รีวิวหนังฝรั่ง Jupiter Ascending หนังแอ็คชั่น ไซไฟ ฟอร์มยักษ์

สวัสดีครับเพื่อนๆสหายคอหนังกันทุกคนทุกท่านนะครับ หากจะพูดถึง Jupiter Ascending เราก็คงไม่คุ้นกันเท่าไหร่ แต่หากพูดว่าหนัง แอ็คชั่น ไซไฟ ฟอร์มยัก ผลงานของ สองพี่น้อง Andy และ Lana แล้วหละก็ ผมเชื่อว่าเพื่อนๆต้องอ่อกันแน่นอน วันนี้ผมจะ รีวิวหนังฝรั่ง เรื่องนี้กันครับ

รีวิวหนังฝรั่ง Jupiter Ascending ผลงานสองพี่น้อง Wachowski

ภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟฟอร์มยักษ์สุดตระการตา ผลงานการกำกับและเขียนบทโดยสองพี่น้องตระกูล Wachowski ที่เคยฝากผลงานกับภาพยนตร์ไซไฟไตรภาค

ที่สร้างกระแสและรายได้ถล่มทลายมาแล้ว กับ The Matrix การกลับมาของพวกเขาในครั้งนี้มาพร้อมกับเรื่องราวการต่อสู้ข้ามดวงดาว ที่มีหญิงสาวที่มีชื่อว่า “จูปิเตอร์” เป็นหัวใจของการดำเนินรื่องในครั้งนี้

รีวิวหนังฝรั่ง Jupiter Ascending

เรื่องย่อ Jupiter Ascending

jupiter ascending เรื่องย่อ สาวรัสเซียอพยพ ที่กำเนิดและเติบโตมาในครอบครัวที่ประกอบอาชีพเสมือน janitor (ภารโรง) หรือพนักงานรับจ้างทำความสะอาดบ้านในเมือง Chicago ที่เบื่อชีวิตบ้าน ๆ ของตัวเองเต็มแก่

แต่แล้ววันนึง ชีวิตของนางก็พลิกผัน เมื่อนางซินฯ ผู้ขัดส้วม ถูกค้นพบว่าเป็นราชินีผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล อดีตเจ้าของโลก กลับชาติมาเกิดใหม่

และเมื่อลอร์ด Balem Abrasax (Edddie Redmayne จาก Les Misérables และ The Theory of Eveything) พี่ใหญ่แห่งตระกูล Abrasax ทราบเรื่องเข้า ก็รีบคิดหาทางกำจัด เพราะกลัวนางจะมาช่วงชิงโลกหรือมรดกอันล้ำค่าใบนี้คืนไปจากตนตามสิทธิในพินัยกรรม

แต่แผนการของลอร์ด Balem ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นัก เพราะเขามี Kalique (Tuppence Middleton จาก The Imitation Game) และ Titus (Douglas Booth จาก LOL, Romeo & Juliet, และ Noah) น้องสาวและน้องชายในไส้ของเขา คอยขัดขวางอยู่อย่างลับ ๆ

โดย Titus ได้ส่งลูกครึ่งคนครึ่งหมา Caine Wise (Channing Tatum จาก Step Up, G.I. Joe, White House Down, และ Foxcatcher)

ไปชิงตัว Jupiter Jones ออกมาก่อนที่คนของ ลอร์ด Balem จะตามหาเจอ โดยมี Stinger Apini (Sean Bean จาก The Lord of the Rings, Troy, และ Game of Thrones) อดีตทหารเก่าคอยช่วยเหลือที่โลกมนุษย์

รีวิวหนังฝรั่ง Jupiter Ascending

ความรู้สึกหลังรับชม Jupiter Ascending

หนังดำเนินไปอย่างที่คาดหวังให้คนดูคอยปะติดปะต่อเรื่องในช่วงแรก แต่แล้วก็เริ่มดำเนินไปอย่างเป็นเส้นตรง ด้วยภาษาพูดของราชวงศ์ที่ฟังเข้าใจยากจนแทบจะทำให้เราพลัดตกจากเรื่องราว

สิ่งที่เป็นปัญหาอีกอย่าง คือ เราไม่เห็นเคมีหรือความรู้สึกอะไรต่อกันเลยจากสองพระนางที่ดูเหมือนนางเอกจะเล่นเป็นฝ่ายรุกเสียมากกว่ากระนั้น

ทาทั่มในเรื่องนี้ บอกได้ว่าดร็อปลงไปมาก ทั้งรูปลักษณ์ที่มีหนวดเครา สวมฟันยางจนหน้าเรียวขึ้น แถมยังทาเมกอัปจนขอบตาคล้ำไป

ขณะที่คูนิส ก็ไร้ความโดดเด่นในด้านการแสดง ทั้งยังไร้แง่มุมด้านลึกที่พอจะทำให้คนดูรู้สึกร่วมไปด้วยได้

ขณะที่ Eddie Redmayne ที่กำลังจะได้ดิบได้ดีกับ ‘The Theory of Everything‘ ก็ต้องมามีรอยด่างพร้อยเพราะบทของบาเล็ม พี่ชายคนโตของแอบราแซกซ์

ที่น้ำเสียงการพูดดูแปลกประหลาด หลุดและโดดมาจากตัวละครทุกตัว พอมาเจอกับลีลาการพูดของตัวละครอื่น ๆ ที่เหมือนลิเกเข้าไปอีก ทีนี้ เลยยิ่งเกาะไม่ติดกับเนื้อเรื่องเข้าไปใหญ่

ในความน่าเบื่อของ ‘ศึกดวงดาวพิฆาตสะท้านจักรวาล’ ก็ยังมีจุดดี ๆ อยู่บ้าง นั่นคือ การทุ่มเทไปที่งานสร้างฉากแอ็คชั่นหวือหวา งานสร้างภาพสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่สวยงามเนียนตา

โปรดักชั่นการออกแบบอุปกรณ์และยานอวกาศที่โฉบเฉี่ยวสร้างสรรค์ งานด้าน 3 มิติถือว่าพอสอบผ่าน ดูผ่านแว่นก็ยังไม่พบฉากที่ต้องร้องว้าวมากมายนัก

ขณะที่ดนตรีประกอบใช้วงออร์เคสตร้าที่ขับเน้นเครื่องเป่ามากเป็นพิเศษเพื่อสร้างความอลังการ หากบางช่วงก็ดูมันล้ำเกินหน้าภาพไปนิดนึง

เมื่อมันถูกหยิบรวมเข้าไปเล่าร่วมกับเรื่องราวที่ถูกสลัดหลุดได้ง่ายด้วยบทพูดอย่างที่ว่าไป มันกลับไม่ช่วยให้หนังดูสนุกอย่างที่มันควรเป็น

รีวิวหนังฝรั่ง Jupiter Ascending

รีวิวหนังฝรั่ง Jupiter Ascending ภาพรวมของหนัง

กล่าวโดยภาพรวมแล้ว Jupiter Ascending อาจจะเป็นหนังที่บกพร่องในหลาย ๆ ด้าน แต่ในขณะเดียวกันถ้าปล่อยสมองให้ว่าง ๆ และลืม ๆ

หนังแอ็คชั่นไซไฟในอดีตที่เคยดูมาแล้วมันอาจจะดูสนุก……. แต่พอดีว่าผู้เขียนลืมหนังเก่า ๆ ที่มีวิธีการเล่าเรื่องที่สนุกกว่าไม่ได้ผลสุดท้ายเลยออกมาตามคะแนนด้านล่างนี่แหละครับ

บทสรุป Jupiter Ascending

หลังจากที่ผู้กำกับฯ Wachowski เคยทำพวกเราหลับในโรงกันไปแล้วกับหนังฟอร์มใหญ่ Cloud Atlas เมื่อปี 2012 ในปีนี้ พวกเราจะมาหาวกันต่อกับ Jupiter Ascending ภาพยนตร์ที่ควรถูกนิยามว่า “space opera” ที่สุดแห่งทศวรรษ

พูดกันง่าย ๆ ซื่อ ๆ Jupiter Ascending เป็นหนังที่มีฉาก แสงสีเสียง และเสื้อผ้าหน้าผม ยิ่งใหญ่ตระการตาฟอร์มยักษ์

อลังการยิ่งกว่าโรงละครรัชดาลัยเธียเตอร์ (ก็แหม ทุนสร้างตั้ง $175 ล้านนี่เนอะ) แต่บทกลับเชยและน้ำเน่ายิ่งกว่าละครหลังข่าวบ้านเรา เป็นหนังช่วงชิงมรดกระดับจักรวาล

นักแสดงระดับฟอร์มยักษ์ทั้งเรื่อง การปรากฏตัวเพียงไม่กี่ฉากของ Edddie Redmayne นั้นทรงพลังกว่าพระเอกมาก ปีนี้ถือเป็นปีเกิดของเขาคนนี้จริง ๆ ส่วนความหล่อมีเสน่ห์ คงต้องยกให้ Douglas Booth โดยรวมพระเอกของเรื่อง Channing Tatum จึงไม่ค่อยโดดเด่นสักเท่าไหร่

หนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรให้คิดวิเคราะห์หรือรีวิวมากนัก โดยสรุปเลยละกัน เราหาวไปทั้งสิ้น 3 ครั้ง แต่พอถึงฉากบู๊ เราก็ตื่นตาตื่นใจจริง ๆ ฉากบู๊เขาทำไม่แย่ คือสนุกเป็นช่วง ๆ

เพียงแต่การดำเนินเรื่องโดยรวมมันไม่สนุกก็เท่านั้น Jupiter Ascending จึงถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างของหนังที่ทุนมหาศาล ภาพสวย ซีจีเนียน ดาราดัง แต่เพราะบทแย่ อะไร ๆ มันจึงดูแย่ไปเสียหมดเลย

ภาพรวมแล้ว Jupiter Ascending อาจจะเป็นหนังที่บกพร่องในหลาย ๆ ด้าน แต่ในขณะเดียวกันถ้าปล่อยสมองให้ว่าง ๆ และลืม ๆ หนังแอ็คชั่นไซไฟในอดีตที่เคยดูมาแล้ว

มันอาจจะดูสนุก……. แต่พอดีว่าผู้เขียนลืมหนังเก่า ๆ ที่มีวิธีการเล่าเรื่องที่สนุกกว่าไม่ได้ผลสุดท้ายเลยออกมาตามคะแนนด้านล่างนี่แหละครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *