รีวิวหนังฝรั่ง The Dark Knight Rises
เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จากการ์ตูนชุดมนุษย์ค้างคาว มีกำหนดการเข้าฉายในเดือนกรกฎาคม ปีค.ศ. 2012 เป็นภาพยนตร์ภาคที่สาม และภาคสุดท้ายในไตรภาคมนุษย์ค้างคาวที่กำกับโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน ต่อจากภาพยนตร์เรื่องแบทแมน บีกินส์ (Batman Begins, 2005) และแบทแมน อัศวินรัตติกาล (The Dark Knight, 2008) กำกับภาพยนตร์โดย คริสโตเฟอร์ โนแลน ดูหนัง เขียนบทโดยตัวโนแลนเองและโจนาธาน ผู้เป็นน้องชาย ดูหนังออนไลน์ นำแสดงโดยคริสเตียน เบล, ไมเคิล เคน, แกรี่ โอลด์แมน, และมอร์แกน ฟรีแมน ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาระบุว่า เนื้อเรื่องของภาคนี้จะดำเนินต่อจากภาคอัศวินรัตติกาลเป็นเวลา 8 ปี และจะมีตัวร้ายหลักคือเซลีนา ไคล์ และเบน (นำแสดงโดยแอนน์ ฮัทธาเวย์ และทอม ฮาร์ดี้ ตามลำดับ) ดูหนังฟรี
เป็นหนึ่งในหนังที่ถูกตั้งความหวังไว้มากที่สุดในปี2012เพราะเป็นหนังจบไตรภาคBatmanสุดยิ่งใหญ่ของ Christopher Nolan
บวกกับการที่สองภาคแรกสร้างมาตรฐานไว้ดีมากถึงมากที่สุด เลยไม่แปลกที่จะกลายเป็นตัวเต็งหนึ่งในหนังทำเงินแห่งปี เนื่องจากภาคที่แล้วในThe Dark Knight ได้ทำไว้ดีมากถึงขนาดที่ว่ายากที่จะทำภาคต่อออกมาได้เหนือกว่าจึงเป็นที่น่าจับตามองว่าNolanจะทำอย่างไหร่ให้ภาคนี้ทำได้ไม่แย่กว่าหรือดีเทียบเท่าภาคที่แล้ว แน่นอนว่าเนื้อเรื่องต้องเข้มข้นและเข้าถึงคนดูในวงกว้างได้ง่ายมากขึ้น อาจจะเพิ่มบทบู๊ให้ได้หวือหวามากขึ้นและแน่นอนว่าจะต้องหาตัวร้ายหลักของเรื่องที่คู่ควรแก่การจดจำเหมือนอย่างที่Heath Ledger ได้ทำไว้ในภาคที่แล้วในบทของJoker
ซึ่งภาคนี้ตัวร้ายหลักที่เราได้เห็นในตัวอย่างก็คือBane มนุษย์หน้ากากสุดแข็งแกร่งและCatwomanซึ่งเท่าที่เห็นบทของเธออาจจะไม่ใช่ตัวร้ายเต็มตัวสักเท่าไหร่นักเพราะจริงๆแล้วCatwoman เป็นตัวละครที่เป็นAnti-Hero ซะมากกว่า ฉะนั้นความหวังทั้งปวงจึงไปตกอยู่บนบ่าของBane ซึ่งรับบทโดยนักแสดงเจ้าบทบาทอย่างTom Hardy ที่เพิ่งแสดงในInception ของNolan ไปหมาดๆ Baneเป็นตัวร้ายที่เคยปรากฏตัวในโลกภาพยนต์ไปแล้วใน Batman&Robin ในปี1997 ซึ่งในตอนนั้นBaneเป็นแค่ตัวร้ายโง่ๆที่เป็นลูกสมุนของPoison Ivy ซึ่งไม่ได้มีบทบาทอะไรที่น่าจดจำเลยสักนิดครับ การที่หนังเลือกBaneมาเป็นตัวร้ายหลักในการจบไตรภาคนี้จึงเกิดคำถามตามมามากมายว่า Baneคู่ควรหรือไม่กับการเป็นตัวร้ายหลักของเรื่อง ซึ่งถ้าจะว่ากันในแบบฉบับComicต้องบอกว่าBaneคู่ควรครับ เพราะจริงๆแล้วBaneไม่ได้ง่อยเหมือนในเรื่องBatman&Robin ซ้ำแล้วยังเป็นคนที่ทำให้Bruce WayneหรือBatman เกือบเอาตัวไม่รอดเลยด้วยซ้ำ
เล่าถึง แปดปีหลังจากเหตุการณ์ในแบทแมน อัศวินรัตติกาล เมืองก็อทแธมกลายเป็นเมืองที่สงบ
ด้วยอำนาจจากกฎหมายเดนท์ ทำให้ผู้บัญชาการตำรวจเจมส์ กอร์ดอนสามารถกำจัดองค์กรอาชญากรรมและอาชญากรรมที่รุนแรงได้ หากแต่กอร์ดอนยังคงรู้สึกผิดกับการปกปิดสิ่งที่ฮาร์วีย์ เดนท์เคยทำ เขาตั้งใจที่จะเปิดเผยแผนการปกปิดในงานเลี้ยงที่จัดเพื่อเป็นเกียรติกับเดนท์ แต่ตัดสินใจที่จะยังไม่บอกเพราะคิดว่าเมืองนี้ยังไม่พร้อมจะรับรู้ความจริง ระหว่างการติดตามเบาะแสคดีลักพักตัว ส.ส. จากงานเลี้ยงก่อนหน้า กอร์ดอนถูกลูกน้องของเบนจับตัว สุนทรพจน์ที่กอร์ดอนเตรียมไว้เพื่อเปิดเผยความจริงจึงตกไปอยู่ในมือของเบน เขาสามารถหนีมาได้แต่ถูกยิง ขณะอยู่ในโรงพยาบาล กอร์ดอนเลื่อนขั้นให้เจ้าหน้าที่สายตรวจจอห์น เบลคขึ้นเป็นนักสืบ และให้เบลครายงานขึ้นตรงต่อเขา
ในเวลาที่แบทแมนหายตัวไปจากเมืองก็อทแธม บรูซ เวย์นก็หายตัวไปเช่นกัน โดยขังตัวเองอยู่ในคฤหาสน์เวย์น เวย์นเอนเตอร์ไพร์ซกำลังตกอยู่ในภาวะถดถอยหลังจากที่เขาลงทุนไปในโครงการพลังงานสะอาดของมิแรนดา เทต ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้กำเนิดพลังงานฟิวชัน แต่บรูซตัดสินใจปิดโครงการลงเนื่องจากได้ยินมาว่าแกนของเตาปฏิกรณ์สามารถถูกนำไปดัดแปลงกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์ได้ เบลค ผู้สามารถอนุมานตัวตนที่แท้จริงของแบทแมน และกอร์ดอนต่างก็เรียกร้องให้แบทแมนกลับมา แต่อัลเฟรด เพนนีเวิร์ธ พ่อบ้านประจำตระกูลเวย์น คัดค้านเรื่องนี้เนื่องจากเป็นห่วงอนาคตของบรูซ และเมื่อบรูซตัดสินใจกลับไปเป็นแบทแมนเต็มตัว ก็ตัดสินใจลาออก
เบนกับพรรคพวกบุกตลาดหุ้นเพื่อสวมรอยเป็นบรูซ และใช้สินทรัพย์ทั้งหมดของบรูซลงทุนในหุ้นสุ่มเสี่ยง ทำให้บรูซล้มละลายและเสียตำแหน่งบริหารในเวย์นเอนเตอร์ไพร์ซไป บรูซสันนิษฐานได้อย่างถูกต้องว่า จอห์น แด็คเกตต์ สมาชิกคณะกรรมการบริษัท ได้ว่าจ้างเบนให้ทำการเช่นนี้เพื่อยึดอำนาจของเขา เขาจึงมอบอำนาจทั้งหมดในมิแรนดา เทตก่อนที่จะตกถึงมือของแด็กเกตต์ แด็กเกตต์ที่ถูกตลบหลังจึงแสดงความไม่พอใจต่อเบน หารู้ไม่ว่าเบนมีแผนการอื่น เบนจึงฆ่าแด็คเกตต์ทิ้งเสียเพื่อใช้ทรัพยากรของแด็คเกตต์
แบทแมนตามรอยเซลีนา ไคล์ หัวขโมยตีนแมวไปหาเบน รีวิวหนังฝรั่ง The Dark Knight Rises
เขาเผชิญหน้ากับเบน ที่บอกว่าตัวเองเป็นหัวหน้าของพันธมิตรแห่งเงาตั้งแต่ตอนที่ราซ อัล กูลตาย เบนเปิดเผยว่าเขากำลังใช้บริษัทก่อสร้างของแด็คเกตต์ในการปล้นแผนกวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ซึ่งเป็นที่รวบรวมอุปกรณ์ไฮเทคของแบทแมน แบทแมนกับเบนสู้กัน โดยเบนสามารถเอาชนะแบทแมน และทำการหักสันหลังของแบทแมน ก่อนจะนำเขาไปขังคุกที่ว่ากันว่าไม่มีใครเคยหลบหนีออกไปได้ ยกเว้นเด็กคนหนึ่งที่ถูกขับดันด้วยความจำเป็น และความมุมานะอย่างมาก
เบนล่อตำรวจแทบทั้งหมดในเมืองก็อทแธมลงใต้ดิน ก่อนที่จะกดระเบิดที่ถูกติดตั้งไว้ทั่วเมือง ทำให้ตำรวจเกือบทั้งหมดต้องติดอยู่ใต้ดิน เปลี่ยนเมืองก็อทแธมที่เคยสงบให้กลายเป็นเมืองปกครองตนเองที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว เบนขู่ว่าถ้ามีใครพยายามจะออกจากเมือง เขาจะกดระเบิดแกนฟิวชั่น ต่อมาเบนก็เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับฮาร์วีย์ เดนท์ ตามมาด้วยการปล่อยนักโทษทั้งหมดออกมาจากเรือนจำแบล็คเกต คนรวยและผู้มีอำนาจถูกจับตัวไปให้โจนาธาน เครน (จากแบทแมน บีกินส์) พิพากษา ระหว่างนั้นรัฐบาลพยายามที่จะลักลอบส่งหน่วยรบพิเศษเข้ามาในเมืองแต่ก็ล้มเหลว จึงทำการปิดล้อมเมืองก็อทแธม เมืองทั้งเมืองจึงตกอยู่ในความวุ่นวายไร้ขื่อแป
ในขณะเดียวกัน เวย์นฟื้นตัวขึ้นมาจากอาการบาดเจ็บ และฝึนฝนตนเองเพื่อกลับมาเป็นแบทแมนอีกครั้ง เขาหนีออกจากคุกได้สำเร็จ หลังจากพยายามมาหลายครั้ง และมุ่งหน้ากลับไปยังก็อทแธม โดยเกณฑ์ไคล์, เบลค, เทต, กอร์ดอน และลูเซียส ฟอกซ์มาร่วมช่วยเหลือการปลดปล่อยเมือง และหยุดการระเบิดของแกนฟิวชั่น ที่ใกล้จะเสื่อมสภาพและจะระเบิดในอีกไม่กี่ชั่วโมง แบทแมนปลดปล่อยตำรวจออกมาจากใต้ดินและเผชิญหน้ากับเบนอีกครั้ง คราวนี้แบทแมนสามารถเอาชนะเบนได้ แต่เทตกลับแทงแบทแมน และเปิดเผยว่าตัวเองคือทาเลีย อัล กูล ลูกสาวของราซ อัล กูล และบอกกับแบทแมนว่าเธอเองที่เป็นคนสามารถหนีออกจากคุกมาได้ ก่อนที่จะกลับไปหาพ่อของเธอและกลับไปพร้อมกับพันธมิตรแห่งเงาเพื่อช่วยเบน ซึ่งเป็นคนที่ช่วยให้เธอหนีออกมาได้ เธอวางแผนที่จะสานต่อแผนการของพ่อให้เสร็จด้วยการทำลายล้างก็อทแธมและแก้แค้นความตายของพ่อที่แบทแมนเป็นคนก่อ
กอร์ดอนสามารถสกัดกั้นสัญญาณรีโมตระเบิดจากระยะไกลไว้ได้
ในขณะที่ไคล์สามารถช่วยชีวิตแบทแมนไว้ได้ด้วยการฆ่าเบน แบทแมนจึงทำการไล่ล่าทาเลีย โดยพยายามต้อนเธอให้พาระเบิดกลับไปยังเตาปฏิกรณ์ ซึ่งจะทำให้แกนฟิวชั่นกลับมาเสถียร แต่ก่อนที่จะทำได้ เธอก็ปล่อยน้ำเข้าไปในเตาปฏิกรณ์ เธอเสียชีวิตลงเมื่อรถบรรทุกระเบิดพลิกคว่ำ แต่ก่อนตายเธอพูดกับแบทแมนอย่างมั่นใจว่าไม่มีทางหยุดระเบิดได้อีกแล้ว หากแต่แบทแมน ใช้ยานเดอะแบท (ประดิษฐ์โดยลูเซียส ฟอกซ์) พาระเบิดออกไปยังอ่าวก็อทแธม พ้นจากรัศมีของเมือง แล้วแกนฟิวชั่นก็ระเบิดออกกลางมหาสมุทร
ใครๆ ก็คิดว่าแบทแมนตายจากวีรกรรมครั้งนี้ แบทแมนจึงถูกยกย่องเป็นวีรบุรุษ ในขณะที่คนสันนิษฐานว่าบรูซ เวย์นคงจะเสียชีวิตระหว่างเกิดเหตุจลาจล ฟ็อกซ์พยายามจะแก้ไขข้อบกพร่องในระบบนักบินอัตโนมติของยาน แต่พบว่าบรูซแก้ไขมันไปแล้วหกเดือนก่อนหน้า ในตอนท้าย อัลเฟรดเห็นเวย์นกับไคล์อยู่ด้วยกันที่ร้านกาแฟในอิตาลี ในขณะที่พินัยกรรมของบรูซระบุให้เบลค ซึ่งมีชื่อหน้าที่แท้จริงว่า “โรบิน” ได้รับถ้ำค้างคาวเป็นมรดกตกทอด
เรื่องราวในภาคนี้ค่อนข้างเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงมากกว่าภาคที่แล้วและมีความตรงไปตรงมาเช่นเดียวกับการต่อสู้ระหว่างBatmanกับBaneที่จะว่าด้วยเรื่องของพละกำลังความแข็งแกร่งมากกว่าการชิงไหวชิงพริบอย่างเช่นตอนที่ต่อสู้กับJoker ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับเพราะจะได้ไม่ซ้ำแนวกับภาคที่แล้วในขณะเดียวกันภาคนี้ค่อนข้างมีการFocusไปที่ตัวละครใหม่หลายตัวเหมือนกันครับอย่างเช่นCatwoman, Miranda สาวปริศนาขวัญใจคนใหม่ของBruceและJohn Blake หนุ่มที่คาดว่าน่าจะเป็นRobin ซึ่งโดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าการfocusที่ตัวละครอย่างCatwomanและMirandaยังคงอยู่ในเส้นเนื้อเรื่องหลักแต่ในกรณีการมีอยู่ของ John Blake นั้นค่อนข้างขัดใจพอสมควรเพราะผมรู้สึกว่าเป็นตัวละครที่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้แถมยังมีหลายฉากที่แย่งซีนBatmanหรือBruce Wayneอีกต่างหาก แต่ผมเข้าใจว่าNolanคงต้องการให้Blakeเป็นคนกระตุ้น Bruce ที่กำลังหมดไฟนั้นรู้ว่ายังมีคนที่เฝ้ารอการกลับมาของBatmanอยู่นั้นเองหรืออาจให้Blakeรับช่วงต่อในฐานะBatmanหรือRobinก็เป็นไปได้
ในเรื่องนี้สิ่งที่ผมค่อนข้างชอบคือเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง BruceและAlfred รีวิวหนังฝรั่ง The Dark Knight Rises
ที่เป็นบทสนทนานอกเหนือจากเรื่องแผนการปฏิบัติงานของBatman เราได้เห็นว่าAlfredนั้นแคร์และอยากเห็นอนาคตที่สดใสของBruceมากเท่าใดซึ่งแม้จะมีโผล่มาแค่ไม่กี่ซีนแต่เพราะการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Michael Caine จึงทำให้สร้างความประทับใจได้มากทีเดียวครับ พูดถึง ส่วนสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือฉากแอ๊คชั่นในเรื่องครับ ซึ่งฉากที่ทำออกมาได้ดีที่สุดตามความคิดของผมคือการประชันหน้าระหว่างBatmanและBaneในท่อระบายน้ำซึ่งChristopher Nolan สามารถทำให้เรารู้สึกได้ว่าแต่ละหมัดที่ปล่อยออกไปของทั้งคู่นั้นช่างทรงพลังจริงๆ เน้นทุกหมัดครับ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งซีนการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่ดีมากครับ
ถือว่าเป็นการปิดฉากไตรภาคBatmanของNolan ได้สวยงามจริงๆครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่ามีบางช่วงที่หนังยืดไปหน่อยจริงๆสามารถกระชับได้มากกว่านี้ครับ เพราะเวลาของหนังเรื่องนี้ยาวถึง 2ชม. 44นาทีเลยทีเดียวครับ ยาวกว่าภาคที่แล้วซะอีก ต้องยกนิ้วให้ทีมทำฉากถล่มต่างๆจริงๆครับเพราะทำออกมาได้ดีสมจริงมากๆ เลยทำให้เราอินไปกับหนังได้ง่าย ในส่วนของเนื้อหาผมว่าเข้าใจง่ายกว่าภาคที่แล้วนะครับ แนะนำว่าถ้าจะดูควรดูหนังสองภาคแรกก่อนนะครับ ไม่งั้นคุณจะจับต้นชนปลายไม่ถูกและขาดความเข้าใจในเนื้อหามากพอสมควรเลย
ความสำเร็จของ The Dark Knight (2008) นั้นก็ไม่เกินเลยไปจากที่ Nolan พูด เพราะหนังสามารถทำรายได้ข้ามหลัก 1,000 ล้านเหรียญฯ ทั่วโลกได้เป็นเรื่องแรกของ Warner Brothers, แฟรนไชส์หนังฮีโรของ DC และแฟรนไชส์ของ Batman เอง นอกจากนั้นหนังก็ยังชนะ 2 สาขารางวัลออสการ์ (นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Heath Ledger) และผสมเสียงยอดเยี่ยม) และได้เข้าชิงอีก 6 สาขารางวัล แต่การที่หนังไม่ได้เข้าชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็กลายเป็นข้อครหาและทำให้หลังจากปีนั้น คณะกรรมการออสการ์จึงปรับจำนวนเรื่องของหนังที่จะเข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมให้ไม่ต้องจำกัดอยู่แค่จำนวน 5 เรื่องอีกต่อไป