๆ ได้ยิ่งขึ้น และยังมีโหมดดราม่าเรียกน้ำตาตามสไตล์แบรนด์โคเรียน เรียกได้ว่าสนุกได้ครบทุกอรรถรส ถึงแม้จะมองว่าตัวหนังยาวไปสักหน่อย และยังมีบางจุดที่ค่อนข้างเกริ่นนานและยืดเยื้อไปหน่อย

รอยรั่วต่างๆ ในหนังได้ถูกอุดเอาไว้ได้ด้วยงานออกแบบฉากและเทคนิคพิเศษต่างๆ

รีวิวหนังฝรั่ง Space Sweepers

ที่งัดเอาออกมาใช้แบบน่าทึ่ง นี่เป็นหนังผจญภัยอวกาศเรื่องแรกของชาติ แต่พวกเขาสร้างสรรค์ออกมาได้เหมือนกับว่าเคยทำแนวๆ นี้ออกมาหลายเรื่องแล้ว บรรดาฉากนอกโลกยิ่งว่าตระการตา เมื่อต้องมาเจอฉากแอคชั่นต่อสู้กลางอวกาศยิ่งขนลุก ถึงจะมีความคล้ายๆ กับหนังสตาร์วอร์สอะไรทำนองนั้น แต่นี่มันคือหนังเอเชีย

จุดที่หนังทำได้ดีตามมาตรฐาน อันจะขอกล่าวถึงก่อน คือการใส่รสปรุงที่เป็นเอกลักษณ์ของงานเกาหลีที่ว่า บทเด่นดราม่า เชิดหน้าชูตางานแสดง โดยการเลือกสร้างกลุ่มละครตัวนำที่น่าสนใจ ที่มีทั้งสาวแกร่งเกินหน้าผู้ชายอย่าง กัปตันจาง (คิมแทรี) นักขับยานหน้าตาดีแต่ยาจกที่มีปมอดีตสุดดราม่าอย่าง แทโฮ (ซงจุนกิ) ช่างเครื่องนักเลงหัวไม้แต่ใจดีอย่าง ไทเกอร์พัค (จินซอนคยู) และหุ่นยนต์ปากกวนอวัยวะอย่าง บั๊บ (ยูแฮจิน) ถึงแม้จะดูแตกต่างกันมาก แต่ก็สามารถเอามารวมกลุ่มกันได้เคมีลงตัวมาก ๆ และความเก่งคือเป็นการเลือกตัวแทนของคนชายขอบหลายแบบ ที่น่าตื่นเต้นสุด ๆ คือการให้เจ้าหุ่นบั๊บแทนกลุ่มทรานส์เจนเดอร์ที่ไม่ค่อยได้เห็นในงานแมสของเกาหลีบ่อยนัก

และแต่ละตัวละครก็มีปมอดีต หรือปมดราม่าของตัวเองที่ไม่มากไม่น้อย พอให้ประคองไปกับเรื่องได้ไม่ไร้รสชาติ อย่างตัวพระเอกที่มีปมเรื่องลูกสาวก็สามารถใช้แฟลชแบ็กราว ๆ 5 นาที แต่เล่าได้จับใจคัดมาเน้น ๆ แล้วไม่ต้องยืดเยื้อ แต่เอามาใช้เกลาตัวละครแทโฮนี้ได้ทั้งเรื่องเลย พวกรายละเอียดในบทเล็ก ๆ น้อยแต่ได้ผลมากนี้ล่ะ ที่น่าสนใจ น่าเอาแบบอย่างมากทีเดียวสำหรับงานบันเทิงไทย

จุดที่ทำได้ดีเกินคาด ไปพอสมควร ก็คืองานโพรดักชันที่รู้อยู่แล้วว่าต้องจัดเต็ม ซีจี โมชันแคปเจอร์ เอฟเฟกต์ พร็อป ฉาก คอสตูม เพราะเห็นบางส่วนมาจากเทรลเลอร์แล้ว ทว่าหนังจริงก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนอ่อนข้อ เพราะตลอดความยาว 2 ชั่วโมงหน่อย ๆ หนังไม่มีดรอปมาตรฐานเลย มีหลุดเล็กน้อยบางช็อตเท่านั้นที่ยังหลอก ๆ ตา

ขณะที่บรรดาทีมนักแสดงไม่รู้สึกห่วงอะไรเลย

แคสติ้งที่คัดเลือกมาในหนังเรื่องนี้คือดรีมทีมสุดๆ ซงจุงกิคือเสน่หล้นหลาม “คิมแทริ” ก็ทรงพลังไปกับภาพนักสู้สาวตัวเล็กๆ แต่ไม่ยอมแพ้ “จินซันกยู” ขโมยซีนได้เป็นอย่างดี แม้กระทั่งซุปตาร์หนังเกาหลี “ยูแฮจิน” แม้จะมาแค่เสียงพากย์เป็น ‘บั๊บส์’ (แต่จริงๆ เขาก็เข้าฉากร่วมแสดงด้วย) แต่ก็สร้างสีสันให้กับหนังได้เป็นอย่างดี

หนึ่งในความลงตัวที่สัมผัสได้ชัดๆ ในหนังเรื่องนี้ก็คือการตัดปัญหาและทำให้ไม่มีอุปสรรคด้านภาษาและการสื่อสาร ตัวละครฝั่งเกาหลีก็พูดภาษาตัวเองไป ในขณะที่ตัวละครจากชาติอื่นๆ ก็พูดภาษาตัวเองเช่นเดียวกัน และตัวละครต่างก็สื่อสารโต้ตอบกันได้อย่างดี แม้ว่าจะคุยกันคนละภาพ อาจจะเป็นกิมมิกที่ดูแปลกๆ แต่หนังก็ลงรายละเอียดซ่อนเอาไว้แล้วว่า ทุกคนใส่หูฟังสื่อสารแปลภาษาเอาไว้นั่นเอง

กลับกลายเป็นว่า Space Sweepers เป็นหนังผจญภัยอวกาศที่ไม่ได้มีขอบเขตเล่าเรื่องในส่วนของชาติตัวเอง แต่ยกระดับความสากลเข้าไปในหนังอย่างกลมกล่อม ถึงแม้ว่าจะแอบเสียดายเล็กๆ ที่ดูจากสเกลของหนังแล้ว ก็สมควรที่จะได้ออกฉายบนจอใหญ่ยักษ์ในโรงหนังมากกว่า แต่เพราะสถานการณ์และความจำเป็นก็น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ยากอยู่ไม่น้อย ที่ต้องเลือกเปลี่ยนมาฉายสตรีมมิ่ง ทำให้ผู้ชมพลาดโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้แบบภาพและเสียงสมจริงแบบที่ควรจะเป็น

โดยในภาพรวมของ Space Sweepers นับว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ของวงการหนังเกาหลี ด้วยงานสร้างที่ละเอียดและตระการตาสมค่ำร่ำลือ แม้ว่าโครงเรื่องต่างๆ จะไม่ได้แปลกใหม่และพอจะเดาทิศทางได้แล้ว แต่หนังก็มอบความบันเทิงได้ตรงตามจุดประสงค์ที่ต้องการจะมอบให้ถึงคนดู ถือว่าสมศักดิ์ศรีกับการออกสู่จักรวาลของวงการหนังเกาหลีใต้เสียจริง

กลุ่มตัวเอก 4 คนในเรื่องคือพนักงานเก็บขยะอวกาศ รีวิวหนังฝรั่ง Space Sweepers

ที่เป็นชื่อเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็มี “แทโอ” พระเอกของเรื่องเล่นโดย ซง จุง-กี รับบทเป็นนักบินหลัก ที่มีอดีตฝังใจเรื่องลูกสาว และต้องการเงินเพื่อนำมาใช้ในการนี้ “กับตันจาง” เจ้าของยานลำนี้ เล่นโดย “คิม แทรี”  นักแสดงสาวที่เริ่มเล่นครั้งแรกจากหนังดัง  The Handmaiden ในบทสาวรับใช้ และอีกสองคนคือ “ไทเกอร์ พัค” ตำแหน่งควบคุมป้อนพลังงานเครื่องยนต์ กับ “บั๊บส์” อดีตหุ่นยนต์สงครามที่กลายมาเป็นสายบู๊นักรบประจำยาน ซึ่งทั้ง 4 คนนี้บังเอิญไปเจอกับเด็กหญิงตัวน้อยที่กุมความลับสำคัญของมนุษย์ชาติไว้ และต้องช่วยปกป้องเธอจากภัยคุกคามจากการตามล่าของผู้ก่อการร้ายที่ชิงตัวเธอมาจาก UTS

ตัวเรื่องดูเผินๆ นี่เกือบเหมือน การ์เดียนส์ออฟเดอะกาแล็กซี่ ของมาร์เวลเลยก็ว่าได้ เพราะเริ่มจากกลุ่มตัวละครที่ดูเหมือนไม่ค่อยเอาไหน แถมมีประวัติไม่ดี แต่มีทักษะเฉพาะทางโดดเด่นมารวมตัวกันเพื่อหวังเงิน แต่กลายมาเป็นทีมกู้โลกกู้จักรวาลกันเลยทีเดียว ซึ่งตัวเรื่องถ้าฉายโรงแล้วประสบความสำเร็จก็มีโอกาสทำต่อ เพราะบทในเรื่องนี้ถูกปูไว้ให้ทำต่อได้สบายๆ การที่เรื่องเน้นทักษะในการเก็บขยะอวกาศ ก็มีอิงที่มากับโครงสร้างเรื่องที่ว่า UTS สร้างอาณานิคมและก็ทำให้เกิดขยะจากซากชิ้นส่วนต่างๆ มหาศาลจนกลายเป็นมลภาวะขนาดใหญ่ที่มีโอกาสทำให้คนที่ใช้ชีวิตในอวกาศและบนโลกได้รับอันตรายจากการพุ่งชนได้ ซึ่งจุดนี้ก็ถูกนำมาใช้เป็นที่มาของบาดแผลในใจของพระเอกที่เกิดกับลูกสาวของเขาในเรื่องด้วย

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *