รีวิวหนังฝรั่ง Cargo (คาร์โก้)

รีวิวหนังฝรั่ง Cargo (คาร์โก้)  บอกเล่าเรื่องราวของแอนดี้และเคย์ พวกเขาเป็นสามีและภรรยากันโดยมีลูกสาวด้วยกัน 1 คนชื่อว่าโรซี่ พวกเขาร่วมกันเดินทางกันเพื่อหนีไวรัสซอมบี้แพร่ระบาด แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะเคย์เสียชีวิตระหว่างเดินทาง ส่วนแอนดี้ก็ติดเชื้อซอมบี้ แอนดี้เหลือเวลาเพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะหลังจากเวลาผ่านไป 48 ชั่วโมง เขาจะต้องกลายเป็นซอมบี้ เขาจึงต้องใช้เวลาที่เหลือเพื่อหาคนที่สามารถรับเลี้ยงลูกสาวของเขาได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายนัก เพราะไม่ว่าใครก็กลัวเชื้อซอมบี้ ต้องตามไปลุ้นกันค่ะว่าแอนดี้จะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ ? เว็บดูหนัง 

ภาพยนตร์เรื่องคาร์โก้แตกต่างจากภาพยนตร์แนวซอมบี้เรื่องอื่น ๆ ค่ะเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้นำเสนอเรื่องของการโจมตีของเหล่าซอมบี้ แต่ตัวเรื่องจะพาเราไปสัมผัสประสบการณ์การเดินทางของแอนดี้ในเรื่องเขาต้องพาลูกสาวไปหาที่ปลอดภัยกำบังตัวเองเพราะภรรยาของเขาตายและเขาก็ติดเชื้อซอมบี้ แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเบา ๆ แต่ภาพยนตร์เรื่องคาร์โก้ก็สอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับครอบครัวได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

ต้องบอกเลยว่านี่เป็นหนังเกี่ยวกับซอมบี้อีกเรื่อง ที่มี Setup ต่างๆ ได้น่าสนใจ และเน้นขายดราม่าชนิดที่ว่า ถ้าหากใครบ่อน้ำตาตื้น และไม่มีภูมิคุ้มกันเรื่องหดหู่ รวมไปถึงมีความแพ้และเอ็นดูในตัวเด็กน้อย ต้องขอบอกเลยว่าเรื่องนี้เสียน้ำตาแบบไม่ทันตั้งตัวแน่ๆ

ในช่วงแรกของหนังจะดำเนินเรื่องเรื่อยๆ เกี่ยวกับครอบครัวของ แอนดี้ (มาร์ติน ฟรีแมน) ที่กำลังล่องเรือเพื่อไปหาชุมชนที่ยังมีคนอาศัยอยู่ เพราะว่าเสบียงของพวกเขาเหลือน้อยเต็มที แถมยังมีลูกน้อย โรซี่ ติดสอยห้อยตาม ทำให้ทั้งเขาและภรรยาต้องหาทางรอด

แต่แล้วความกดดันก็ถาโถมเข้ามาแบบไม่ตั้งตัว เมื่อภรรยาของเขาดันโดนกัดจนทำให้ติดเชื้อ และแอนดี้เองก็ติดด้วย ทำให้เขาต้องหาทางส่งลูกน้อยไปให้ถึงมือของใครสักคน ที่พร้อมจะเลี้ยงดูลูกของเขา ก่อนที่เขาจะกลายร่างไปใน 48 ชั่วโมง  เว็บดูหนังฟรี 

อีกหนึ่งผลงานจาก Netflix ที่หยิบเอาหนังสั้นในชื่อเดียวกันมาคิดใหม่ เล่าใหม่ให้เป็นหนังขนาดยาว ในฉบับดั้งเดิมนั้นเป็นผลงานการกำกับของเบน ฮาวลิ่งและโยลันดา แรมเก้ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมกับภรรยาและลูก แต่หลังจากที่เขาได้สติฟื้นคืนมา เขาพบว่าภรรยาที่อยู่ข้างๆได้กลายร่างเป็นซอมบี้ไปซะแล้ว

รีวิวหนังฝรั่ง Cargo (คาร์โก้)

อีกทั้งเขายังค้นพบว่าตัวเองมีบาดแผลจากการโจมตี ส่งผลให้เขาติดเชื้อ และกลายร่างในไม่ช้า เขาจึงพยายามคิดหาวิธีเอาตัวรอดและป้องกันไม่ให้ตัวเองที่จะกลายร่างทำร้ายลูก เขาจึงใช้วิธีการผูกเอาเศษเนื้อไว้ที่ด้านหน้าและสะพายลูกไว้ที่ด้านหลัง เพื่อเหตุผลที่ว่ายามที่เขากลายร่างแล้วร่างไร้วิญญาณของเขาจะได้เดินไปแต่ข้างหน้าและไม่ทำร้ายลูกที่อยู่ข้างหลัง หนังฟรี 

สำหรับพล็อตในเวอร์ชั่นหนังยาวนั้น CARGO เลือกจะเล่าเหตุการณ์ก่อนเวอร์ชั่นหนังสั้น เราจะพอได้รับรู้ว่าสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์โรคระบาดที่เปลี่ยนให้คนกลายเป็นซอมบี้ แอนดี้ (มาร์ติน ฟรีแมน) และเคย์ (ซูซี่ พอตเตอร์) สองสามีภรรยาที่พยายามกระเตงลูกน้อยเพื่อเดินทางไปยังเป้าหมายที่เขาเชื่อว่าน่าจะเป็นแหล่งปลอดเชื้อด้วยเส้นทางการเดินเรือที่ดูทุลักทุเล

แอนดี้ได้พบกับเรือยอร์ชที่ล่มอยู่ริมฝั่ง เขาจึงตัดสินใจไปสำรวจและได้เสบียงอาหารติดไม้ติดมือกลับมา และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความหายนะ เมื่อเคย์แอบกลับไปสำรวจที่เรือยอร์ชลำดังกล่าวและกลับมาพร้อมกับแผลโดนกัดเหวอะหวะ นั่นทำให้แอนดี้เริ่มตระหนักว่า เขาจะต้องขึ้นฝั่งและเดินทางไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อช่วยชีวิตภรรยาของเขาก่อนที่จะกลายร่างเป็นซอมบี้ หนังใหม่ 

ความน่าสนใจในเรื่อง ก็คือการติดเชื้อจนกลายเป็นซอมบี้ ที่คนติดจะมีเมือกยางเหนียวๆ สีส้มคล้ายน้ำผึ้งหลั่งออกมา ก่อนที่จะกระหายเลือดและเนื้อ และมีระยะเวลากลายร่างประมาณ 48 ชั่วโมง มากน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้ติดเชื้อเอง

ในเรื่องเราจะได้เห็นอุปกรณ์ที่เหมือนกล่องปฐมพยาบาล แต่มันเป็นกล่องที่บรรจุคู่มือ พร้อมอุปกรณ์รับมือการติดเชื้อ ที่มีทั้งฟันยาง เอาไว้ใส่ป้องกันคนติดเชื้อไปกัดคนอื่น มีสายรัดมือ นาฬิกาข้อมือจับเวลา เชือก และมีกระทั่งอุปกรณ์สำหรับฆ่าตัวตายด้วยการยิงเหล็กแหลมแทงสมองก่อนกลายร่าง ในหนังไม่ได้อธิบายมาก แต่นี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจและในหนังไม่ได้บอกและขยายเรื่องราวต่อเท่าที่ควร ว่าของพวกนี้มันเป็นมายังไง หรือสถานการณ์โลกภายในเรื่องมันถึงขั้นไหน เพราะเราจะเห็นการดำเนินเรื่องอยู่ในทุ่ง ชนบทของออสเตรเลียเสียส่วนใหญ่ ดูหนัง 

และเมื่อมันดำเนินเรื่องในชนบทอันห่างไกล ที่ตัวเอกต้องคอยกระเตงลูกน้อยฝ่าพื้นที่กว้างๆ จนได้ไปเจอกับเด็กสาวชาวเผ่าอะบอริจิน ที่พ่อของเธอก็กลายร่างเหมือนกัน และทำให้แอนดี้ประสบอุบัติเหตุจนรถของเขาพัง ต้องหาทางเดินเท้าเพื่อไปยังหมู่บ้านที่อาจจะมีผู้คนอาศัยอยู่ ดูหนังออนไลน์ 

รีวิวหนังฝรั่ง Cargo (คาร์โก้)

รีวิวหนังฝรั่ง Cargo (คาร์โก้)

หนังระทึกขวัญ Cargo คาร์โก้ เป็นเรื่องราวของหนังซอมบี้ ที่เน้นในเรื่องของความดราม่า ความรักของผู้เป็นพ่อ “แอนดี้” กับหนูน้อย “โรซี่” ที่ออกเดินทางเร่ร่อนไปในดินแดนที่ตกอยู่ในการยึดครองของเหล่าซอมบี้ ที่มาพร้อมกับเงื่อนไขเวลาที่เหลืออยู่เพียง 48 ชั่วโมง ก่อนที่แอนดี้ที่ติดเชื้อจะกลายร่างกลายเป็นปีศาจกระหายเลือด ทำให้เขาต้องพยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างจำกัดตามหาสถานที่ปลอดภัยที่จะฝากฝังลูกสุดที่รักของตัวเอง

น่าเสียดายที่หนังสั้นความยาว 7 นาที เมื่อถูกนำมาขยายให้เรื่องราวกว้างกว่าเดิม กลายเป็นความวุ่นวาย ไม่จำเป็นและเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก ไม่ว่าจะเป็นปมที่ทำให้เคย์กลายร่างเป็นซอมบี้นั้นก็เป็นสถานการณ์ที่จัดได้ว่าสร้างความ “น่าหงุดหงิด” ให้กับคนดูเป็นอย่างมาก ยังไม่รวมไปถึงช่วงที่หนังเริ่มผันตัวเป็น Road Movie ที่แอนดี้ต้องกระเต็งลูกน้อยไปพบกับเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจอสาวแก่ในโรงพยาบาล (หนึ่งฉากที่เหมือนเป็นส่วนเกินของเรื่องและไม่ได้ช่วยขับเคลื่อนอะไรให้กับหนังนัก) ก่อนที่เขาจะได้พบกับวิค (แอนโธนี่ เฮยส์) ชายวัยกลางคนที่เหมือนจะช่วยชีวิตเขาไว้ แต่ภายหลังเขากลับพบว่าชายคนนี้ชั่วร้ายกว่าที่คิด ดูหนังฟรี 

กลายเป็นว่า CARGO ในเวอร์ชั่นหนังยาวอุดมไปด้วยช่วงเวลาที่ไม่ได้ขับเคลื่อนเรื่องราวของหนังไปไหน และหลายตัวละครก็ล้วนแล้วแต่ถูกใส่เข้ามาอย่างไรประโยชน์ ยังไม่รวมไปถึงฉากไคลแมกซ์ของเรื่องที่ขาดความขลังและตราตรึง ต่างจากเวอร์ชั่นหนังสั้นราวฟ้ากับเหว ไม่เชื่อก็ลองดูเวอร์ชั่นหนังสั้นดูได้

ในเรื่องได้แอบใส่ดราม่าเกี่ยวกับชนเผ่าพื้นเมือง การรุกรานผืนแผ่นดินเข้ามาบ้างประปราย แต่ที่น่าสนใจก็คือ การรับมือกับซอมบี้ของพวกชนเผ่า ซึ่งดูเหมือนพวกเขาจะรู้วิธีจัดการ และป้องกันพวกมันด้วยการทาหน้า แต่ในหนังก็ดันไม่เล่า และขยายความตรงนี้เท่าไหร่ ทั้งๆ ที่มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องราวในโลกซอมบี้น่าสนใจมากขึ้น ดูหนังออนไลน์ 

จุดเด่นของหนังประเภทที่เกี่ยวกับซอมบี้คงเป็นการเอาตัวรอด ที่จะมีพวกคนเห็นแก่ตัว หรือพวกนิสัยแปลกๆ ทำให้ตัวเองอยู่รอดในโลกที่โหดร้ายนี้ได้ ในเรื่องนี้ก็มีเหมือนกัน และมันได้เพิ่มความสนุกและกดดันให้กับตัวเรื่องอย่างมากเลยทีเดียว แม้ว่าเราอาจจะพอเดาได้บ้างว่ามันจะเป็นยังไง

ในหลายๆ ส่วน ของหนัง เลือกที่จะหยิบหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างที่น่าสนใจ มารวมๆ กัน เพื่อให้เรื่องมันดำเนินไปต่อได้ โดยไม่ขยายความน่าสนใจนั้น ซึ่งน่าเสียดายอย่างมาก เพราะหนังพยายามยัดรวมหลายอย่างมากเกินไป จนไม่โฟกัสไปจุดใดจุดหนึ่งจนเนื้อเรื่องมันดูแล้ว “ไม่แน่น” มีพล็อตโฮลอยู่พอสมควร ไอ้ที่ควรเล่าก็ไม่เล่า ไปเล่าในส่วนนั้นส่วนนี้เสียจนยืดเยื้อเกินไปในบางช่วง และเป็นหนังซอมบี้ที่แปลกดีที่เขาใส่เรื่องราวเกี่ยวกับชนเผ่าอะบอริจินเข้ามาเป็นสีสัน ซึ่งต่างจากหนังซอมบี้ปกติที่จะดำเนินเรื่องในเมืองใหญ่

แต่ในด้านดีของเรื่องนี้ต้องยกให้กับการแสดงของ มาร์ติน ฟรีแมน และบทดราม่าของตัวหนังที่ทำออกมาได้ดีมาก เพราะในด้านดราม่าที่กดดัน สถานการณ์ที่ตัวเอกต้องเจอ รวมไปถึงผู้คนที่สิ้นหวัง ทำให้ยิ่งดูแล้วยิ่งขมวดคิ้วและสิ้นหวังไปกับพร้อมแอนดี้และลูกน้อยของเขาจริงๆ เพราะการเดินทางเพื่อตามหาใครสักคนที่จะรับช่วงต่อให้การเลี้ยงลูกของตัวเองมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความเป็นพ่อคนทำให้เขาต้องหาทางทำทุกวิถีทาง แม้ว่าตัวเองติดเชื้อใกล้จะตายเต็มที

ในช่วงสุดท้ายของหนัง แม้ว่าการเดินทางที่กระท่อนกระแท่น รวมถึงตัวบทในส่วนต่างๆ หละหลวมและยืดเยื้อในบางช่วง ก็ถูกกลบด้วยดราม่าที่เล่นเอาคุณน้ำตาซึมแบบไม่ทันได้ตั้งตัวไปกับความรักของคนเป็นพ่อ ที่มาร์ติน ฟรีแมน ได้ถ่ายทอดออกมาผ่านการแสดงได้อย่างดี

หนังระทึกขวัญ Cargo คาร์โก้ เป็นหนังที่เต็มไปด้วยบทเรียนในการใช้ชีวิตที่น่าสนใจ แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสะเทือนอารมณ์และจับใจเป็นอย่างมาก ท่ามกลางฉากบรรยากาศที่ถูกถ่ายทำขึ้นในชนบทของประเทศออสเตรเลีย

การกำกับภาพและแสดงของตัวละครทุกตัวที่ปรากฏอยู่ในเรื่องราวนั้นถือว่ายอดเยี่ยมอย่างมาก เมื่อนำเอาองค์ประกอบทั้งหมดนี้มารวมกัน ทำให้หนังระทึกขวัญ Cargo คาร์โก้ เป็นอะไรที่มากกว่าเพียงแค่หนังซอมบี้ที่เคยเห็นมาก่อนในอุตสาหกรรมหนังซอมบี้จำนวนมหาศาลในปัจจุบัน ด้วยความแปลกใหม่ที่แสนน่าทึ่งและน่าประทับใจ

โดยรวมแล้ว อยากจะบอกว่า นี่เป็นหนังดราม่าที่มีธีมเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับซอมบี้ มากกว่าจะเป็นหนังซอมบี้ที่เอาชีวิตรอดไปเรื่อยๆ แบบ Walking Dead แต่ถ้าหากให้เทียบกับเวอร์ชั่นหนังสั้นต้นฉบับ มันได้ขยายสเกลของเรื่องราวออกมามาก “เกินไป” แม้หลายๆ สิ่งในเรื่องจะดูน่าสนใจ แต่ก็ไม่ขยายความต่อและปล่อยทิ้งไว้ทั้งๆ ที่มันควรจะทำได้ดีกว่านี้ แต่ในด้านดราม่า ทำออกมาได้หดหู่ และดีซะจนเผลอเสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้ได้โดยไม่รู้ตัวเลย

ถึงตัวหนังจะเดินเรื่องค่อนข้างจืด และเชื่องช้า ไม่มีจุดหมายแน่ชัด หนังคลำประเด็นหลักไม่เจอ วักไปเจอแต่น้ำ หลงประเด็นไปเยอะ ซอมบี้กลายเป็นตัวประกอบสนิทในทันใด รวมทั้งตรรกะการกระทำตัวละคร ระดับ IQ ติดลบที่มีมาให้หงุดหงิดทั้งเรื่อง และดันไปลดต้นทุนในส่วนที่เป็นจุดขายซะงั้น มัวแต่ไปเน้นอะไรที่มันไม่ควรอยู่ในหนังแนวนี้แต่แรก ดูหนัง 

แอนดีและเคย์ซ่อนตัวอยู่บนเรือบ้านกับโรซี ลูกสาววัย 1 ขวบ เพื่อหนีไวรัสซอมบีที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ชีวิตบนเรือของพวกเขาสิ้นสุดลงเมื่อเคย์ถูกโจมตีและเสียชีวิต ส่วนแอนดีก็ติดเชื้อซอมบีในที่สุด เขาเหลือเวลาเพียง 48 ชั่วโมงก่อนที่จะกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาพยายามหลบเลี่ยงมานาน แอนดีจึงต้องเสี่ยงเดินทางหาผู้ปกครองคนใหม่ให้ลูกสาวของเขา ชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่เจริญรุ่งเรืองกลุ่มหนึ่งเป็นโอกาสรอดที่ดีที่สุดของโรซี แต่ด้วยทัศนคติไร้ความเมตตาต่อผู้ติดเชื้อ ชนพื้นเมืองกลุ่มนี้จึงอาจเป็นภัยต่อเขาและลูกสาวเช่นกัน ทูมี เด็กหญิงชาวพื้นเมืองดั้งเดิมกลายเป็นโอกาสเดียวของแอนดีในการเข้าถึงชุมชนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ได้อย่างปลอดภัย แต่โชคไม่ดีที่เด็กหญิงยังไม่ต้องการกลับไปยังชุมชนของเธอ เพราะเธอก็กำลังหาวิธีรักษาพ่อที่ติดเชื้อด้วยการพาวิญญาณกลับคืนสู่ร่าง แอนดีและทูมีต่างแสวงหาความรอดในแบบของตนเอง แต่พวกเขาต้องร่วมมือกันหากต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น

รีวิวหนังฝรั่ง Cargo (คาร์โก้)

เซ็ตติ้งโลกยุคหลังวิกฤติซอมบี้ได้สมจริงดี ทุกอย่างดูแร้นแค้น มีแต่ซากปรักหักพัง การแสดงอยู่ในระดับกลางๆ ส่วนแอ็คติ้งซีนดราม่าดูอินบทใช้ได้ ถึงประเด็นมันจะไม่ใหญ่ แต่ก็ทำให้ดูมีอะไรขึ้นมาได้ตัวซอมบี้ก็ดีไซน์ออกมาดูน่ากลัวใช้ได้ เวลาโผล่มาทีนี่ลุ้นอยู่เหมือนกัน ถึงจะน้อยจนนับฉากได้เลยก็เถอะ เรทก็โหดเอาเรื่อง เห็นไส้พุงกองเลือดกันจะๆ จะออกแนวแหวะอยากขย้อนมากกว่าโหดเลือดสาดหนังเลือกจบเรื่องเป็นสไตล์ของตัวเอง ให้ดูสมจริงขึ้น และพ่อก็ใช้วิธีที่ลูกน่าจะรอดมากกว่าในหนังสั้นการเดินเรื่องช้าเอื่อยเฉื่อย ไม่มีจุดหมายแน่ชัดเท่าไหร่ เหมือนเดินทางไปตายเอาดาบหน้า เจออะไรระหว่างทางก็ไปตรงนั้น ทั้งๆที่ชีวิตครอบครัวเป็นเดิมพันแท้ เรื่องนี้ซอมบี้โหรงเหรงมาก เหมือนหมดงบทำ CG โผล่มาแฮร่สองทีแล้วก็ตัดฉาก เลยหมดความลุ้นไปเยอะหนังใส่น้ำเข้ามาเยอะจนหลุดประเด็นหลักไปไกล จากหนังเอาตัวรอดกลายเป็น เน้นคอนเซ็ปต์จิตวิญญาณ และความเชื่อชนเผ่ามากเกินไปโลจิกหนัง เหตุผลการกระทำต่างๆ พังหนักมาก ทุกคนทำอะไรโง่ๆ พาตัวเองไปเสี่ยงแบบไม่ใช้หัวคิดชวนขัดใจตลอดทั้งเรื่อง แรงจูงใจไม่แม้แต่จะเกริ่นสักแอะ แถมยังมีความคิดป่วยๆ ที่จะอยากผูกขาดสินค้าด้านพลังงานตอนโลกฟื้นการกลายร่างซอมบี้ดูลดต้นทุนมาก แค่เอาเมือกเหลืองๆมาทาๆ ความรุนแรงอาการติดเชื้อข้ามขั้นเกินไป ทั้งๆที่เหลือเวลา 48 ชั่วโมง แต่ผ่านไปสองชั่วโมงกระอักเป็นเลือดแล้ว เวลาที่เหลือก็แทบไม่มีอาการอะไรหนักกว่านั้น หนังชอบตั้งกฎเหล็กบางอย่างขึ้นมา ว่าห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาดนะ ตรงนี้อันตรายมาก สุดท้ายก็ฉีกทิ้งหมดหน้าตาเฉย แทบไม่มีประโยชน์ที่จะใส่เข้ามาเลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *