รีวิวหนังฝรั่ง Venom 2

รีวิวหนังฝรั่ง Venom 2 ภาคต่อที่เล่าเรื่องราวต่อเนื่องของเอ็ดดี้บร็อกที่มีซิมบิโอตปรสิตจากต่างดาวอยู่ในตัวที่มีชื่อ เวน่อม ทั้งคู่ต้องพยายามใช้ชีวิตร่วมกันแม้จะเห็นต่างกันทุกเรื่อง โดยเอ็ดดี้ตั้งกฎห้ามเวน่อมฆ่าคนอีกต่อไป ให้กินแต่ไก่กับช็อกโกแลต จนมาวันหนึ่งเอ็ดดี้ได้รับคำขอร้องจากนักโทษประหาร “เคลตัส คาซาดี้” ให้มาพูดคุยกับเขา และด้วยความผิดพลาดทำให้เคลตัสได้รับเชื้อซิมบิโอตต่อจากเอ็ดดี้ไป และก็กลายเป็นตัวลูกของเวน่อมที่ชื่อ คาร์เนจ ซึ่งตามกฎของเผ่าพันธ์ซิมบิโอตตัวลูกต้องตามกลับมาฆ่าตัวต้นกำเนิดเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งนั่นก็คือที่มาของเรื่องราวการทำลายล้างของคาร์เนจกับเวน่อมในภาคนี้ เว็บดูหนัง 

VENOM นั้นถือว่าเป็นตัวละครที่น่าสนใจเพราะว่ามันไม่เชิงเป็น Superhero ซะทีเดียวและเป็นตัวละครที่หลายๆคนน่าจะค่อนข้างชอบและติดตามกันในกลุ่มาสาวก Spiderman แน่นอน และหลังจากที่ทาง SONY เองได้หยิบมาทำหนังในภาคแรกก็ถือว่า กระแสในแง่ของคุณภาพหนัง บทต่างๆไม่ได้ดีเท่าไร แต่ได้ใจแฟนๆทั้งหมดเพราะว่าดูเอาสนุบันเทิงได้ดี จึงทำภาคต่อออกมาซึ่งก็จะเล่นประเด็นต่อจากเรื่องแรกทันทีครับแน่นอนว่าครั้งนี้เราจะได้เห็นตัวละครที่ต้องบอกว่าหลายๆคนรอติดตามคือ CARNAGE นั้นเองซึ่งหลายๆคนก็น่าจะคาดหวังกันไว้เยอะพอสมควร แต่ทั้งนี้หลังจากที่ได้ดูกลับเจอจุดที่น่าบ่นหลายเรื่องมากๆ และ ตัวหนังกลับทำได้แย่กว่าภาคแรกซะอีก ทั้งตัวบท ตัวละคร หรือแม้แต่ความสนุก จุดพีคอะไรของหนังที่ทำได้ธรรมดา กลายเป็นว่า Endcredit นั้นพีคและตื่นเต้นกว่าหนังทั้งหมด

มาในชื่อ Venom: Let There Be Carnage ซึ่ง Venom หรือเจ้าเอเลี่ยนปรสิต ก็ยังคงติดอยู่กับนักข่าวขี้แพ้ Eddie Brock (Tom Hardy จาก Mad Max: Fury Road, Inception ฯลฯ) นอกจากแชร์ร่างกันแล้ว ทั้งสองยังเสมือนรูมเมทเพื่อนรัก ที่พยายามปรับตัวเข้าหากัน แต่ก็มักลงเอยที่การตีกันไม่รู้จักจบสิ้น สำหรับเรา ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของแฟรนไชส์นี้ เว็บดูหนังฟรี รีวิวหนังฝรั่ง Venom 2

ตัวร้ายหลักของภาคนี้คือฆาตกรต่อเนื่อง Cletus Kasady (Woody Harrelson จาก Zombieland, Now You See Me ฯลฯ) และ Frances หรือ Shriek (Naomie Harris จาก Moonlight) แฟนสาวมนุษย์กลายพันธุ์ของเขา โดย Kasady ได้รับเลือดเอเลี่ยนปรสิตจาก Eddie ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาจึงได้ผนวกร่างกับ Carnage ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกของ Venom ทำให้เขากลายเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ (?) ของ Eddie & Venom และมีฉากต่อสู้วินาศสันตะโรและการฆ่าไม่ยั้งแบบไม่คิดและไม่ปราณีใคร

ภาคต่อที่เล่าเรื่องราวต่อเนื่องของเอ็ดดี้บร็อกที่มีซิมบิโอตปรสิตจากต่างดาวอยู่ในตัวที่มีชื่อ เวน่อม ทั้งคู่ต้องพยายามใช้ชีวิตร่วมกันแม้จะเห็นต่างกันทุกเรื่อง โดยเอ็ดดี้ตั้งกฎห้ามเวน่อมฆ่าคนอีกต่อไป ให้กินแต่ไก่กับช็อกโกแลต จนมาวันหนึ่งเอ็ดดี้ได้รับคำขอร้องจากนักโทษประหาร “เคลตัส คาซาดี้” ให้มาพูดคุยกับเขา และด้วยความผิดพลาดทำให้เคลตัสได้รับเชื้อซิมบิโอตต่อจากเอ็ดดี้ไป และก็กลายเป็นตัวลูกของเวน่อมที่ชื่อ คาร์เนจ ซึ่งตามกฎของเผ่าพันธ์ซิมบิโอตตัวลูกต้องตามกลับมาฆ่าตัวต้นกำเนิดเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งนั่นก็คือที่มาของเรื่องราวการทำลายล้างของคาร์เนจกับเวน่อมในภาคนี้

ตัวเนื้อเรื่องเองนั้นต้องบอกว่าเล่าเรื่องราวแบบเรียบง่ายและค่อนข้างธรรมดา มีฉากย้อนอดีตที่เสริมเข้ามาแบบหนังสมัยก่อนซึ่งแอบเฉยๆแปลกๆในการใส่เข้ามาในเรื่องนี้ และกลับไม่ได้ทำให้หนังมีอารมณ์อะไรร่วมเท่าไรแม้จะใส่เข้ามาให้เพื่อความเข้าใจอะไรในตัวละครแต่เหมือนถูกหยิบใส่มาผิวเผินเกินไป รวมถึงการเล่าเรื่องต่างๆเองนั้นทั้งฝั่นของ Eddie และ Venom รวมถึง Carnage เองก็ไม่ได้มีอะไรให้มมันลึกหรือว่าลงตัวเท่าไรนักเหมือนมันไม่ไปสุดซักทางในการเล่าเรื่องทำให้เล่าแบบเรียบสูตรสำเร็จตและไม่มีจุดพีคหรืออะไรที่ทำได้ดีเท่าไรนัก รวมถึงฉากต่อสู้ตัวร้ายก็ไม่น่าจดจำเท่าไรแม้จะเล่นกับตัว Carnage ที่โหดมากๆแต่หนังกลับเล่าเรื่องไม่ถึง และแถมยังมีมุกตลกที่แอบเฉยๆแปลกๆใส่เข้ามาแบบไม่ได้ขำอะไรถ้ามองในยุคนี้แล้วจึงทำให้ภาพรวมกลายเป็นแย่กว่าภาคแรกที่เคยทำมาซะอีก หนังฟรี 

หนังไม่ได้เกริ่นเรื่องราวก่อนหน้าในภาคที่แล้วเลย อาจจะต้องดูภาคแรกเพื่อทำความเข้าใจกับความสัมพันธ์ของตัวละครในแต่คนก่อน ซึ่งในฝั่งของ เอ็ดดี้ กับ เวน่อม ความสัมพันธ์เหมือนเรากำลังนั่งดูหนังคู่หูตำรวจปราบอธรรมอภิบาลคนที่ทะเลาะกันประจำแต่ก็รักและคอยช่วยเหลือกันปราบเหล่าร้ายอยู่ตลอด แต่กับทางฝั่งตัวร้ายอย่าง คลีตัส กลับมีมิติมากกว่า เพราะหนังไปเล่าถึงปูมหลัง และคู่รักของเขามากกว่าฝั่งพระเอกซะอีก

รีวิวหนังฝรั่ง Venom 2

นี่เป็นหนังแฟรนไชน์ทำเงินของโซนี่ที่นักวิจารณ์ไม่รักมาตั้งแต่ภาคแรกจนมาถึงภาคนี้ (ภาคแรกได้ 30% จากเว็บมะเขือ ส่วนภาค 2 ได้ 59%) แต่คนดูกลับเทคะแนนให้ตรงกันข้าม ซึ่งก็ไม่แปลกใจอะไรเพราะเรื่องราวในภาคแรกกับภาคนี้ยังมีแนวทางเดิมๆ ที่ชวนให้นักวิจารณ์ยี้ จากส่วนผสมของแนวแอนตี้ฮีโร่ติดตลก+เลือดสาด จะว่าเหมือนเดดพูลก็ไม่ใช่เพราะเรตของเรื่องนี้อยู่ที่ PG13 เท่านั้นเอง ซึ่งก็คือไม่มีฉากแหวะกัดเลือดไหลใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมันค่อนข้างย้อนแย้งกับต้นฉบับคอมิคของเรื่องนี้ที่เน้นโหดเลือดสาด ยิ่งภาคนี้การที่เรื่องเน้นไปที่ตัวร้ายคาร์เนจที่ต้นร่างเป็นฆาตกรต่อเนื่อง

คาร์เนจโหดมากกว่าเวน่อมมากมาย แต่พอโดนจำกัดด้วยเรต 13 แบบนี้ก็เลยกลายเป็นตัวเรื่องไม่สามารถไปในแนวทางนั้นได้เต็มที่ที่ หรือแม้แต่สักครึ่งเดียวก็อาจจะยังไม่ได้ด้วย ดังนั้นคงที่คาดหวังความโหดจากตัวร้ายในภาคนี้ก็ต้องผิดหวังกันแน่นๆ แต่ถ้ามองอีกมุมสำหรับคนที่ไม่เคยดูหรือรู้เรื่องต้นฉบับคอมมิคมาก่อน คาร์เนจตัวร้ายในหนังเวอร์ชั่นนี้ก็เป็นตัวร้ายที่มีฉากแอ็กชั่นถล่มทำลายล้างสิ่งต่างๆ รอบตัวได้สนุกแบบเว่อร์ๆ ดีเหมือนกัน

เรียกว่าตอบโจทย์ผู้ชมทุกอายุทุกกลุ่มได้เลย จึงไม่แปลกใจที่หนังทำเงินถล่มทลายทั้ง 2 ภาคสวนทางกับนักวิจารณ์ตลอด แต่กว่าที่เรื่องจะเปิดตัวคาร์เนจก็ปาไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว โดยเป็นฉากแหกคุก กับคั่นด้วยฉากตำรวจไล่ล่านิดหน่อย แล้วก็ไปโผล่อีกทีในฉากต่อสู้ตัดสินท้ายเรื่อง ซึ่งรวมๆ แล้วฉากแอ็กชั่นต่อสู้กันก็ไม่ได้เยอะอย่างที่คิด นอกจากนี้ก็มีตัวละครแฟนของเคลตัสที่มีพลังพิเศษเป็นการพ่นคลื่นเสียงออกมาแจมด้วย แต่เธอก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก เหมือนเป็นตัวร้ายแถมซะมากกว่าครับ

งานภาพและเสียงเองนั้นอันนี้ขอชมเลยว่างานภาพ CG อันนี้เนียนตาและสวยกว่าที่คิดไว้ครับทำได้ดีลงตัวเลยทีเดียวแม้มุมกล้อง หรือ แสงสีอาจจะไม่ได้เน้นสวยอาร์ตอะไรเป็นปกติของค่ายนี้และเรื่องนี้ แต่การฟฟิค เนียนสวยรวมถึงตัวละครต่างๆทำได้เนียนและลงตัวครับ ส่วนเรื่องเสียงเองก็ไม่ได้มีเพลงอะไรติดหูเท่าไรแต่ก็เสริมอารมณ์ของหนังได้ระดับนึง หนังใหม่ 

ภาคนี้หนังมาเป็นสูตรสำเร็จหนัง Superhero สมัยก่อนเลยคือ ง่ายๆ ออกมาปราบเหล่าร้าย สู้กันบ้านเรือนพัง แล้วก็มีจุดเปลี่ยนที่ทำให้ประายอธรรมได้ มิติเรื่องราวของหนังแทบไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ออกมาสู้กันแล้วก็จบไป ซึ่งผมดูภาคนี้แล้วผมนึกถึงหนัง Spiderman ในภาคของ โทบี้ แม็คไกว์ร ที่เจอกับ เวน่อม ด้วยซ้ำ เพราะลักษณะฉากการต่อสู้ ฉาก เวอน่อม ปีนกำแพง มันทำให้นึกถึงจริงๆ

แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาและไม่เกี่ยวกับคนอ่านคอมิคมาคือ การที่เรื่องพยายามเน้นตลกพร่ำเพรื่อมากเกินไป เรียกว่าเหมือนผู้สร้างได้ใจที่ภาคแรกใส่ส่วนผสมนี้มาแล้วคนชอบ ภาคนี้จึงพยายามยัดมุกตลอกเข้ามาถี่ยิบจนทำให้ตัวละครทุกตัวในภาคนี้ต้องหาทางยิงมุกตลกกันหมด ซึ่งแรกๆ ก็อาจจะขำกับมุกทะเลาะกันของเอ็ดกี้กับเวน่อม แต่พอตัวเรื่องยัดมุกตลกใส่ตัวละครทุกตัวอย่าง คาร์เนจ เคลตัส ซึ่งเป็นตัวร้ายก็เลยกลายเป็นตลกที่ออกมาค่อนข้างฝืด แม้กระทั่งไคลแม็กซ์ฉากสู้สุดท้ายของเรื่องก็ยังไม่วายยิงมุกตลกกันมาเรื่อยๆ ซึ่งมันกลายเป็นมุกตลกเฟ้อจนแอบลดทอนความเข้มข้นของฉากแอ็กชั่นในเรื่องไปแทนรีวิวหนังฝรั่ง Venom 2

นอกจากนั้นตัวบทก็ถือว่ามีปัญหาพอสมควร จากการที่เรื่องแทบไม่มีอะไรเลยคือ เอ็ดดี้พาเชื้อไปทำให้เคสตัสกลายเป็นคาร์เนจ แล้วก็กลับมาตามล่าเอ็ดดี้แค่นั้น ไม่อะไรหักมุมหรือแปลกใหม่เลย เรียกว่าเป็นเส้นตรงแน่วจนคนดูไม่ต้องเดาอะไรอีกเลย แถมยังดูการ์ตูนง่ายๆ มากไป ตัวเรื่องจึงเหลือแค่ฉากแอ็กชั่นที่คนรอดูและช่วยกลบบาดแผลของบทตรงนี้ไปแทน

แต่จุดที่ภาคนี้ทำได้ดีก็ยังมี นั่นคือการเน้นความสัมพันธ์ของเอ็ดกี้กับเวน่อม ซึ่งภาคนี้ดูมีจิตใจเหมือนมนุษย์มากขึ้นกว่าภาคแรก โดยเวน่อมเป็นเหมือนคนคอยดูเอ็ดดี้ทุกอย่าง แม้จะชอบพูดกัดเอ็ดดี้ไปด้วยก็ตาม ซึ่งเรื่องทำให้เวน่อมภาคนี้ดูน่ารักขึ้นมาก อีกทั้งยังเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของเอ็ดดี้ในเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง ซึ่งตัวละครแอนนี่แฟนเก่าของเอ็ดดี้ก็ได้กลับมามีบทบาทสมทบนิดหน่อยพอเป็นสีสันเล้กของเรื่องได้ แต่บทในภาคนี้ใส่เธอกลับมาเพื่อตัดออกไปมากกว่า เพราะการที่เรื่องต้องมีนางเอกดูเป็นภาระมากกว่าจะเป็นตัวช่วยสำคัญได้ เพราะยังไงคนก็ต้องการดูตัวเวน่อมมากกว่าอยู่ดี ในตอนจบของเรื่องจึงกลายเป็นฉากกระหนุงกระหนิงบอกรักของเวน่อมกับเอ็ดดี้ไปแทน

เหมือนกับภาคนี้ดร็อปลงจากภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด กับความยาวหนังชั่วโมงครึ่ง สำหรับผมมันคือความบันเทิงเชิงกร่อยเล็กๆ เพียงแต่เราอยากรู้ว่าแล้วมันจะไปยังไงต่อ มันไม่เหมือนภาคแรกที่ทั้งสนุก มันส์ บทมีลูกล่อลูกชนมากกว่า และยังมีอะไรให้ลุ้นมากกว่านี้ แถมมุขตลกก็ขำได้เต็มปากมากกว่า ซึ่งดูเพลินๆ ดูได้ แต่อาจจะรู้สึกว่าภาคแรกดูลงตัวมากกว่า ดูหนังฟรี

จุดที่สองคือเอนเครดิตท้ายเรื่อง เป็นฉากเวน่อมเห็นสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นทอมจากภาพข่าวในทีวี ตอนถูกเปิดหน้ากากออกมาให้ทั่วโลกรู้ ซึ่งจะไปตรงกับเหตุการณ์ของภาคต่อไปของ Spider-Man: No Way Home ที่กำลังจะลงโรงฉายเดือนธันวา คาดว่าน่าจะเป็นตอนที่หมอแปลกใช้เวทย์ช่วยลบความจำคนทั้งโลกเรื่องตัวจริงของสไปเดอร์แมนออกไป แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นพาศัตรูจากอีกมิติมาแทน ซึ่งเวน่อมในเรื่องนี้ก็ได้รับผลจากเวทย์ของหมอแปลกด้วยเช่นกัน ซึ่งก็เป็นการยืนยันกลายๆ ได้ว่าสไปเดอร์แมนภาคนี้มีจุดเชื่อมโยงมาถึงเวน่อมแน่ๆ ครับ

ในขณะที่ Eddie ใช้เวลาแทบทั้งภาคในการเข้าใจ Venom ที่มาเกาะติดกับเขา (จนกระทั่งภาคสองแล้ว ก็ยังคงไม่เข้ากัน 100%) ทาง Kasady ใช้เวลาชั่วพริบตาในการกลายร่างเป็น Carnage อย่างเต็มตัว โดยไม่รู้สึกตื่นตระหนกหรือเซอร์ไพรส์อะไร แต่เราก็พยายามเข้าใจแหละว่า ทั้ง Kasady และ Frances เป็นคนคุกที่ต้องคดีอาชญากรรมร้ายแรงและมีปัญหาทางจิตมาแต่เด็ก เขาจะมองโลกและมีปฏิกิริยาต่อสิ่งรอบตัวแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอยู่แล้ว ดูหนังออนไลน์ 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *