รีวิวหนัง pixel

เรื่องราวเกิดขึ้นจากการจัดแข่งขันเกมอาเขตชิงแชมป์โลกในปี 1982 ซึ่งในงานนี้มีการอัดเทปดังกล่าวเพื่อบรรจุใส่กระสวยอวกาศของนาซ่า แต่ทว่าเมื่อต่างดาวพบเจอกระสวยนี้ต่างดาวกลับคิดว่าวิดีโอดังกล่าวเป็นการท้าทำสงคราม จึงนำไปสู่ความเข้าใจผิดและก่อเป็นสงครามระหว่างต่างดาวและมนุษยชาติขึ้น เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป สามารถหาข้อมูลมารับชมได้เลยครับ รีวิวหนัง pixel รีวิวหนังฝรั่ง

ผมบอกไว้ก่อนนะครับว่าหนังเรื่องนี้ถูกฉายมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2015 แต่ที่ผมกลับมาย้อนดูเพราะคิดถึงเรื่องราวตอนยังเด็ก ๆ ที่เคยเล่นเกมพวกนี้มาประมาณหนึ่งพอได้ดูจริง ๆ หนังเรื่องนี้เป็นแนวสบาย ๆ เรียบ ๆ ครับ ไม่ว่าใครก็สามารถดูได้ เพราะเป็นหนังแนวตลก ๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไรเลย ถึงแม้ว่าจะเกิดสงครามกันของฝั่งเอเลี่ยนและมนุษย์ ส่วนตัวหนังไม่ได้เลวร้ายหรือแย่ดังที่กล่าวกันเลยนะครับ ออกจะเพลิน ๆ เสียด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่า อดัม แซนเลอร์ จะไม่สามารถสร้างความขบขันให้กับพวกเราได้มากอะไร ดูหนัง

และหนังยังคาดเดาง่าย ไม่มีจุดพีคหรือหักมุมอะไรมากมายนัก ทำให้นอกจากจุดขายนั่นก็คือเกมยุค 90s แล้วก็แทบจะไม่มีอะไรให้จดจำเลยครับ ซึ่งโดยรวมแล้วหนังเรื่อง Pixels ยังเป็นหนังที่ดูเอาเพื่อความบันเทิงในระดับพอใช้ได้ครับ แต่ทว่าอย่าไปคาดหวังอะไรกับหนังมากมายนัก ดูแบบไม่คิดอะไรจะจัดว่าเป็นหนังที่ฆ่าเวลาชั้นดีเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ ดูหนังออนไลน์

รีวิวหนัง Pixels ยุค 80 ไปจนถึงยุค 90 นั้นถือว่าเป็นยุคทองของเหล่าเกมตู้ เพราะในช่วงนั้นเทคโนโลยีอย่างอินเทอร์เน็ตไม่แพร่หลายและได้รับความนิยมเทียบเท่าในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์นั้นยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีราคาสูงจนไม่ใช่ทุกคนจะสามารถครอบครองได้ เครื่องเกมคอนโซลเองก็เช่นกัน

ทำให้ทางเลือกในการเล่นเกมที่เหลืออยู่นั้นจึงเป็นตู้เกมที่ตั้งอยู่ตามร้านตู้เกมหรือห้างสรรพสินค้าต่างๆ ด้วยความที่เทคโนโลยีในสมัยนั้นยังไม่เอื้ออำนวยให้เหล่านักพัฒนาเกมสามารถสร้างสรรค์เกมที่มีคุณภาพด้านงานภาพออกมาได้ ภาพภายในเกมเหล่านี้จึงออกมาในรูปแบบของพิกเซล

ซึ่งเป็นก้อนสี่เหลี่ยมต่อกันจนกลายเป็นรูปร่าง แม้ว่ามันจะเป็นงานภาพที่ไม่ได้คมชัดหรือสวยงามเทียบเท่ากับเกมในปัจจุบันแต่มันก็มีความคลาสสิกและหลายคนก็ยังคิดถึงเกมรูปแบบนี้ ดูหนัง4k

ด้วยความที่ยุค 90 เป็นยุคที่เฟื่องฟูและเป็นที่จดจำของใครหลายๆ คนแถมความนิยมของตู้เกมนั้นยังกินช่วงเวลาถึง 2 ทศวรรษทำให้เกมที่ออกมาในช่วงนั้นเป็นเกมในตำนานยอดนิยมที่ในปัจจุบันก็ยังคงมีหลายคนหวนคิดถึง ไม่ว่าจะเป็นเกมแพคแมนหรือดองกี้คอง

การหยิบนำเอาเกม Pixel ยอดนิยมเหล่านี้มาใส่ในภาพยนตร์นั้นจึงเป็นไอเดียที่สุดยอดและได้รับความสนใจอย่างล้นหลามอย่างแน่นอน ทางผู้กำกับอย่างคริส โคลัมบัสจึงได้หยิบยกนำเอาเกมเหล่านี้มาใส่ไว้ในภาพยนตร์แนว Action comedy scifi ในชื่อเรื่อง Pixel ออกฉายในปี 2015 เดือนสิงหาคม ดูหนังออนไลน์4k

แต่น่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้โปรโมทเท่าที่ควรจนทำให้กระแสตอบรับนั้นยังไม่ดีมากเท่าไรนัก เมื่อไม่มีกระแสสิ่งที่ตามมาก็คือรายได้จากภาพยนตร์ก็ไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไรนัก

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ความตลกโปกฮา และการต่อสู้อย่างดุเดือด รวมไปถึงเกมในอดีตที่เราชื่นชอบที่ผสมเข้ากันได้อย่างลงตัวพอดี

Pixels เล่าย้อนกลับไปในช่วงยุค 80 ในปี 1982 เป็นช่วงที่เกมตู้นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากถึงขั้นที่มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกในการเล่นเกมตู้เลยทีเดียว อย่างที่เราทราบกันดีว่าในยุคสมัยนั้นภาพในเกมจะเป็นภาพแบบ 8 บิตหรือภาพพิกเซลที่ใช้งานภาพแบบก้อนสี่เหลี่ยมนำเอามาต่อกันคล้ายกับเลโก้ให้กลายเป็นรูปร่างต่างๆ

แซมชายหนุ่มผู้เคยพิชิตรางวัลแชมป์การแข่งขันเล่นเกมตู้มาก่อนในปี 1980 นั้นกลับต้องพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งจนทำให้เขานั้นกลายเป็นคนที่อิลุ่ยฉุยแฉะ ไม่เอาไหน และพาลไม่มั่นใจในฝีมือการเล่นเกมของตนเองอีกต่อไป โดยเฉพาะเกมดองกี้คองที่เขามองว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเอาชนะได้ เนื่องจากเกมนี้เป็นเกมที่ทำให้เขานั้นต้องชวดรางวัลแชมป์โลกไป

แต่อย่างไรก็ตามกระแสความนิยมของเกม 8 บิตในช่วงนั้นยังคงรุ่งเรืองจนทำให้มีการตัดสินใจว่าจะส่งอารยธรรมของโลกขึ้นไปยังอวกาศเพื่อเป็นการผูกสัมพันธไมตรีต่อสิ่งมีชีวิตนอกโลก ที่ในสมัยนั้นก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีหรือไม่หรือแม้แต่ในสมัยนี้เองก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้

แต่พวกเขาก็ได้ทำการอัดวีดีโอการเล่นเกมและส่งมันขึ้นไปพร้อมกับกระสวยอวกาศโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ตัดภาพกลับมาในยุคปัจจุบันอยู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อมีก้อนประหลาดคล้ายกับพิกเซลที่จับตัวกันมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับเกม 8 Bit ที่เคยส่งขึ้นไปบนอวกาศเข้ามาโจมตีโลกจนกลายเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่โลกไม่เคยเผชิญและไม่เคยคาดฝันมาก่อน

เพราะทางเอเลี่ยนที่ได้ไปเปิดดูวีดีโอเกมกับเข้าใจผิดว่าโลกนั้นส่งสารท้าตี ทำให้อดีตแชมป์โลกตู้เกมทั้ง 2 สมัยอย่างแซมและคู่แข่งที่เขาแพ้ในปี 1982 รวมถึงสมาชิกทีมอื่นๆ ที่มีความเก่งกาจด้านการเล่นเกมตู้ต้องมารวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับเกม Pixel ที่มนุษย์ต่างดาวส่งมาเพื่อทำการปกป้องโลกใบนี้ให้ได้

ภายในภาพยนตร์เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยอีสเตอร์เอ้กโดยเฉพาะในคนที่ชื่นชอบเกมตู้ช่วงยุค 80-90 เพราะนอกจากเราจะได้เห็นการเล่นเกมนี้อีกครั้งเพราะมันยังกลับมาในฐานะของอาวุธที่มนุษย์ต่างดาวส่งมาเพื่อทำลายล้างโลกอีกด้วย

เรียกได้ว่าเป็นความตลกร้ายที่มนุษย์นั้นต้องการจะสานสัมพันธไมตรีอันดีด้วยการเผยแพร่วัฒนธรรมของตนเอง แต่ดันถูกมนุษย์ต่างดาวเข้าใจผิดว่าไปส่งสาส์นท้ารบเสียอย่างนั้น

แต่มันก็ทำให้เรานั้นเห็นตัวละครภายในเกมกลับมามีชีวิตอีกครั้งในรูปแบบพิกเซลที่มีความสวยงามและคมชัดมากกว่าเดิมที่สำคัญเรายังจะได้เห็นการต่อสู้ของมนุษย์กับเกมเหล่านี้แบบจริงจังนอกตู้เกมอีกด้วย

และอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยคือความตลกที่เป็นเหมือนกับจุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้แม้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะเต็มไปด้วยความตึงเครียดและน่าหวาดกลัว เพราะหากพวกเขาไม่สามารถกอบกู้โลกไว้ได้โลกทั้งใบก็จะกลายเป็นพิกเซลทั้งหมด

ตัวละครเอกที่ชื่นชอบในการเล่นเกมตู้นั้นแม้ว่าพวกเขาจะจริงจังและตึงเครียดในภารกิจที่ทำแต่มันกลับมีเรื่องตลกเข้ามาให้เราได้หัวเราะอยู่เสมอ เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นความตลก การต่อสู้ รวมไปถึงเรื่องราวสุดแฟนตาซี

เอฟเฟกต์พิเศษ ที่ไร้เดียงสาให้ความสนุกสนานอย่างมาก 8/10
ฉันเดาว่าวิธีอธิบายภาพยนตร์เรื่องนี้คือ Ghostbusters ที่สว่างไสวด้วยแสงนีออน โปรดดูมันสำหรับ cgi มันยอดเยี่ยมมาก หากคุณมีดีวีดีให้ดูสั้น ๆ เกี่ยวกับวิธีการสร้างตัวละครที่น่ารักตัวใดตัวหนึ่ง หนังตลกมีความรวดเร็วเกือบจะมีไหวพริบและยังไม่มีอะไรใหม่ แต่ก็ใช้งานได้ คุณจะยิ้มแทนที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ

เรื่องราวนั้นไร้สาระซึ่งเป็นสิ่งที่เราจ่ายให้กับฮอลลีวูดและด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเอาชนะตัวเองได้ มีการไล่ล่าแบบคลาสสิก มีรูปลักษณ์จี้ที่ยอดเยี่ยม มีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อย่างชาญฉลาด มีการแสดงความเคารพอย่างมากต่อผู้สนใจในยุค 80 และโดยรวมแล้วฉันคิดว่ามันเป็นการเสียดสีที่แปลกประหลาดของภาพยนตร์เรื่องการบุกรุกงบประมาณจำนวนมาก มันสนุกมาก

หนัง Pixels เมื่อเอเลี่ยนเข้าใจผิดคิดว่ามนุษย์ต้องการจะเปิดสงครามจากหลักฐานสัญญาณการได้รับภาพบันทึกวิดีโอเกมส์ของมนุษย์ที่มีการไล่ล่าเอเลี่ยนอยู่ เหล่าบรรดาเอเลี่ยนจึงใช้วิธีโจมตีโลกมนุษย์กลับด้วยวิธีตามวิดีโอเกมส์นั้นเป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ตัวต่อเตอร์ติสถล่มตึก หรือ แพคเมนไล่กินรถ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา (เควิน เจมส์) จึงต้องขอความช่วยเหลือไปยังกลุ่มเพื่อนสุดเนิร์ดของเขาอย่าง แซม เบรนเนอร์ (อดัม แซนด์เลอร์) ผู้ที่เคยครองแชมป์การแข่งขันเล่นวิดีโอเกมส์มาแล้วในปี 1980 และเหล่าทีมเพื่อนเก๋าติดเกมส์อีกมากมายที่งานนี้มารวมตัวกันเพื่อช่วยกอบกู้โลก

โปรเจ็คสุดเนิร์ดจากผู้กำกับแฮร์รี่สองภาคแรกซึ่งหลายคนคงทราบดีว่ากระแสวิจารณ์และเสียงตอบรับไม่ค่อยสู้ดีเท่าใดนัก ผมเจอประโยคนึงที่ว่า แย่กว่า Jack & Jill ถึงกับช็อคและทำให้ไม่ได้คาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้มากนัก ทั้งที่ตอนแรกออกจะสนใจมากๆ เพราะส่วนนึงตัวผมเองเป็นคนที่ทันเกมคลาสสิคเหล่านี้จึงทำให้อยากดูมาก

หนังว่าด้วยเรื่องราวของ การแข่งขันเกมอาเขตหรือเกมตู้ชิงแชมป์โลกในปี 1982 ซึ่งในงานนี้มีการอัดเทปดังกล่าวเพื่อบรรจุใส่กระสวยของนาซ่าเพื่อส่งไปในอวกาศด้วย แต่ทว่าต่างดาวกับคิดว่า วิดีโอดังกล่าวเป็นสานท้ารบ (เพราะเกมของมนุษย์โลกเราส่วนใหญ่จะโจมตีและทำลายพวกเอเลี่ยน) จึงนำไปสู่ความเข้าใจผิดและก่อเป็นสงครามระหว่างต่างดาวและมวลมนุษยชาติขึ้น โดยมาในรูปแบบของ พิกเซล หรือ เกม 8 บิท ที่เรารู้จักกันดี

หลังจากที่ผมได้ชม ผมรู้สึกว่าหนังไม่ได้เลวร้ายหรือแย่ดังที่กล่าวกัน ออกจะสนุก เพลินๆเสียด้วยซ้ำ แต่ปัญหาคืออดัม แซนเลอร์ก็ยังไม่สามารถสร้างความขบขันให้กับผู้ชมได้อยู่ดี จะไปก๊ากกับพวกคนอื่นเสียมากกว่า นั่นอาจจะเป็นปัญหาส่วนนึงด้วยว่าผู้ชมอาจเบื่อหน้าอดัม แซนเลอร์แล้ว นอกจากนี้หนังยังมีความคลิเชและซ้ำซาก คาดเดาง่าย ไม่มีจุดพีคหรือหักมุมอะไรมากมายนักทำให้ นอกจากจุดขายนั่นก็คือเกมยุค 80s แล้วก็แทบไม่มีอะไรให้จดจำ

ทีนี้ข้อดีของหนังซึ่งสำคัญมากและอาจทำให้หลายคนชอบคือ หนังเต็มเปี่ยมไปด้วยความเนิร์ด ซึ่งในที่นี้คือเนิร์ดเกมมากๆ มีการปะทะกันระหว่างเกมยุคใหม่และยุคเก่าซึ่งในยุคปัจจุบัน เกมมีความหลากหลาย สมจริง และหฤโหดมากขึ้น ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าเล่นแล้วได้อะไร หรือมันรุนแรงเกินไปหรือไม่ อีกทั้งยังมีการปรากฏตัวของซุปตาร์ตัวละครจากเกมมากมาย อาจจะไม่เด่นอะไรมากแต่ลองกวาดสายตาดูเชื่อว่าคอเกมยุคนั้นจะต้องรู้จักกันหมดแน่นอน

กล่าวโดยรวม Pixels เป็นหนังที่ดูเอาเพลินๆ และ บันเทิงในระดับนึง แต่อย่าไปคาดหวังถึงความซับซ้่อนของเรื่องราว ดูแบบไม่คิดอะไรจัดว่าเป็นโปรแกรมฆ่าเวลาชั้นดีเรื่องนึงเลยครับ

อาจจะจริงที่หนังอย่าง PIXELS คงไม่ใช่หนังดีหรือทรงภูมิปัญญา แต่ในขณะเดียวกันหนังก็ไม่ได้เลวร้ายต่ำช้าเกินกว่าจะดูได้ หรือพูดง่ายๆคือมันเป็นหนังที่ดูได้พอผ่านบันเทิงบ้าง ตลกบ้าง ฝืดบ้าง น่าสมเพชเวทนาตัวละครบ้าง แต่เรื่องราวของ PIXELS นั้นมีแก่นเรื่องที่ชัดเจนและสิ่งที่หนังนำเสนอก็ตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ได้ไม่เลวนัก

แก่นเรื่องที่ว่านั้นก็คือเรื่องของการถวิลหาช่วงเวลาความสุขในวัยเยาว์นั่นเอง โดยพล็อตเรื่องของหนังนั้นเปิดเรื่องมาที่แวม เบรนเนอร์ในวัยเด็กที่สนิทกับวิลล์ ทั้งคู่เป็นคอเกมตัวยง พวกเขาสามารถพิชิตเกม PAC MAN ได้อย่างไม่มีใครเทียบ แต่แล้วเมื่อเขาเติบโตขึ้นแซม (อดัม แซนเลอร์)ก็เป็นแค่พนักงานรับติดตั้งอุปกรณ์ที่ดูไร้ความก้าวหน้าทางอาชีพการงานและเหมือนกับ “ช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์” ของเขาผ่านพ้นไปนานแล้ว

ขณะที่วันหนึ่งเขากำลังเดินทางมาติดตั้งเกมที่บ้านแห่งหนึ่งเขาก็ได้พบกับไวโอเล็ต แวน แพทเทิร์น(มิเชล โมนาฮาน) แม่ม่ายลูกติดที่โดนสามีทิ้งไปหาครูสอนพิลาทิสวัยรุ่น ทำให้เธอจมจ่อมอยู่กับความโศกเศร้า แม้เธอจะมีหน้าที่การงานเป็นถึงพันโทในกองทัพ แต่เรื่องความรักเธอกลับล้มไม่เป็นท่า

เมื่อเอเลี่ยนได้เข้าจู่โจมโลกมนุษย์เพราะดันเข้าใจผิดว่าการที่นาซ่าได้ส่งไทม์แคปซูลที่บันทึกชีวิตเรื่องราวของมนุษย์โลกขึ้นไปบนอวกาศเพื่อติดต่อกับต่าวดาว แต่ทว่าบรรดาเอเลี่ยนกลุ่มหนึ่งที่ได้ดูแคปซูลนี้ดันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการประกาศสงครามทำให้พวกมันส่งเกมในยุค 80 เข้ามาโจมตีโลกมนุษย์ไม่ว่าจะเป็น PAC-MAN, Centipede, Space Invaders, Donkey Kong และเกมอื่นๆอีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเกมเหล่านี้ไปสัมผัสเข้ากับวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตบนโลกมันจะเปลี่ยนสภาพวัตถุเหล่านั้นให้กลายเป็น Voxel ก้อนสี่เหลี่ยมที่เมื่อรวมกันแล้วจะเป็นเหมือนภาพสามมิติแบบในเกม 8 บิต เมื่อวายร้ายที่โลกไม่เคยต่อกรมาก่อนทำให้วิลล์ คูเปอร์(เควิน เจมส์) เรียกเพื่อนเก่าอย่างแซมกลับมาช่วยกู้โลก

จะว่าไปแล้วตัวละครหลักในเรื่องทุกตัวไม่ว่าจะเป็นแซม, วิลล์, ไวโอเลต ลัดโลว์(จอช แก็ด) และเอ็ดดี้ (ปีเตอร์ ดิงก์เลจ) สามารถจัดกลุ่มอยู่ในพวกตัวละคร Looser ได้อย่างไม่ขัดเขิน เพราะพวกเขาเป็นพวกตัวละครขี้แพ้ที่ต้องลุกขึ้นมากอบกู้โลกด้วยการใช้ความสามารถในการ “เล่นเกม” ซึ่งคนบ้าเกมในโลกความเป็นจริงนั้นมักโดนจัดกลุ่มให้เป็นพวกเนิร์ดนั่นเอง

ยิ่งไปกว่านั้นการดึงความสามารถในวัยเด็กเอากลับมากอบกู้โลกนั้น เปรียบเสมือนการโหยหาอดีตอันรุ่งเรืองของตัวละครในการปลอบประโลมตัวเองว่าพวกเขายังมีความสำคัญอยู่ และในขณะเดียวกันพวกเขาก็สามารถจะเอาสิ่งที่ตัวเองเป็นช่วยเหลือผู้อื่นได้เช่นกัน