รีวิวหนังฝรั่ง JIGSAW
เรื่องราวในภาคนี้เกิดขึ้นเมื่อตำรวจได้พบศพที่ล้วนจบชีวิตอย่างสุดสยอง จากเกมเอาชีวิตรอดสุดวิปริต หลักฐานทุกชิ้นจากการสืบสวนล้วนชี้ไปที่ จอห์น เครเมอร์ หรือ จิ๊กซอว์ ฆาตกรสุดโหดที่ตายไปแล้วหลายปี ดูหนังออนไลน์ แล้วใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเกมสุดสยองครั้งใหม่นี้ ในเมื่อ จอห์น เครเมอร์ ตัวจริงได้ตายไปแล้ว? เล่าแค่นี้แหละ หนังแบบนี้ยิ่งรู้น้อยยิ่งดูสนุก ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
การกลับมาทวงบัลลังก์หนังสยองขวัญของแฟรนไชส์ Saw ที่เว้นช่วงจากภาคก่อนหน้าถึง 7 ปีถ้านับตามการเรียงลำดับภาค Jigsaw ก็คือภาคที่ 8 ภาคนี้ดูจะเป็นการยกเครื่องเรื่องราวที่ดูเหมือนจะเป็นการรีบู๊ตกลาย ๆ หนังได้พี่น้อง ไมเคิล และ ปีเตอร์ สปีริก มารับ หน้าที่กำกับ ผลงานของพี่น้องคู่นี้น่าเชื่อถือดีครับ Predestination (2014) เป็นหนังฟอร์มเล็ก ดูหนังฟรี ที่ดูแล้วชวนอึ้งกับพลอตและแนวคิดเรื่องมาก ซึ่งพี่น้องสปีริกก็ดูจะเอาไอเดียเรื่องช่วงเวลามาใส่ไว้ใน JIGSAW ด้วยเช่นกัน
จากหนังสยองขวัญทุนต่ำที่แสดงคุณภาพความเจ๋ง รีวิวหนังฝรั่ง JIGSAW
ที่ทำให้คนดูแหวกแดร๊กกันไปในภาค 1-3 ที่ดูแล้วต้องอึ้งทึ่งเสียว หลังจากนั้นหนังเริ่มออกทะเลไปเรื่อยๆ การเชื่อมโยงของเนื้อเรื่อง การหักมุม วิธีเปิดเผยการหลอกคนดูเริ่มกร่อยลงๆ เรื่อยๆ แต่สเน่ห์ของอุปกรณ์และวิธีฆ่าที่โหดเลือดสาดของ จอห์น เครเมอร์ ก็ยังคงเรียกคนดูได้อยู่บ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ จอห์น เครเมอร์ ตายเพราะมะเร็งสมองไปแล้ว แต่กลับมีภาคใหม่ออกมา แฟนๆ ของซีรี่ย์ SAW ก็ย่อมต้องอยากดูและหวังจะเห็นการ Comeback ของ JIGSAW อย่างจดจ่อ
เมื่อการตามไล่ล่าจับกุมผู้ร้ายของนักสืบฮอโรแรน (Callum Keith Rennie) กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเกมครั้งใหม่ที่สร้างความสยดสยองในสภาพศพ ถูกแขวนคอในลักษณะที่ศรีษะมีหน้ากากเหล็กครอบอยู่ ต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการชันสูตรมาช่วยเหลือ
และนั่นทำให้ฮอโรแรนได้พบกับ โลแกน (Matt Passmore) และเอเลนอร์ (Hannah Emily Anderson) ผู้ซึ่งดูมีเงื่อนงำและไม่น่าไว้ใจ ฮอโรแรนจึงสืบสองคนนี้เพิ่ม นอกเหนือจากการสืบเอาจากศพที่พบก่อนหน้านั้น
ก่อนอื่นขอย้อนถึง SAW (2004) ภาพยนตร์แจ้งเกิดในเส้นทางผู้กำกับสายสยองขวัญของ เจมส์ วาน ถือเป็นหนังฟอร์มเล็กทุนต่ำ แต่กลับดังเปรี้ยงจนกลายเป็นตำนานไปแล้ว ในเรื่องของไอเดียสดใหม่ ความโหดดิบ คาแร็คเตอร์ฆาตกรที่มีเอกลักษณ์ พล็อตเรื่องสุดเจ๋งที่หักมุมแบบตบหน้าคนดูหงายเงิบ และถูกพูดถึงมาจนปัจจุบัน.. หลังจาก SAW ภาคแรกประสบความสำเร็จเกินคาด ก็ทำให้มี SAW ภาคต่อออกมาอีก 6 ภาค เรียกว่าแทบจะทุกปี ซึ่งคนที่เป็นแฟนหนังเรื่องนี้ที่ติดตามมาทุกภาค น่าจะรู้สึกเหมือนกันว่า ทำไมภาคหลังๆ มันเริ่มออกทะเล เริ่มแถไปเรื่อย ไม่น่าทำออกมาเลย อย่างนั้นอย่างนี้.. แต่ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องมันจะแกว่งไปบ้าง แต่ด้านความโหดเลือดสาด ไอเดียกับดักต่างๆ นั้น จัดว่าสนองนีดคอหนังโหดซาดิสม์ได้อยู่เสมอ
หลังจากภาคสุดท้าย SAW 3D : The Final Chapter (2010)
ซึ่งบอกตามตรงเลยว่าจำเนื้อเรื่องไม่ค่อยจะได้แล้ว จะพอจำได้ชัดๆ แค่ภาค 1-4 เท่านั้น.. จนมาถึงปีนี้ SAW ภาคล่าสุด (ภาคที่ 8) กลับมาอีกครั้งในชื่อใหม่ว่า JIGSAW ตอนเปิดตัวครั้งแรกก็แทบไม่เชื่อสายตาว่ามันจะทำออกมาอีกจริงๆ พอได้ดูตัวอย่างหนังเท่านั้นล่ะ ภาพของ SAW ภาคก่อนๆ นี่ย้อนกลับมาเลย ความรู้สึกตื่นเต้น หวาดเสียว ทำให้อะดรีนาลีนมันพุ่งพล่านด้วยความอยากดู!
เรื่องราวในภาคนี้เกิดขึ้นเมื่อตำรวจได้พบศพที่ล้วนจบชีวิตอย่างสุดสยอง จากเกมเอาชีวิตรอดสุดวิปริต หลักฐานทุกชิ้นจากการสืบสวนล้วนชี้ไปที่ จอห์น เครเมอร์ หรือ จิ๊กซอว์ ฆาตกรสุดโหดที่ตายไปแล้วหลายปี.. แล้วใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเกมสุดสยองครั้งใหม่นี้ ในเมื่อ จอห์น เครเมอร์ ตัวจริงได้ตายไปแล้ว? เล่าแค่นี้แหละ หนังแบบนี้ยิ่งรู้น้อยยิ่งดูสนุก
ความรู้สึกจากที่ได้ดูรอบสื่อมาแล้ว ต้องบอกว่า JIGSAW หรือ SAW ภาคที่ 8 นี้ เป็นภาคที่ดูสนุกมากกกกก สนุกตั้งแต่วินาทีแรก กระชับฉับไว ไม่น่าเบื่อ ที่สำคัญคือดูแล้วไม่งง ด้านงานภาพ เสียง และมุมกล้องเรียกว่าสุด หลุดออกมาจากความหนังเกรดบี ได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนเรื่องความโหดเลือดสาดนั้นขนาดไหน? ต้องบอกว่า กำลังดี! ไม่มากไม่น้อยไป
ไม่ต้องเห็นเต็มๆ ไปซะทุกฉากทุกซีนจนชวนอ้วก.. ความสนุกของการดูหนังตระกูล SAW มีอยู่ 2 อย่าง 1 คือการมาดูตัวละครเอาชีวิตรอดจากเกมกับดักสุดวิปริต แน่นอนว่าไอเดียกับดัก และฉากตายต่างๆ กลายเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งของหนังไปแล้ว บางคนมาดูเพื่อสิ่งนี้เท่านั้น เรียกว่านักเสพการ ทรมานบันเทิง กับ 2 การมาดูว่าหนังจะบิดมุมอะไรมาหลอกเรา และเราก็มักจะถูกหนังหลอกจนหัวทิ่มอยู่เสมอ จนบางทีต้องตีตั๋วไปดูจับผิดอีกรอบก็มี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมในการดู บางคนชอบก็ชอบเลย บางคนไม่ชอบก็อาจจะบอกว่า ‘แบบนี้ก็ได้เหรอ?’ แต่ส่วนตัวแอดรู้สึกว่าภาคนี้มีความ แถ อยู่บ้าง แต่ยังอยู่ในระดับที่รับได้
ในวันเก่า ช่วงที่หนังสยองขวัญในตำนานอย่าง ‘Saw’ ผงาดในโลกเซลลูลอยด์ ผมยังเป็นพวกที่สยดสยองไม่กล้าจะดูหนังพวกนี้อยู่เลย พอมาในวันนี้ ที่ผมไม่รู้สึกครั่นคร้ามกับหนังแนวนี้อีกต่อไป ‘เกมต่อตัดตาย’ เลยกลายเป็นภาคแรกในซีรีส์นี้พี่ผมได้ดูมันจริงๆ
สิ่งที่ผมเชื่อมั่น ว่ามันจะขาดหายไปแน่ๆ คือความฟินและมีอารมณ์ร่วมในสิ่งที่รู้จักและผูกพันมาตลอด 7 ภาค แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยดูมาก่อนแล้วจะไม่รู้เรื่องอะไร เพราะตัวหนังก็ยังมีพื้นที่พอให้คนเพิ่งมาได้นั่งทำความเข้าใจตามเรื่องได้อยู่นั่นเอง
ว่ากันในฉากของตามมุมเมืองที่มีการพบศพ หนังมีการหลอกล่อคนดู
ด้วยการทำให้คนดูคิดตามและสังเกตพฤติกรรมของตัวละครให้ดูน่าฉงนสงสัยไปซะทุกคน ถ้าใครที่ชอบหนังแนวปริศนา หนังหยอดปริศนาและเบาะแสให้คนดูทั้งเรื่อง หนังหลอกล่อและมาพร้อมกับตามหักมุมที่แทบจะต้องปรบมือให้ในความพยายามจริง ๆ
ภาพยนตร์แนวนี้จึงต้องบอกว่าเป็นทุกภาคของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างจะได้คำวิจารณ์ในด้านลบ เพราะว่าหนังสยองขวัญขนาดนี้มันเป็นหนังที่ทำออกมาเอาใจคนดูเฉพาะกลุ่ม คนที่เป็นแฟนคลับน่าจะชื่นชอบและลุ้นในภาคต่อ ๆ ไปอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่จะนำมาฆ่าคนจะเป็นอะไรบ้าง
หนังเปิดเรื่องมาด้วยเหตุการณ์ระทึก รีวิวหนังฝรั่ง JIGSAW
เมื่อมีศพปรากฏขึ้นตามจุดต่าง ๆ ในเมือง เมื่อชันสูตรพบว่ามีหลักฐานหลายจุดยืนยันว่าเป็นฝีมือของจิ๊กซอว์ที่ตายไปแล้วเป็น 10 ปี กลายเป็นปริศนาตัวโต ที่ชวนสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรกัน จากนั้นหนังก็เริ่มเล่าเรื่องราวใน 2 เหตุการณ์คู่ขนาน ฟากหนึ่งคือเหยื่อชุดใหม่ 5 คนของ จิ๊กซอว์ ที่ถูกจับมาเล่นเกมชำระบาป ที่แต่ละด่านจะต้องมีเหยื่อสละชีพ 1 ราย แล้วแต่ละรายก็จะถูกนำไปทิ้งในที่สาธารณะ โยงเรื่องราวอีกฝั่งหนึ่งที่มีนักสืบฮอลโลแรน รับหน้าที่ไขปริศนาคดีนี้ ร่วมกับโลแกน แพทย์ที่ทำหน้าที่ชันสูตรศพ
หนังเดินเรื่องได้ชวนระทึกน่าติดตามทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งเหยื่อโชคร้ายก็ยังคงยึดธรรมเนียมของหนัง SAW ด้วยบรรดาอุปกรณ์สุดโหดในหลาย ๆ ด่าน ที่ดูไปร้องยี้ไป ลุ้นกันไปแต่ละด่านว่าเกมอะไรจะโผล่มา แล้วใครจะรอดเป็นคนสุดท้าย สภาพศพชวนแหวะมากครับ สภาพศพเละ ๆ ก็จ่อให้เห็นกันชัด ๆ กันไปเลย สภาพศพหัวโดนตัดครึ่งก็แช่ให้ดูกันนาน ๆ เอาให้สภาพจิตตายด้านกันไปข้าง
ส่วนฝั่งสืบสวนก็สนุกไปกับบทที่เขียนมาล่อหลอกคนดู
บทหนังเขียนให้ตัวละครทุกตัวดูมีพฤติกรรมน่าสงสัยกันหมด เดี๋ยวก็เดากันว่าคนนั้น คนนี้ ก่อนจะมาเฉลยกันใน 5 นาทีสุดท้าย ด้วยซีนที่นิยมกันในหนังหักมุม ตัดภาพย้อนหลังสั้น ๆ ไปทีละช่วงที่หนังหยอดปริศนาไว้ทั้งเรื่อง ถ้ามองในด้านความพยายามล่อหลอกหักมุมก็ต้องตบมือให้กับความตั้งใจและความละเอียดในการไล่ปิดทุกช่องที่เปิดไว้ได้หมดสิ้น และการดึง จิ๊กซอว์ หรือ จอห์น เครเมอร์ กลับมาได้โดยไม่น่าเกลียดเกินไปนัก แต่ก็ดูด้วยความบันเทิงและทำใจรับว่านี่คือฮอลลีวู้ด อย่าอิงหลักความเป็นจริงเพราะมันดูโม้มากเวอร์มาก และเป็นการเฉลยแบบรวดเร็วฉับไวไม่รอคนดู เดินออกจากโรงมายังต้องไล่เรียงความทรงจำทำความเข้าใจต่ออีกเล็กน้อย ช็อตสุดท้ายปิดได้สวยตามรูปแบบของหนัง SAW ด้วยการเลื่อนประตูปิดใส่คนดูเหมือนฉากจบในภาคแรก เป็นการบอกนัย ๆ ว่า นี่คือการสานต่อตำนาน Saw ครั้งใหม่แล้วนะ