รีวิวหนังฝรั่ง spider man no way home

สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาแนะนำมา รีวิวหนังฝรั่ง หนัง ฮีโร่ สนุกๆเรื่องนึง ที่ส่วนตัวแล้วนั่น ผมคิดว่าหลายๆคนจะต้องรู้จักแน่นอนกับ spider man no way home จากค่ายหนัง ซูปเปอร์ฮีโร่ชื่อดัง ที่พวกเราเองก็ต้องรู้จักกันดีอีกเช่นเคย กับ marvel ค่ายนี้รับประกันความสนุกทุกเรื่องจริงๆ

นี่เป็นหนังเรื่องนึง ที่ หลายต่อ ผู้คนจํานวนมาก รอ สูงที่สุด ที่ปีเลยก็ว่าได้ จากปัญหาต่างๆ มากมายก่ายกอง ระหว่าง Sony กับ Marvel ที่มีต่อผู้แสดงนี้

กระทั่งมันออกมาเป็นหนังหัวข้อนี้ให้พวกเราได้มองกันเนี่ยล่ะ คน ไฮป์กันทุกตอน ตั้งแต่แบบอย่างแรก พร้อมเรื่องราว กระแสข่าวลือต่างๆ ก็เลยไม่ประหลาดใจเลยว่าทําไมคนถึง

แห่ไปดูกัน ตั้งแต่วันแรกรีบจองตั๋วล่วงหน้ากันรัวๆทุกภาค ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา หนังสไปเดอร์แมนจะมีความเป็น Coming-of-age หรือ หนังก้าวผ่านวัยอยู่เสมอ

และก็ในภาคนี้มันเป็นอีกระดับของการก้าวผ่านวัย หนังมันโตขึ้นจริงๆ อีกทั้ง ส่วนประกอบ บท รวมทั้งการเดิน เรื่อง ต่างๆ ทํา ให้ หนัง ประเด็นนี้มันสามารถ ให้เอาผู้ชมอยู่มากมาย

ต้องการเอาใจช่วยแล้วก็ติดตามทุก ผู้กระทํา ระทําของ Peter Parker ในฐานะ Spider-Man ทั้งยัง พาร์ท ตรามาเอ่ย พาร์ท โรแมนติกเอ่ย ท่าเจริญจริงๆ กลมกล่อมละมุนละไม

ครบรส ครบอารมณ์ มากมาย ถึงหนัง จะความยาว 2 ชั่วโมงเกือบจะครึ่ง แม้กระนั้นไม่มีส่วน ไหน หรือ จุดไหนที่คิดว่า ยึด หรือ น่ารําคาญเลย เล่าได้ สนุกสนาน น่าติดตาม จริงๆ

spider-man no way home เรื่องย่อ หนัง Spider-Man No Way Home หรือ ชื่อไทยว่า สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม

เป็นครั้งแรก ที่ Spider-Man ไม่ต้องหลบซ่อนใต้หน้ากากอีกต่อไป รวมทั้งเขา ไม่สามารถที่จะแยก ชีวิต ในฐานะ ซูเปอร์วีรบุรุษออกมาจากชีวิต ธรรมดา ได้อีกต่อไป

เมื่อเขาไปขอให้ด็อกเตอร์สเตรนจ์ช่วยเหลือ แต่ว่ามันเปลี่ยนไปเป็นวุ่นวายกว่าเดิม บังคับให้เขาต้องหาแนวทางแก้ไขแล้วก็ใส่ความหมายของการเป็นสไปเดอร์แมน

หนังหัวข้อนี้จะเสนอแนะ สิ่ง ที่เรียก ว่า Multiverse ในจักรวาลมาร์เวลอย่างเป็นทางการ พร้อมๆ กับคนร้าย จากอีกทั้ง Spider-Man แล้วก็ The Amazing Spider-Man ก็จะมาปรากฏตัวด้วยเช่นเดียวกัน

เริ่มแรก คงจะต้อง ตบมือ ชื่นชอบ ผู้ที่หลีก สปอยล์หนัง ประเด็นนี้ได้อยู่มือ คอยไปพิสูจน์กับตาตนเอง ในโรง ภาพยนต์ พวกคุณเก่งมากมายจริงๆ

เนื่องจากว่า Spider-Man: No Way Home เกือบจะเป็นหนังมาร์เวลที่ไม่ สามารถที่จะน่าไปร้อยเรียงเล่า ให้บุคคลอื่นฟังได้แบบไม่ติดสปอยล์รายละเอียดไปด้วย มิได้เลย

เพียงเริ่มฉาย เพียงแค่ไม่กี่นาทีก็สาตอีสเตอร์เอ้กเข้ามาแบบไม่ยั้ง มีอะไรให้เซอร์ไพรส์ ผู้ชม อยู่เสมอ ระยะกว่า 2 ชั่วโมงเศษของ หนัง

จริงๆแม้กระนั้นบทหนังของ Spider-Man: No Way Home ก็เห็นว่ายังไม่ถึงกับขนาดดีดีสุด แต่ว่าเนื่องแต่ใจความ แล้วก็หัวใจสําคัญของเรื่อง ค่อนข้างจะหนักแน่น อย่างดีเยี่ยม

ก็เลยทําให้องค์ประกอบที่ตรงนั้นมาช่วย ทิศเหนือ อยรั่ว ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตลอด ตามทางของหนัง ได้ ค่อนข้างจะใช้ได้

ครั้งคราวก็ยังแอบคิดไป เพราะหนังค่อนข้างจะ เยิ่นเย้ออยู่บ้าง บางจุดยังสามารถ ทําให้กระชับ

ได้เพิ่มขึ้นกว่านี้ในช่วงเวลาที่งานสร้างผ่านวิสัยทัศน์ของผู้กํากับ “จอน วัตต์ส” ก็ออกจะน่าพึงพอใจ เขารู้จักแนวทาง

รวมทั้ง จังหวะสําหรับการเล่าของแฟรนไชส์นี้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ในภาคนี้จะมีการยกข้อความสําคัญ ดราม่า ขึ้นมา เด่น กว่า ภาค ก่อนที่จะผ่านมา แต่ว่า ในส่วนประกอบทั้งยังแอคชั่น, ขําขัน และก็ดราม่า

สองปีมานี้ โควิดกับสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาจทำให้ความสำคัญของโรงหนังด้อยลงไปบ้าง ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมา จะมีหนังบล็อกบัสเตอร์เข้ามาช่วยกู้ชีพบ้างประปราย

รวมถึง Dune ที่เป็นบทพิสูจน์ว่า หนังบางเรื่องเขาสร้างมาให้เสพในโรงโดยเฉพาะ แต่เราคิดว่า Spider-Man: No Way Home คือเรื่องแรกในรอบสองปีที่ทำให้มั่นใจจริง ๆ ว่า “โรงหนังจะยังไม่ตาย”

Spider-Man: No Way Home อาจไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบ และไม่ได้มี cinematic ที่ยอดเยี่ยมอย่าง Dune แต่เป็นหนังที่มอบ “ประสบการณ์ร่วม” แก่คนดูที่หาดูได้ยากยิ่งในโรงภาพยนตร์

บรรยากาศในโรงหนังแฮปปี้มาก คนดูต่างปรบมือและกรี๊ดพร้อมกันหลายฉากโดยมิได้นัดหมาย นี่คือหนังที่สนอง need ของแฟน ๆ สไปดี้อย่างเต็มอิ่ม และเอาใจคอหนังฮีโร่มาร์เวลที่สุดในรอบ 20 ปี

เอาเป็นว่า Spider-Man: No Way Home โดดเด่นด้วยการเซอร์วิสแฟนๆ ได้อย่างมีชั้นเชิง การที่ได้เห็นการเปิดมัลติเวิร์สและเห็นเหล่าร้ายจากจักรวาลอื่นๆ

ของหนังไอ้แมงมุมกลับมารวมตัวกันอีกครั้งก็ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์ที่ชุ่มฉ่ำไปทั้งหัวใจผู้ชมแล้ว หนังยังรับบทบาทเซอร์วิสแฟนๆ

ยิ่งเข้าไปอีกเรื่อยตามท้องเรื่อง ที่ในท้ายที่สุดได้กลั่นกรองออกมาเป็นพลังแห่งความสุขที่ล้นเปี่ยมหลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องจบลง

คงจะบอกได้ว่า Spider-Man: No Way Home ก็น่าจะเป็นหนังภาคที่ดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับ 2 ภาคแรกที่ผ่านมา ด้วยองค์ประกอบต่างๆ

และเส้นเรื่องกับหัวใจของเรื่องที่หนักแน่นเป็นอย่างดี รู้จักเป็นอย่างดีกว่าแฟนๆ ต้องการอะไร ใส่จังหวะโบ๊ะบ๊ะและประเด็นเสียดสี จิกหัวตัวเอง, ค่ายหนัง และจักรวาลหนัง ได้อย่างถูกจังหวะ

ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาก็สามารถตอบโจทย์นั้นออกมาได้เป็นอย่างดี