รีวิวหนังฝรั่ง The Lost City

เรื่องราวของ Loretta (รับบทโดย Sandra Bullock) นักเขียนนวนิยายชื่อดัง หนังฟรี นิยายของเธอเป็นแนวโรแมนติก-ผจญภัย เธอเป็นคนรักสันโดษ หนังใหม่ เก็บตัวเขียนนิยายอยู่แต่ในห้อง อดีตนิยายของเธอขายดิบขายดีมีภาคต่อมาหลายเล่ม แต่ปัจจุบันความนิยมของนิยายเธอเริ่มลดลง และเธอก็คิดไอเดียใหม่ๆไม่ค่อยออก ซึ่งนิยายของเธอนั้นมีนายแบบสุดหล่อขาประจำอย่าง Alan (รับบทโดย Channing Tatum) ที่เป็นนายแบบขึ้นปกให้นิยายของเธอมาตลอด ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022

โดย Loretta และ Alan ได้ไปออกงานโปรโมตหนังสือเล่มใหม่ด้วยกัน และหลังจากจบงาน จู่ๆ Loretta ก็ถูกจับตัวไปพบกับมหาเศรษฐีสุดเพี้ยนอย่าง Abigail Fairfax (รับบทโดย Daniel Radcliffe) เขาได้พบกับเมืองลึกลับที่อยุ่ในนิยายของ Loretta ซึ่งการจะหาสมบัติพบนั้นต้องแปลภาษาโบราณ และบังเอิญว่า Loretta เป็นเพียงคนเดียวในโลกที่อ่านภาษาโบราณนั่นออก ดูหนัง  เพราะอดีตสามีเธอเป็นนักโบราณคดีและได้สอนเธอมา จากนั้นเมื่อ Alan ได้รู้ว่า Loretta ถูกจับตัวไป เขาจึงตัดสินใจจะไปช่วยเธอกลับมา เพราะจริงๆแล้วเขาแอบชอบเธอมาตลอด โดยเขาได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจาก Jack Trainer (รับบทโดย Brad Pitt) อดีตทหารหน่วยพิเศษ จากนั้น Alan และ Jack ก็ได้ออกเดินทางไปช่วย Loretta สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ดูหนังออนไลน์ พวกเขาจะช่วย Loretta กลับมาได้สำเร็จหรือไม่ และขุมทรัพย์ที่ Abigail ตามหามีอยู่จริงหรือไม่นั้น ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา 

รีวิวหนังฝรั่ง The Lost City

นอกจากเรื่องราวที่ได้ เซ็ธ กอร์ดอน (Seth Gordon)  ดูหนังฟรี จากหนัง ‘Baywatch’ และ ‘Horrible Boses’ มาวางโครงเรื่องให้แล้ว การได้ ดูหนัง แอรอนและอดัม นีส์ (Aaron and Adam Nees) หรือพี่น้องนีส์จาก ‘The Last Romantic’ และ ‘Band of Robbers’ หนังโรแมนติกและตลกอาชญากรรมมาเขียนบทและกำกับหนังก็ทำให้ ‘The Lost City’ ครบเครื่องเรื่องราวการผจญภัยปนโรแมนติกตามพิมพ์เขียวหลักอย่าง ‘Romancing the Stone’ ที่หนังแอบคารวะอะไรหลาย ๆ อย่างอยู่ตลอดทาง ดูหนังออนไลน์ 

แต่กระนั้นหัวใจหลักของเรื่องอย่างลอเรตตา รีวิวหนังฝรั่ง The Lost City

รีวิวหนังฝรั่ง The Lost City

ซึ่งในทีมเขียนบทเองก็ได้ ดานา ฟ็อกซ์ (Dana Fox) จาก ‘Cruella’ มาเติมฮอร์โมนความโรแมนติกในหนังไปพร้อม ๆ กับฉากผจญภัยปนฮาปวดตับที่ได้ โอเรน อูซีล (Oren Uziel) จาก ’22 Jump Street’ มารังสรรค์ฉากวินาศสันตะโรให้สะใจคอหนังแอ็กชันเลยทำให้ ‘The Lost City’ สามารถสร้างสมดุลระหว่างตัวละครหญิง ความโรแมนติกและฉากแอ็กชันปนห่ามฮาได้บันเทิงครบรสจริง ๆ

มาเริ่มกันที่เรื่องบทและการดำเนินเรื่องกันก่อนดีกว่า ในส่วนของบทถือว่าออกมาดีใช้ได้เลย ผมค่อนข้างชอบ แม้ว่าเรื่องราวจะไม่ได้แปลกใหม่มาก แต่การนำเสนอที่ออกมานั้นน่าสนใจและมีเอกลักษณ์พอสมควร ส่วนตัวผมชอบช่วงต้นเรื่องมากๆ ทั้งตลกทั้งปั่น และดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะแบ่งบทค่อนข้างเป็นสัดส่วน ช่วงแรกของเรื่องคือการเกริ่นนำ ผสมกับการปล่อยมุขฮาๆ มาให้ผู้ชมได้อมยิ้มกันแบบไม่ขาดสาย พอมาช่วงกลางเรื่องคือการผจญภัย ที่เจอแต่เรื่องวายป่วง เพราะตัวละครหลักไม่ใช่พวกสายบู้สายลุยขึ้นเทพ เหมือนหนังผจญภัยทั่วไป แต่ตัวหลักเป็นแค่คนธรรมดา ที่ดันซวยต้องมาผจญภัย มันเลยทำให้มีแต่เรื่องตลกๆ

และความวุ่นวายสุดฮาให้เราได้หัวเราะทั้งเรื่อง พอมาส่วนที่สามหรือท้ายเรื่อง มุขตลกก็ดูจะน้อยลง และไปเน้นที่ความสัมพันธ์ของตัวละคร และความโรแมนติก เลยทำให้บทออกมาแบบครบรส และกลมกล่อม ต่อมาด้านการดำเนินเรื่องส่วนนี้ผมไม่มีอะไรจะติเลย เล่าเรื่องได้ดีและน่าติดตาม เข้าใจง่าย ไม่เล่ายืดเยื้อ ไม่มีส่วนไหนน่าเบื่อเลย สนุกมากๆ และด้วยบทที่เขียนมาดี กับนักแสดงที่เอาอยู่ทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์และดูได้เพลินๆ รู้ตัวอีกทีหนังจบซะแล้ว ถือว่าทำได้ดีมากๆในส่วนนี้

ในภาพยนตร์ตัวเต็มเราจะเข้าใจว่าทำไมเศรษฐีถึงได้จับตัวของนักเขียนมาหาสมบัติแทนที่จะไปจ้างนักล่าสมบัติจริง ๆ

รีวิวหนังฝรั่ง The Lost City

มาช่วย ตรงจุดนี้ถือว่าเคลียร์ ถ้าพูดถึงการผจญภัยก็ต้องมีการบู๊แอกชันและภาพวิหารโบราณสวย ๆ ผมขอบอกตรงนี้ก่อนเลยว่านั้นมันคือประเด็นรองจริง ๆ มันไม่ใช่หนัง แอ็คชั่น ผจญภัย โรแมนติก ต้องเรียกว่าเป็นหนังโรแมนติกที่เอาเหตุการณ์ผจญภัยมาเป็นตัวดำเนินเรื่องมากกว่า ถึงแม้บทยังไม่สุด เป็นหนังแอ็คชั่นก็สอบตก จะหนังผจญภัยก็ไม่ค่อยตื่นเต้น ส่วนบทโรแมนติกพอถูไถได้บ้าง แต่ในท้ายที่สุดแล้วตัวหนังก็ยังสามารถสร้างความสนุกทำให้เราหัวเราะกับมุขตลก ความบ้าบอ ความซื่อของตัวละครทำให้เราสนุกและหัวไปกับมันได้ไม่ยาก

ในส่วนของตัวนักแสดงต้องขอคาราวะแม่ แซนดราบลุล็อก (Sandra Bullock) มากเธอถือได้ว่าแบกหนังไว้จริง ๆ เป็นการแสดงที่ดูอิน ไม่ล้นจนน่ารำคาญ และบางจังหวะตัวละครของเธอก็ช่วยให้รอดพ้นจากสถานการณ์นั้น ๆ มาได้ สำหรับพระเอกของเรา แชนนิง เททัม(Channing Tatum) พยายามแสดงตลกเกินไปจนมันไม่ตลก

ต้องยอมรับตามตรงว่าผมไม่ชอบบทของ เททัม สักเท่าไหร่นัก ทะเล้นแบบซื่อบื้อ เป็นตัวละครที่ถ้าปรากฎตัวออกมาในเวลาที่มีเหตุร้ายอะไรเราจะไม่รู้สึกว่าปลอดภัยเลย 555 และส่วนที่ไม่ชอบที่สุดเลยคือตัวร้ายที่บทสร้างมาให้ตายง่ายซะเหลือเกินอีกฝ่ายเป็นแค่นักเขียนกับนายแบบแต่กลับเสียท่าให้ง่ายเกินไป

ผจญภัยนครสาบสูญ เป็นเรื่องราวที่บอกเล่าถึง Loretta (Sandra Bullock) อดีตนักเขียนที่มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เธอได้ออกมาโปรโมทหนังสือนิยายเล่มใหม่ของเธอ พร้อมด้วยนายแบบปกคู่ใจ Alan (Channing Tatum) แต่หลังงานโปรโมท Loretta โดนจับตัวไปโดย Abigail Fairfax (Daniel Radcliffe) แล้วบอกว่าสมบัติในนิยายของเธอมีอยู่จริง

และเธอเป็นคนเดียวที่สามารถพาไปยังขุมสมบัตินั้น ทำให้ Alan ได้ออกเดินทางไปช่วยเหลือ Loretta และร่วมมือกันสวมวิญญาณเป็นตัวละครในนิยายที่เธอแต่งเพื่อตามหาสมบัติก่อนที่จะตกไปเป็นของมหาเศรษฐีจอมวายร้าย

หนังมันชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นหนังผจญภัยผสมผสานความเป็นคอเมดี้ รีวิวหนังฝรั่ง The Lost City

แต่บทและการดำเนินเรื่องมันอ่อนแอเหลือเกิน ทั้งเรื่องราวการผจญภัยที่ไม่ได้รู้สึกถึงความลำบากฝ่าฟันอุปสรรคอะไรสักนิด ยิ่งพาร์ทการไขปริศนานี่ตัดไปเลย ง่ายแบบไม่ต้องใช้สมองหรือลุ้นอะไรเลย ส่วนทางเรื่องความตลก มุกเกินกว่าครึ่งนี่ฮากริบมาก ที่พอขำมีอยู่ประมาณ 10% ของเรื่องได้ หลายอย่างดูย่ำอยู่กับที่และพยายามตลกจนเกินไป มันเป็นมุกตลกที่คาดเดาได้ รวมถึงเนื้อเรื่องก็เป็นเส้นตรงแหน่วเลย ไม่มีเลี้ยวอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น

แต่ละตัวละครก็แบนอย่างน่าเหลือเชื่อ ตั้งแต่ต้นจนจบดูไม่มีการพัฒนาตัวละครเลย Sandra Bullock ในหนังคอเมดี้เป็นยังไงเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นแหละ รวมถึง Channing Tatum ก็ตลกแบบพยายามเกินไป ทางด้าน Daniel Radcliffe ก็ไม่มีอะไรนอกจากเป็นวายร้ายตามตำรา มีการตะโกนแหกปากโวยวายเป็นระยะ ๆ ส่วนตัวละครแวดล้อมอื่น ๆ ที่ไม่ได้เอื้อความฮาอะไรเลย ดูไม่มีความจำเป็นเสียด้วยซ้ำ ส่วน Brad Pitt ก็คงมาเซอร์วิสแฟนเฉย ๆ เพราะบทก็ไม่ได้มีอะไรมากเท่าไหร่

ส่วนที่จะขาดไม่ได้เลยคือนักแสดงนำอย่างแม่แสงดาว บุญล้อม หรือ แซนดรา บูลล็อก

ที่สร้างเสน่ห์และเสียงฮาให้ตัวละครลอเรตตาได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าบทหนังจะเขียนมาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะมุกตลกต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นหลักของเรื่องอย่างการตามหาการผจญภัยที่ขาดหายและรักอดีตที่เป็นตัวขับเคลื่อนตัวละครนี้ให้ออกไปผจญภัยอีกครั้ง แต่บูลล็อกก็ยังทำให้คาแรกเตอร์ของลอเรตตามีมิติและช่วยให้ช่วงเปลี่ยนผ่านที่เธอเริ่มมีใจให้อดัมดูน่าเชื่อถือและตกเราให้รักเธอในวัย 58 ปีกันอีกครั้งจนได้

แม้แต่แชนนิง เททัมเองก็ยังสามารถทำให้ตัวละครอดัมเป็นมากกว่าแค่อาหารตาของสาว ๆ และแม้ว่าในหนังเขาจะต้องโชว์เซ็กซี่อยู่ไม่น้อยแต่เป็นแววตาและจังหวะมุกตลกต่าง ๆ ที่เททัมพัฒนาฝีมือมาไกลมากจนทำให้อดัมน่าจะกลายเป็นตัวละครชายที่ถูกสวมบทประหนึ่งนางเอกในหนังผจญภัยยุคนี้ที่ถูกย้ายขั้วปมการโดนดูถูกว่าหล่อแต่ไม่มีสมองและพิสูจน์ตัวเองให้ลอเรตตาและคนดูได้เห็นว่าเขาก็เป็นพระเอกได้เมื่อคนรักถูกรังแก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *