รีวิวหนังฝรั่ง Sonic the Hedgehog

รีวิวหนังฝรั่ง Sonic the Hedgehog ด้วยการจับเอาตัวละครเม่นสีน้ำเงินจากเกมฮิตของ Sega แต่เมื่อมีดราม่าดีไซน์ตัวเอกที่ไม่ไหวจะเคลียร์ในตัวอย่างแรก ทีมผู้สร้างหนังก็ยอมลงทุนเอาหนังไปแก้หน้าตาตัวละครให้ออกมาจนแฟนๆ ยอมรับ ทำให้ตอนนี้เราคิดว่าอยากจะแวะไปดู Sonic The Hedgehog ฉบับปรับปรุงเพื่อให้กำลังใจคนทำหนังซะแล้ว โดยเนื้อเรื่องจะเล่าว่า Sonic เดินทางทะลุจากดาวของตัวเองมาสู่โลกมนุษย์ อีกประการหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าดูคือการได้เห็น Jim Carrey มารับบท Dr. Ivo Robotnik ตัวร้ายแบบเพี้ยนๆ ที่รู้สึกว่าเขาห่างหายจากการรับบทแบบนี้ไปนาน เว็บดูหนัง

เนื่องจากต้นฉบับเกมไม่มีที่มาที่ไปของโซนิคที่ชัดเจนนัก และพอถูกนำมาเล่าเป็นหนัง ทำให้ต้องมีการเล่าปูมหลังและที่มาที่ไปของโซนิค ที่ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่สมเหตุสมผลไปบ้าง แต่เพียงไม่นานหลังจากนั้น เราก็จะดำดิ่งสู่โลกของโซนิคในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ อย่างแรกเลยคือ ใครที่ติดภาพลักษณ์ของเจ้าโซนิคในฉบับเกมที่หน้าตาห้าว ๆ หน่อย อาจจะต้องปรับระดับความคาดหวังลงมา โซนิคในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นั้น หน้าตาดูน่ารัก เหมือนเด็กวัยรุ่น ส่วนนึงก็เพราะนี่น่าจะเป็นหนังภาคแรก และเป็นจุดกำเนิดของโซนิคด้วย ยังไม่เข้าสู่ช่วงห้าวเต็มวัยแบบภาพลักษณ์ที่เราเห็นในเกม

สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ กับการยอมรับฟีดแบ็คของผู้ชมและนำเอาโมเดลโซนิคกลับไปแก้ไข จนออกมาดูดี แม้จะยังไม่ดีที่สุด แต่ก็ทำให้คาแรคเตอร์โซนิคดูน่าจดจำขึ้นมาทันที ทั้งนี้เพราะผู้เขียนนึกภาพไม่ออก ว่าถ้าเป็นเจ้าโซนิคโมเดลเก่า แต่ถูกนำมาเล่าเรื่องในหนังเรื่องนี้ เราจะอินดีหรือไม่ เพราะหน้าตามันไม่ค่อยน่าเอ็นดูเหมือนเวอร์ชั่นใหม่เอาซะเลย

ฉบับภาพยนตร์นั้น นำเสนอโซนิคให้เหมือนกับเด็กที่ได้พลังพิเศษ และพเราะการที่เขามีพลังพิเศษแถมไม่ใช่คนนี่แหละ เลยทำให้เขาไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้ และต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงา ๆ ตลอดเวลา ทำให้คาแรคเตอร์ของโซนิคในหนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างจากตัวละครจำพวกเด็กมีพลังพิเศษและโดนรังเกียจในเรื่องอื่น เพียงแต่เขาไม่ได้เผยตัวตน และไม่ได้โดนรุมกลั่นแกล้งเท่านั้น เว็บดูหนังฟรี 

นักแสดงหลักของหนังเรื่องนี้คือ James Marsden อดีตผู้รับบท Cyclops จากหนังชุด X-MEN (เวอร์ชั่นเก่าปี 2000) และอีกคนที่ขาดไม่ได้เลยคือ จิม แครีย์ แต่เราคงจะไม่บอกว่าจิม แครีย์แบกหนัง เพราะซีจีของโซนิค และการแสดงของนักแสดงท่านอื่นก็ทำออกมาได้ดี เพียงแต่ จิม แครีย์ แกออกแนวจ้างร้อยเล่นล้าน เล่นจนล้นสุด ๆ เลยทำให้ดูเหมือนว่าตัวละครของเขานั้นแย่งซีนนักแสดงท่านอื่นก็เพียงเท่านั้น เพราะต้องยอมรับจริง ๆ ว่าทุกครั้งที่จิม แครีย์ออกมาในหนัง น้อยที่สุดก็ทำให้เราหัวเราะแห้ง ๆ ได้ หรือบางฉากก็ฮาลั่นโรงเลยก็มี

รีวิวหนังฝรั่ง Sonic the Hedgehog

น่าจะเป็นหนังวีดิโอเกมที่ถูกจับตามองมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับ Sonic the Hedgehog (2020) ที่ช่วงต้นปีที่แล้วมีประเด็นดราม่าจากเหล่าแฟนบอยของน้องเม่นสายฟ้าในตำนาน ซึ่งออกอาการไม่ปลื้มอย่างแรงหลังจากได้เห็นเทรลเลอร์เปิดตัว โดยเฉพาะดีไซน์ตัวโมเดลในแบบฉบับ live action ที่ทำเอาโหงวเฮ้งหน้าตาของเจ้าโซนิคดูห่างไกลกับเวอร์ชันต้นฉบับในเกมหรือการ์ตูนมากจนถูกแฟน ๆ

แห่เข้าไปกด dislike กันใหญ่ และจากกระแสต่อต้านอย่างหนักนั้นก็ส่งผลให้ Jeff Fowler ผู้กำกับและทีมผู้สร้างตัดสินใจยอมปรับดีไซน์ตามคำเรียกร้องให้ใกล้เคียงกับในเกมมากที่สุด ซึ่งจากปัญหาเรื่องแก้ดีไซน์นี้ทำให้หนังต้องเลื่อนฉายจากกำหนดเดิมราว 3 เดือน แถมทาง Sega เจ้าของแฟรนไชส์ต้องเข้ามาดูแลการดีไซน์รอบใหม่ด้วย โดย Paramount Pictures ใช้งบประมาณการออกแบบตัวละครใหม่อยู่ประมาณ 5 ล้านเหรียญฯ

เจ้าเม่นสายฟ้ากับบทบาทที่ต้องออกมาเล่นกับคนจริง ๆ ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายไม่น้อย โดยไลน์อัปก็ไม่ขี้เหร่ นอกจาก เจมส์ มาร์สเดน (James Marsden) พ่อหนุ่ม Cyclops และที่หลายคนอาจคุ้นเคยกับบทคาวบอยในซีรีส์ Westworld, ทิก้า ซัมพ์เตอร์ Tika Sumpter สาวผิสีทรงเสน่ห์จาก Gossip Girl, แล้วยังมีลุงจิม แคร์รี (Jim Carry) กับบท ดร.โรบอทนิกส์ คู่อริตลอดกาลของโซนิค ที่คาแรกเตอร์ของ ดร.สติเฟื่องนี่ดูเข้าทางลุงแกมาก ๆ

รีวิวหนังฝรั่ง Sonic the Hedgehog

เรื่องราวของ Sonic the Hedgehog เริ่มจากการปรากฏตัวขึ้นของโซนิค สิ่งมีชีวิตในต่างดาวอันไกลโพ้นหน้าตาคล้ายเม่น ที่มาพร้อมสกิลวิ่งเร็วระดับวาร์ปอันเลื่องชื่อ รวมทั้งมีพลังงานไฟฟ้าแรงสูง ต้องหลบหนีจากบ้านเกิดที่เติบโตตั้งแต่ยังเล็ก จับพลัดจับผลูหลุดมาอยู่ในโลกมนุษย์ที่เมืองกรีนฮิลล์ เมืองเล็ก ๆ ในรัฐมอนทาน่า โซนิคใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำเล็ก ๆ อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อน อยากเล่นอะไรทำอะไรก็ทำคนเดียว จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันเผลอใช้พลังพิเศษในตัวระเบิดแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ซึ่งรัฐบาลสหรัฐช็อกกับเหตุการณ์ครั้งนี้มากจนเชิญนักวิทยาศาสตร์อย่าง หนังฟรี 

ดร.โรบอทนิกส์ เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุ ดร.แกะรอยจนรู้ว่าเป็นโซนิค และค้นเจอเบาะแสสำคัญที่ทำให้ตระหนักถึงพลังไร้ขีดจำกัดของเม่นจอมแสบรายนี้ จึงออกไล่ล่าเม่นสีน้ำเงินทันที ขณะที่โซนิคเองก็ได้พบกับ ทอม วาชอวสกี้ (เจมส์ มาร์สเดน ) เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มประจำเมืองกรีนฮิลล์ ซึ่งโซนิคขอร้องให้ทอมช่วยคุ้มครองความปลอดภัยจาก ดร.โรบอทนิกส์ ขณะเดียวกันก็ต้องออกตามหาเหรียญวาร์ปสีทองที่เคยนำพาเขามายังโลกมนุษย์ ซึ่งบังเอิญทำหล่นหายไปในเมืองซานฟรานซิสโก

สำหรับ โซนิค เวอร์ชันนี้ต้องบอกเลยว่าลบฝันร้ายหรือคำสาปสำหรับวิดีโอเกมที่มักออกมาเละเทะเมื่อดัดแปลงเป็นหนังจอเงิน ด้วยการถูกวางในพลอตสำเร็จรูปที่เข้าถึงง่าย ขายความน่ารักสมจริงกับกลุ่มคนที่โตมากับการ์ตูนหรือเกมมากกว่าโฟกัสเด็กรุ่นใหม่ ยิ่งหากต่อยอดจากตัวละครแบบนี้ที่มีความเป็น iconic จ๋าอยู่ในตัวสูงแล้ว ความกดดันจากฐานแฟนบอยนี่แทบจะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานไว้เลย นอกจากอาจจะมีบางเรื่องหลุดฟอร์มเลวร้ายจนกลายเป็นไปทำลายความฝันวัยเด็กซะงั้น อย่างพวก เต่านินจา, ดราก้อนบอล หรือนานกว่านั้นก็มาริโอ้ ที่แทบอยากจะลืม ๆ ไปเคยทำเป็นหนัง หนังใหม่ 

ความน่ารักแสบสันต์ และแววตาก๋ากั่นของเจ้าโซนิคที่ต้องยกความดีความชอบให้ทีมผู้สร้างที่ตัดสินใจดีไซน์ใหม่ ตัวหนังเซอร์วิสแฟนดั้งเดิมของโซนิคเป็นอย่างดี โดยจะใส่รายละเอียดศัพท์แสงที่คนเคยเล่นเกมโซนิคสมัยเด็ก ๆ ในยุค 90s ต้องคุ้นเคยมาเป็นระยะ ทำให้รู้สึกอินได้ง่ายมาก ซีจีทำได้ค่อนข้างดีเลย แต่ยังมีส่วนที่รู้สึกลอย ๆ อยู่บ้าง ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการดีไซน์โซนิคใหม่ที่มีความเป็นตัวการ์ตูนมากกว่าเดิมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เหนือเรื่อง CGI ออกไป MVP ตัวจริงคือ ลุงจิม แคร์รี นี่แหละที่ขยันขโมยซีนมาก! บางฉากลุงแกฮาซะเอาน้องเม่นเจื่อนไปเลย (ฮา) เรียกว่าเข้ามาเป็นเดอะแบ็กตัวจริง และเมื่อหักลบกับพลอตเบา ๆ ตัวละครแบน ๆ แบบดูขำ ๆ แล้ว ลุงจิม คือคนที่ยกระดับ Sonic the Hedgehog ขึ้นมาสู่ระดับที่เรียกว่า ‘ดีเกินคาด’ อย่างแท้จริง

รีวิวหนังฝรั่ง Sonic the Hedgehog

นอกจากนี้ พาร์ตหนึ่งที่ประทับใจชนิดเซอร์ไพรส์หน่อย ๆ ก็คือเมสเซจเรื่องชีวิตที่ซุกซ่อนอยู่ โดยเฉพาะการตั้งคำถามกับการมีชีวิตอยู่ มันทรงพลังกว่าที่คิดไว้มาก ช่วงท้ายทำซึ้งเอาเรื่อง มันเป็นภาพจำใหม่ ๆ ของโซนิคในมุมที่แตกต่างออกไปจากยี่สิบกว่าปีก่อน เจ้าเม่นสายฟ้าไม่ได้เป็นเพียงตัวละครเท่ ๆ ที่มีไว้โชว์สปีดเร็วกว่านรกอีกต่อไป แต่จะได้เห็นโซนิคมีพัฒนาการหันเหมาเป็นซุปเปอร์ฮีโรคอยปกป้องเมืองกรีนฮิลล์แห่งนี้ด้วย แถมยังมีเครดิตแถมท้ายให้สาวกได้กรี๊ดกร๊าดกันอีก

หากความหวังของเราคือการได้เห็นเจ้าโซนิคออกมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ ก็ต้องบอกว่ามันทำออกมาได้ดีมาก มากกว่าที่เราคาดหวังไว้ด้วย เพียงแต่สุดท้ายแล้วข้อดีของมันก็มีอยู่เพียงเท่านี้ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าหนังมันจะห่วยครับ หนังเรื่องนี้มันไม่แย่เลย เพียงแต่มันธรรมดาจนเกินไป จนเราไม่รู้สึกประทับใจหรือมีอารมณ์ร่วมกับมันขนาดนั้น สาเหตุที่มันธรรมดาเกินไป เพราะพลังความเร็วแบบนี้ปรากฎให้เราเห็นบ่อยแล้วในหนังหรือซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ต่าง ๆ ดังนั้นการออกแบบฉากแอ็คชั่นในโซนิคมันเลยดูซ้ำซาก เพราะเราเคยเห็นมาแล้ว มันเลยไม่ค่อยว้าวเท่าที่ควร เราจะไม่สปอย แต่คุณไปดูแล้วจะรู้เองว่าฉากไหน ดูหนังฟรี 

อาจเป็นเพราะนี่คือการปูพื้นภาคแรกของหนังโซนิค ทำให้การเล่าเรื่องมันยังซ้ำซากจำเจอยู่กับประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างโซนิคที่ดูเหมือนมนุษย์ต่างดาว กับพระเอกอย่างทอมที่เป็นมนุษย์ ซึ่งเราก็เห็นบ่อยมากจากหนังเรื่องอื่น ๆ นี่จึงเป็นปัญหาหลักของหนัง เพราะพล็อตแบบนี้มันมีให้เห็นเกลื่อนกลาดแล้ว ดังนั้นใครที่คาดหวังว่าโซนิคในฉบับหนังจะได้เห็นอะไรแปลกใหม่ก็อาจจะต้องทำใจไว้นิดหน่อย

แต่อย่างที่เราบอก มันไม่ใช่หนังแย่ มันเป็นหนังที่ดูสนุกมาก เด็กดูได้สบาย ๆ ไม่มีอะไรรุนแรง ผู้ใหญ่ก็ดูได้เพลิน ๆ ถ้าเป็นเกมเมอร์หรือชื่นชอบโซนิคก็จะชอบเลย และถึงแม้มันไม่ได้แย่ แต่มันก็ขาดเสน่ห์หรืออารมณ์ร่วมกับหนังไปเยอะมาก ทำให้ดูจบแล้ว เราไม่ค่อยรู้สึกอะไรกับมันนัก แค่จบแล้วก็จบเลย จะมีเซอร์ไพรส์นิดหน่อยก็ช่วงตอนจบที่เป็นสัญญาณที่บอกเราว่า ภาค 2 มาแน่นอน (ถ้ารายได้เข้าเป้า)

ไม่ใช่หนังจากเกมที่แย่ และดูจากรายได้ ณ ตอนนี้ มันน่าจะประสบความสำเร็จอย่างงดงามและน่าภูมิใจในฐานะที่เป็นหนังจากเกม แต่ถ้ามองมันเป็นภาพยนตร์ทั่วไป ก็คงต้องบอกว่ามันขาดอารมณ์ร่วม และไม่ค่อยน่าจดจำสักเท่าไร อาจจะเป็นเพราะต้องวางโครงสร้างและเนื้อเรื่อง และเชื่อได้เลยว่าภาค 2 นี่ล่ะ อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของโซนิคจริง ๆ ซึ่งเราก็หวังว่ามันจะประสบความสำเร็จ จนได้ทำออกมานะ ดูหนังออนไลน์ 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *