รีวิวหนังฝรั่ง Uncharted

หนังเริ่มเรื่องด้วยวัยเด็กของ นาธาน เดรค ที่ร่วมมือกันหวังปล้นแผนที่ขุมทรัพย์แต่กลับถูกจับได้ทำให้แซมพี่ชายของเขาต้องหายไปจากชีวิตจนปัจจุบัน เดรค (รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์) หนังฟรี  ต้องเลี้ยงชีพด้วยการเป็นบาร์เทนเดอร์และแอบจิ๊กของลูกค้าเลี้ยงชีพแต่กลอุบายของเขาก็ถูกจับไต๋ได้โดยวิกเตอร์ หนังใหม่ ซัลลิแวน (รับบทโดย มาร์ค วาห์ลเบิร์ก Mark Wahlberg) ยอดโจรสมองเพชรที่ชวนเขาร่วมภารกิจล่าขุมทรัพย์โดยใช้ปริศนาการหายตัวไปของแซมมาเป็นสิ่งล่อใจ  ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022

เป็นที่คอหนังจะล่วงรู้กันว่า การที่จะหยิบเอาวิดีโอเกมดังๆ ดูหนังออนไลน์ สักเรื่องมาสร้างเป็นหนังขึ้นจอใหญ่ต้องใช้พลังศรัทธาและไอเดียที่เจ๋งมาๆ ในการเซอร์วิสทั้งแฟนหนังและแฟนเกม ทำให้ที่ผ่านมามีตัวอย่างให้เห็นเกี่ยวกับ ‘อาถรรพ์หนังจากวิดีโอเกม’ มาหลายเรื่อง และล่าสุดก็ถึงคิว “Uncharted” (ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก) ที่กลายเป็นความท้าทายอีกครั้งของ ดูหนัง  โซนี่ พิคเจอร์ส ที่หยิบเอาเกมที่มีแฟนๆ ชื่นชอบอันดับต้นๆ เมื่อทศวรรษก่อน มาสร้างเป็นหนัง ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา 

เล่าเรื่องราวของ นาธาน เดรก หรือ เนท (ทอม ฮอลแลนด์) โจรหนุ่มที่ทำงานเป็นบาเทนเดอร์ เขาเป็นคนฉลาดเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ และเป็นคนมีไหวพริบ เขามีพี่ชายที่สนิทและรักกันมาก แต่มีเหตุให้ต้องแยกจากกันเมื่อ 15 ปีก่อน และขาดการติดต่อไป แต่อยู่มาวันหนึ่ง ซัลลี่ (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) มาหาเนท และบอกว่าเป็นเพื่อนของพี่ชายเนท ดูหนังฟรี จากนั้นก็ชวนเนทไปทำภารกิจผจญภัยล่าขุมทรัพย์ทองคำของ มาเจลลัน ดูหนังออนไลน์  สมบัติที่หายสาปสูญไปนานกว่า 500 ปี ก่อนที่ มอนคาด้า (แอนโตนิโอ แบนเดอรัส) ผู้ที่คิดว่าตัวเองคือผู้สืบทอดและเป็นเจ้าของที่แท้จริงของมหาสมบัติจะได้ไปครอบครอง บทสรุปจะเป็นอย่างไรต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ ดูหนัง

ตัวหนังไม่ได้เอาเนื้อเรื่องจากเกมช่วงใดมาทำ รีวิวหนังฝรั่ง Uncharted

รีวิวหนังฝรั่ง Uncharted

แต่ทำตัวเป็น Prequel ของเกม จับเอาช่วงวัยรุ่นของตัวเอกอย่าง Nathan Drake มาเล่า รวมถึงใส่ตัวละครสำคัญในเกมอีกประมาณหนึ่งเข้ามาร่วมผจญภัยเป็นสีสัน กะว่าดูหนังจบก็ตามไปเล่นเกมต่อได้ทันทีถ้าอารมณ์ไม่จบ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุการณ์มันเกิดก่อนเกม Uncharted ภาคแรกจะเริ่มรึเปล่า เราเลยไม่รู้สึกถึงความเป็น “หนังจากเกม” เอาล่ะว่าตัวละครจากเกมเข้ามาเต็มไปหมด แต่ผมก็ไม่แน่ใจนักว่าความเป็นซิกเนเจอร์ของ Uncharted คืออะไร และทำไมมันจึงโดดเด่นกว่า IP อื่นๆ สิ่งเดียวที่ยึดชุดความคิดของเราว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังจากเกม Uncharted เห็นทีจะมีแค่ประโยค “Oh Crap” ของ พรี่ Nathan ที่ตะบันพ่นออกมาอย่างบ่อยราวพยายามย้ำเตือนคนดูอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนี้ปริศนาก็รีบมารีบไป ไม่ทันให้คนหยุดคิดก็รีบเฉลยอย่างรวดเร็ว แต่อันนั้นไม่เท่าไหร่ เพราะสามารถอนุมานว่าตัวละครฉลาดมีไหวพริบได้ ทว่าสิ่งที่ขัดใจจนแกะไม่ออกก็คือการวางโพซิชั่นของสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นตามหา แบบว่าในหลายๆ จุดฝ่าฟันปริศนามาหลายชั้นเพื่อมาเจอของ แต่อีของนั้นดันอยู่ในจุดที่ชวนให้ตั้งคำถามจริงๆ ว่า “แน่ใจนะว่ายังไม่มีใครเคยเจออ่ะ?” ไม่ลึก ไม่ลับ และโคตรจะโจ่งแจ้งจัดๆ

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าหนังเพียบพร้อมด้วยทีมงานเกรด A

รีวิวหนังฝรั่ง Uncharted

ในการผลิตหนังแอ็กชันผจญภัยสักเรื่องให้ออกมาบันเทิงและเรียกเงินเข้ากระเป๋าโซนีได้เป็นกอบเป็นกำ ถ้าเราจะเอาแค่ความสนุกแบบดูจบแล้วลืม ๆ ไปเลย ‘Uncharted’ มีให้คุณแน่นอนครับ แถมเซอร์วิสแฟนเกมหนักมาก ๆ ทั้งสกอร์ดนตรีประกอบและภาพโหมดสโลว์โมชันที่แทบถอดแบบจากเกมมาเอาใจสายเกมเมอร์โดยเฉพาะ พร้อมวิช่วลเอฟเฟกต์แบบเชื่อมือได้สไตล์สตูดิโอหนังระดับบิ๊ก หากต้องการแค่นี้ผมยืนยันว่าหนังมีให้แน่นอนครับ

แต่สิ่งที่ ‘Uncharted’ ทำตกหล่นอย่างไม่น่าให้อภัยเลยประการแรกคือการสร้างตัวละครที่ดึงดูดใจ สมมติว่าเอาคนอื่นมารับบทนาธาน เดรค ก็ยากล่ะครับที่คนดูจะอยากเอาใจช่วยบาร์เทนเดอร์นิสัยโจรที่ทั้งเรื่องหาความฉลาดแทบไม่เจอโดนหลอกแล้วหลอกอีกดักดานจนงงว่ามันจะไปคิดปริศนาสมบัติอันซับซ้อนได้ยังไง แถมหนังก็เลือกเล่าข้าม ๆ ไปหลายจุดจนมันขาดความเชื่อถือดูไปเกิดอาการเอ๊ะไปยังไงยังงั้น

ส่วนต่อมาคือฉากผจญภัยต่าง ๆ ที่แม้วิช่วลเอฟเฟกต์จะเลอเลิศแบบไม่เถียงเลยว่าดูแล้วไม่เสียดายตังค์แน่นอน แต่ในความสนุกผิวเผินของหนังก็คือการไม่ให้ความสำคัญกับบทภาพยนตร์แถมยังไม่ค่อยได้ใส่อุปสรรคอะไรให้เราอยากเอาใจช่วยทั้งเดรคและซัลลิแวนเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นตัวละครหลักแต่เรากลับไม่มีข้อมูลอะไรให้ยึดเกาะหรือทำให้รู้สึกว่าอยากให้พวกเขาตามหาสมบัติให้สำเร็จเท่าใดนัก แม้จะใส่ความเป็นแอนตีฮีโร่ให้ซัลลิแวนว่าเป็นคนที่คบคนหวังผลประโยชน์แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าท้ายที่สุดมันก็ทิ้งเดรคไม่ลงอยู่ดี

สุดท้ายแล้วแม้ว่าหนังจะได้นักแสดงระดับแม่เหล็กอย่างทอม ฮอลแลนด์มารับบทตัวละครที่แฟนเกมชื่นชอบ แต่ด้วยบทหนังที่แบนราบเกินไปมันก็ไม่ทำให้ฮอลแลนด์ดูมีเสน่ห์ในฐานะนักผจญภัยขาบู๊เท่าไหร่นักแม้ว่าจะมีฉากถอดเสื้อเซอร์วิสสาว ๆ ก็ไม่ช่วยเท่าไหร่ ส่วนมาร์ค วาห์ลเบิร์กก็เอาตัวรอดไปได้ด้วยลุคแบดบอยแต่ก็ดันดูไม่น่าเชื่อถือในฐานะโจรเศรษฐีเท่าไหร่นัก

ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก

รีวิวหนังฝรั่ง Uncharted

เป็นเรื่องราวที่แทบจะถอดออกมาจากวิดีโอเกม นาธาน เดรก โจรหนุ่มสุดฉลาดและมีไหวพริบ ได้ถูกเลือก โดยนักล่าขุมทรัพย์รุ่นเก๋า ซัลลี่ เพื่อหาขุมทรัพย์ทองของนักเดินเรือนามว่ามาเจลลัน โคตรมหาสมบัติ 500 ปีที่ไม่มีใครเคยเจอ จุดเริ่มต้นของการ โจรกรรมง่ายๆ กลายเป็นการแข่งขันสุดมันส์ข้ามทวีป

และเพื่อให้ถึงจุดหมายก่อนที่ มอนคาด้า ผู้ที่คิดว่าตัวเองคือผู้สืบทอดและเป็นเจ้าของที่แท้จริงของมหาสมบัติจะได้ไปครอบครอง การผจญภัยสุดมันส์ของ เนท และ ซัลลี่ ที่ต้องแก้ปมปริศนา เพื่อที่พวกเขาจะได้ พบกับขุมสมบัติมูลค่า 5 พันล้านเหรียญ และไม่แน่ว่าการผจญภัยคร้ังนี้นั้นอาจจะทำให้เนทได้พบกับพี่ชายที่หายสาบสูญไปหลายปีก็เป็นไปได้

ความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้ดู รีวิวหนังฝรั่ง Uncharted

ผมกลรู้สึกว่าสนุกและบันเทิงดี ไม่ได้แย่สำหรับผม และค่อนข้างชอบด้วย แต่ก็มีจุดหลักๆที่ไม่ชอบเหมือนกัน ผมขอบอกก่อนว่าผมไม่ใช่แฟนเกมส์ Uncgarted และไม่ได้รู้เนื้อเรื่องของเกมส์มาก่อน เข้าไปดูแบบไม่รู้อะไรเลย แต่บอกเลยว่ารู้เรื่องทั้งหมด เข้าใจได้อย่างง่ายๆเลย เพราะหนังเล่าเรื่องราวย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์ในเกมส์ภาคแรก เป็นเรื่องราวของ นาธาน เดรก ในวัยหนุ่ม ก็คือเริ่มตั้งแต่ต้น ดังนั้นคนไม่ใช่แฟนเกมส์ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง ตัดสินใจซื้อตั๋วเข้าไปดูได้เลย อาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ แต่คงไม่ถึงขนาดเสียดายค่าตั๋ว เพราะภาพรวมของหนังถือว่าทำออกมาได้ดีอยู่

เป็นหนังที่ทำเพื่อทุกคนที่ไม่ลืมที่จะเอาใจแฟนเกมส์ และก็ไม่ทอดทิ้งคนที่ไม่ใช่แฟนเกมส์ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเพราะจะได้มีโอกาสสร้างรายได้แบบเต็มที่ เพื่อนะได้เป็นแฟรนไชส์และมีภาคต่อๆไป ส่วนตัวผมเชียร์ให้ประสบความสำเร็จและได้ไปต่อนะ เพราะถ้าไปต่อก็จะเข้าเนื้อเรื่องตามในเกมส์ ซึ่งอาจทำออกมาได้ดีก็ได้ ผมมองว่าภาคแรกนี้เป็นเหมือนแค่การอุ่นเครื่องซะมากกว่า ถ้าภาคต่อไปได้สร้างขึ้นมาจริงๆ และทำการปรับปรุงจุดที่ผิดพลาดในภาคนี้ไปได้ มันจะกลายเป็นหนังที่สนุกมากๆแน่นอน เพราะหนังเรื่องนี้ก็มีจุดที่ทำได้ดีมากๆ และน่าจดจำอยู่เช่นเดียวกัน

“รูเบ็น แฟลชเชอร์” (จากหนัง Zombieland ทั้ง 2 ภาค) มารับหน้าที่เป็นผู้กำกับให้กับหนังเรื่องนี้ เราถือว่าเขาน่าจะค่อนข้างให้ความเคารพกับต้นฉบับของวิด๊โอเกมอยู่มาก จึงพยายามเอาใจคอเกมในตรงนี้อยู่ไม่น้อย แต่กระนั้นผลลัพธ์ที่ออกมาก็กลายเป็นหนังที่มีพล็อตและการเล่าเรื่องที่เชยสะบัด แทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ใดๆ ออกมาให้รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจสักเท่าไหร่ มันเป็นเพียงหนังแอคชั่นผจญภัยสูตรสำเร็จ ที่ผู้ชมเคยดูกันมาก่อนหน้านี้ 10-15 ปีที่แล้ว

เท่าที่ทราบในเบื้องต้นก็ได้ยินมาว่า Uncharted ได้แรงบันดาลมาจากส่วนจากหนังชุด National Treasure หนังแนวๆ เดียวกันของวอลต์ ดิสนีย์ ที่ นิโคลัจ เคส เคยแสดงนำเอาไว้ แต่ไม่คาดคิดว่าจะออกมาในรูปแบบที่เกือบจะเหมือนกันเป๊ะเช่นนี้ ปริศนาในการล่าขุมทรัพย์ต่างๆ ที่หนังใส่เข้ามาค่อนข้างแห้งเหือดและจืดชืดไปสักหน่อย เบาะแสที่ค่อยๆ เผยออกมาก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชมรู้สึกว้าวอะไรเท่าไหร่ด้วย

ตรงกันข้ามกับบรรดานักแสดงที่มาสมทบโดยเฉพาะแอนโทนิโอ แบนเดอราสที่เสน่ห์แบบหนุ่มใหญ่ล้นเหลือมาก สำเนียงสแปนนิชก็เซ็กซี่จนกลบบรรดานักแสดงหลาน ๆ ซะมิดเชียวหรือจะเป็น ทาทิ แกเบรียล ในบทมือสังหารสาวก็ยังทำให้เราเห็นความเท่ของเธอ หรือจะเป็น โซเฟีย อาลี ที่ได้โชว์ความสวยคมคายแบบสาวลูกครึ่งตะวันออกกลางจนอย่างน้อยคนดูหนุ่มๆ ก็มีอะไรให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้าง

ย้ำกันอีกทีว่าแม้จะพลาดและไม่น่าจดจำ แต่อย่างน้อย ‘Uncharted’ ก็มาเติมเต็มให้โรงหนังมีโปรแกรมที่ดึงดูดคนดูกลุ่มใหญ่ได้ และที่สำคัญหนังก็ยังทำหน้าที่ได้ดีในฐานะหนังบันเทิงเรื่องหนึ่ง เพียงแต่หากอยากให้ตัวหนังมีฐานแฟนคลับเท่าเกมอาจต้องพัฒนาบทหนังและตัวละครนำให้น่าสนใจกว่านี้อีกเยอะ

การเล่าเรื่องของหนังก็ถือว่าเป็นไปตามเส้นพื้นฐานของสูตรสำเร็จหนังบู๊ผจญภัย

เป็นการใส่ไอเดียของหนังแนวนี้เก่าๆ เข้าไปคลุกเคล้าผสมกัน แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงก็คงจะสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้ดี กับการผจญภัยและไขปริศนาต่างๆ แต่ไม่สามารถซื้อความเร้าใจใดๆ ของผู้ชมได้เลย โดยเฉพาะบทหนังที่ค่อนข้างอ่อนมากๆ แต่ตัวละครที่นำเสนอมาก็ตีโจทย์ออกมาได้ยังไม่ดีพอ

แต่ก็ถือว่าหนังได้ส่วนประกอบทางการแสดงของ “ทอม ฮอลแลนด์” กับ “มาร์ก วาห์ลเบิร์ก” มาช่วยพยุงเอาไว้เป็นแน่แท้ เพราะพวกเขาสามารถมอบสิ่งที่ผู้ชมอยากเห็นและอยากจะสัมผัสได้จากหนังเรื่องนี้ ความเป็นมืออาชีพของทั้งคู่ต้องช่วยประคับประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ แม้ว่าจะค่อนข้างทุลักทุเลไม่เบา และก็ไม่ใช่ผลงานที่ดีอะไรของพวกเขาทั้งคู่เลย

ฉากแอ็คชั่นของเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เวอร์วังอลังการ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม และมอบความบันเทิงใฟ้ผมได้พอสมควร เรียกได้ว่าฉากแอ็คชั่นเป็นเหมือนข้อดีของหนังเรื่องนี้เลย มันสะใจถึงใจ ออกแบบฉากบู๊ คิวบู๊ออกมาได้ดี ส่วนตัวผมชอบฉากบู๊ของ ทอม ฮอลแลนด์ เพราะด้วยความที่ผู้กำกับดีไซน์ตัวละคร นาธาน เดรก เป็นตัวละครที่ฉลาด คล่องแคล่วว่องไว ทำให้ฉากแอ็คชั่นของตัวละครนี้มันดูเพลินตาดี แต่ก็มีข้อเสียคือทำให้เราสลัดภาพสไปเดอร์แมนที่ทอมเล่นไว้ไม่ออก เนื่องจากตัวละครสองตัวนี้มีความคล่องแคล่วว่องไวเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มากมายแค่บางฉากเท่านั้น แต่ทอมก็ยังมีความเป็น นาธาน เดรกอยู่พอสมควร ส่วนฉากแอ็คชั่นในเรื่องที่ผมชอบ ก็จะเป็นฉากที่ทอมสู้แบบบาเทนเดอร์ โคตรเท่ห์และมีความปั่นดี อีกฉากก็ตอนท้ายๆที่ทอมกับมาร์ค สู้แบบคู่หูบนเรือ ฉากนั้นทำออกมาได้ดีเลย ให้อารมณ์หนังคู่หูแอ็คชั่น-คอมเมดี้ โดยรวมแบ้วฉากแอ็คชั่นของเรื่องนี้ผมค่อนข้างประทับใจและเอ็นจอยกับมันมากๆ

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *