รีวิว Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023) หลังจากที่ Phase 4 ของ MCU ได้ทำหน้าที่ในการสานต่อเรื่องราวที่ยังค้างคาจาก Avengers: Endgame (2019) พร้อมกับเปิดตัวเรื่องราวของฮีโร่ยุคใหม่ และขยายขอบเขตของจักรวาลให้ใหญ่ด้วยการเล่นประเด็นพหุจักรวาล หรือ Multiverse ที่จะมีผลสำคัญกับสงครามครั้งใหม่ที่กำลังจะมา ดูหนังออนไลน์ฟรี

และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ในตอนนี้เราได้เข้าสู่บทต่อไปของมหากาพย์ใหม่ของจักรวาลอย่าง ‘The Multiverse Saga’ เป็นที่เรียบร้อยแล้วกับการท้าทายให้ภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ตัวจิ๋วครอบครัวอบอุ่นแห่ง MCU

 ได้ก้าวเท้าเข้าสู่การเป็นจุดเปิดตัวศักราชใหม่แห่ง Phase 5 พร้อมทั้งเปิดตัวมหาวารร้ายคนใหม่ที่อาจจะทำให้ทุกจักรวาลถึงคราวดับสูญใน Ant-Man and the Wasp: Quantumania ตะลุยมิติควอนตัม 

“I don’t have to win. We both just have to lose.” 
“ผมไม่ต้องชนะ แค่เราจะแพ้ไปด้วยกันก็พอ” 

รีวิว Ant-Man and the Wasp

รีวิว Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023) เรื่องราวโดยย่อ

Ant-Man and the Wasp: Quantumania ตะลุยมิติควอนตัม ภาพยนตร์เปิดตัว MCUPhase 5 อย่างเป็นทางการ ภาพยนตร์เรื่องที่ 31 จาก Marvel Studios และเป็นการผจญภัยเดี่ยวครั้งที่สามของครอบครัวซุปเปอร์ฮีโร่แห่งวงการตัวจิ๋ว 

บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยครั้งสำคัญที่อาจจะพลิกโฉมโลกไปตลอดกาลของ Scott Lang/Ant-Man (Paul Rudd) และ Hope van Dyne/Wasp (Evangeline Lilly)

เมื่อพวกเขา และครอบครัวอย่าง Hank Pym (Michael Douglas), Janet van Dyne (Michelle Pfeiffer) และ Cassie (Kathryn Newton) ลูกสาวของสก็อตถูกดึงตัวเข้าสู่พื้นที่ที่เล็กยิ่งกว่าอะตอมอย่างมิติควอนตัม (Quantum Relam)  รวมรีวิวหนังฝรั่ง

รีวิว Ant-Man and the Wasp

 

จักรวาลใหม่ที่อยู่ภายใต้ดินแดนของเรา ที่ซึ่งพวกเขาจะได้เผชิญหน้าและต้องเข้ายับยั้งแผนการของมหาวายร้ายผู้ควบคุมกาลเวลาได้อย่าง Kang the Conqueror (Jonathan Majors) ที่ถ้าหากแผนการของเขาสำเร็จ มันอาจจะส่งผลกระทบอันร้ายแรงต่อจักรวาลมากมายทั้งปวง 

คู่หูซูเปอร์ฮีโร่ สก็อตต์ แลง และโฮป แวน ไดน์ ออกเดินทางร่วมกันอีกครั้ง ในฐานะ แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ อีกทั้งทั้งยังได้ แฮงค์ พิม และ เจเน็ต แวน ไดน์ พ่อและแม่ของโฮป มาร่วมออกเดินทางตะลุยมิติควอนตัม

พร้อมร่วมเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตแปลกใหม่ ที่พวกเขาต้องก้าวข้ามขีดจำกัดพร้อมกับวายร้ายที่น่ากลัวอย่าง แคง 

รีวิว Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023) การดำเนินเรื่อง

หากใครที่ได้รับชมสองภาคก่อนของแฟรนไชส์ (Ant-Man (2015), Ant-Man and the Wasp (2018)) ไปแล้ว ก็คงจะทราบดีว่า จุดเด่นของภาพยนตร์ชุด Ant-Man ก็คือ การดำเนินเรื่องราวการผจญภัยในฉบับเล็ก ๆ แต่มาพร้อมด้วยความสนุกแบบเรียกเสียงฮาได้ไม่หยุดหย่อน 

 

 ซึ่งทั้งสองภาคที่ผ่านมาก็สามารถสร้างเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยการเป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่แนวครอบครัวอบอุ่นได้ในระดับดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัวของ Lang เองหรือ Pym ก็ตาม รีวิวหนังผีฝรั่ง

รีวิว Ant-Man and the Wasp

ซึ่งสำหรับ Quantumania นี้ ตัวภาพยนตร์ก็ยังคงวางระดับความสนุก และความตื่นเต้นไว้ได้ดีตามมาตรฐาน มีการใส่อารมณ์ขำขันเข้ามาทำหน้าที่ได้ดีเหมือนเดิม แถมบางช่วงของเรื่องราวมีชวนให้รู้สึกเซอร์ไพร์สเป็นอย่างมาก

 

โดยเฉพาะเหล่าตัวละครใหม่ ๆ ที่ออกมาสร้างสีสันกันเรื่อย ๆ เรียกว่า เสน่ห์ความตลกของ AntMan ไม่ได้หายไปไหนเลย แถมออกมาสนุกมากกว่าภาคที่แล้วซะอีก รวมไปถึงฉากแอ็กชันที่ทำได้บันเทิงเข้าขั้น และมีความเล่นใหญ่ไม่ใช่น้อย

ที่ถึงแม้หลายคนอาจจะไม่ถูกใจในช่วงท้ายเรื่อง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มัน คือ สิ่งที่แสดงถึงความเป็นทีมมนุษย์มดอย่างแท้จริง 

รีวิว Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023) ความแปลกใหม่

หนึ่งในความน่าตื่นตาตื่นใจขั้นสุดที่ Quantumania ได้มอบให้ คือ จักรวาลอันแปลกใหม่ภายใต้มิติควอนตัม ที่ต่างมีพื้นที่และสิ่งมีชีวิตให้นำเสนอมากมาย เรียกได้ว่า เป็นภาพยนตร์ Star Wars ในฉบับMCU ก็ไม่ผิดไปเลย เพราะ ที่ผ่านมาเราพอจะได้รู้จักมิติควอนตัมไปบ้าง โดยเฉพาะการดำเนินของเวลาที่ไม่เหมือนใคร จนกลายเป็นตัวช่วยสำคัญของเหล่าอเวนเจอร์ในสงครามมหาจักรวาล Avengers: Endgame (2019) 

รีวิว Ant-Man and the Wasp

 

แต่ในครั้งนี้ เราจะได้ลงไปค้นพบในส่วนที่ลึกยิ่งกว่า ที่มาพร้อมกับสถานที่อันน่าอัศจรรย์ อันเป็นจุดที่มอบความใหญ่โตตระการตาให้แก่ตัวภาพยนตร์อย่างเป็นที่สุด รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตชาวมิติควอนตัมที่หลากหลายและน่าสนใจ โดยเฉพาะตัวละครใหม่อารมณ์ดีอย่าง Veb (ให้เสียงโดย David Dastmalchian) ที่เป็นตัวเรียกเสียงฮาของเรื่องราวได้ตลอดเวลาที่ปรากฎบนจอ หนังฝรั่งสนุกๆ

รีวิว Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023) ตัวละคร

Paul Rudd กลับมารับบทเป็น Scott Lang/AntMan เป็นครั้งที่ 5 ในจักรวาล ที่ซึ่งไม่ได้ลดละความพยายามในการเพิ่มเติมเสน่ห์และพัฒนาการให้ตัวละครนี้เลยแม้แต่น้อย ยังคงเป็นตัวละครคุณพ่อที่คอยสร้างความสนุก และความตลกได้ตลอด 

 

พร้อมทั้งคู่รักแตนพิฆาตอย่าง Hope van Dyne/Wasp ตัวละครของ Evangeline Lillyที่อาจจะไม่ได้มีช่วงเวลาเฉิดฉายมาก แต่ก็ยังทำหน้าที่ช่วยเหลือคอยเคียงคู่กับ Scott ได้ดีมาโดยตลอด 

ในส่วนของครอบครัว Pym อย่าง Dr. Hank Pym ตัวละครของ Michael Douglas ที่ต้องขอบอกว่า ในภาคนี้เขาได้แสดงบทบาทออกมามากขึ้นกับการผจญภัยในมิติควอนตัม รวมถึงมีซีนสุดเท่เป็นของตัวเองที่แทบอยากจะปรบมือให้ไม่ไหว (555)

 

รวมไปถึง Janet van Dyne ตัวละครของ Michelle Pfeiffer ที่ในครั้งนี้ เราจะได้เห็นเธอออกผจญภัยร่วมกับสามีของเธอ มีฉากแอ็กชันพอประมาณ พร้อมทั้งเปิดเผยความลับอันดำมืดที่เธอเก็บงำมาตลอดในมิติควอนตัม อันเป็นส่วนสำคัญของภาพยนตร์ในภาคนี้เลยก็ว่าได้ 

หนึ่งในตัวละครที่เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงตัดสินใจไปชมภาพยนตร์ เพราะ เธอคนนี้ Cassie Lang รับบทโดยนักแสดงสาววัยรุ่น Kathryn Newton ที่ต้องบอกเลยว่า เสน่ห์ของน้อง Cassie ในฉบับของเธอพุ่งทะยานมาก ๆ มีความน่ารัก และอารมณ์ขำขันในตัวเอง และถึงแม้ว่าในภาพยนตร์จะไม่ได้บอกเล่าเรื่องของเธอมากนัก

 

แต่เราก็จะได้เห็นเธอเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ในฐานะฮีโร่มนุษย์มดคนใหม่ของทีม ที่ซึ่งคาดหวังได้เลยว่า เธอจะเป็นตัวละครรุ่นใหม่ที่สามารถถูกพัฒนาเรื่องราวไปได้อีกไกล และอาจเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะช่วยรับมือกับสงครามที่กำลังจะมา 

รีวิว Ant-Man and the Wasp

อีกหนึ่งตัวละครที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ Kang the Conqueror ซึ่งต้องยอมรับว่า Jonathan Majors แสดงความเป็น Kang ได้โหด และน่ากลัวมาก ๆ ไม่แปลกเลยถ้านี่จะเป็นศึกที่ตึงมือที่สุดที่ Ant-Man จะต้องเผชิญ แต่บิ้วความยิ่งใหญ่มาซะขนาดนี้

 

เชื่อว่ามีผู้ชมบางส่วนอาจจะมองว่า ในช่วงท้ายเรื่องอาจจะเพลย์เซฟไปหน่อย แต่จากความคิดเห็นของผู้เขียน นี่เป็นเพียงน้ำจิ้มเล็ก ๆ ที่จะให้ผู้ชมได้รู้จักกับชายที่ได้รับสมญานามว่าเป็น บุรุษผู้พิชิต เพื่อรอวันที่เหล่าฮีโร่ทุกคนในจักรวาลจะได้เผชิญหน้าร่วมกันในระดับเดียวกับมหาวารร้ายมันม่วง Thanos (Josh Brolin) อย่างแน่นอน 

แต่อีกหนึ่งตัวละครที่เรียกได้ว่าแทบจะมาขโมยซีนเด่นสุด ๆ ขอเสียงปรบมือให้กับ M.O.D.O.K. (Mechanized Organism Designed Only for Killing) หรือ

สิ่งมีชีวิตจักรกลที่ถูกออกแบบมาเพื่อฆ่า ให้เสียงโดย Corey Stoll (ใช่ครับ วารร้าย Darren Cross/Yellowjacket จาก Ant-Man ภาคแรก) ที่ซึ่งต้องขอบอกว่าเป็นตัวละครที่เหนือความคาดหมายมาก เรียกเสียงฮาได้ไม่หยุดหย่อนจริง ๆ เชื่อว่าทุกคนจะต้องตกหลุมรักตัวละครตัวนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (555) 

รีวิว Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023) หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ AntMan and the Wasp: Quantumania เป็นงานเปิดเฟส 5 Marvel ที่ออกแนวบันเทิงจัดจ้านโดนใจสาวก MCU แน่นอน แม้ว่าคุณภาพหนังอาจจะไม่ได้เร้าใจบทหนังซับซ้อน ออกแนวใส่ความตลกใส่ฉากแอ็คชั่นงานภาพที่ชวนว้า

รีวิว Ant-Man and the Wasp

เปิดเส้นเรื่องใหม่นำพาตัวละครใหม่มาสู่แฟรนไชส์ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้ามนุษย์มดมีเสน่ห์มีพื้นที่มีลูกเล่นที่จะเล่าเรื่องเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด แน่นอนว่าก็ต้องเหมาะกับคนที่ดู  Marvel โดยเฉพาะเหล่า Marvel Cinenmatic ไม่ควรพลาดเด็ดขาด 

รีวิว Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023) บทสรุปโดยรวม

ถ้าพูดกันแบบแฟร์ๆหนังเรื่องนี้พยายามตีโจทย์ขยายเรื่องราวไปในวงกว้างมากขึ้น การสานต่อเรื่องราวมนุษย์มดในพื้นที่ใหม่เส้นเรื่องใหม่ โดยเฉพาะการที่มีตัวละครเพิ่มเข้ามา ไม่วนเวียนกับประเด็นเดิมๆของ สก็อตต์ แลง อีกต่อไป หลังจากที่ 2 ภาคแรก ออกแนวตลกน่ารัก 

 รอบนี้เลยพุ่งทะยานไปกับฉากแอ็คชั่นกลิ่นอายแบบ Star Wars เน้นให้ตัวละครดิ้นรนเอาตัวรอดในมิติควอนตัม หน้าหนังภาคนี้เลยออกไปแนวไซไฟวิทยาศาสตร์

เน้นโปรดักชั่นที่อลังการ สีสันจัดจ้านเทคนิคงานภาพกลายเป็นสิ่งที่ทำให้หนังน่าดู  หนังNetflixแนะนำ

 

เครดิตคงต้องยกให้ทีมเบื้องหลังที่เนรมิตรฉากหลังออกมาได้สวยงามดูแปลกตามากๆ บรรยากาศดูวังเวงไม่น่าไว้ใจ หรือกลุ่มตัวประกอบที่ถูกใส่เข้ามาเยอะแยะ กลายเป็นส่วนเติมเต็มที่ฮาดูตลกสร้างสีสันให้ผู้ชมได้เยอะ ค่อนข้างชอบลูกเล่นของหนังที่เน้นขาย พอล รัดด์  

ในเรื่องมาก คือใช้งานได้คุ้มค่ามากๆคือพี่เขาเป็นนักแสดงสายตลกอยู่แล้ว พอมาเล่นเรื่องนี้ดูอบอุ่นเป็นทั้งคุณพ่อรักลูกสาว เป็นเสมือนหัวหน้าที่ต้องปกป้องแฟนคนรัก หรือการหยอดมุกให้คนดูได้ขำกร๊ากก็ยังมีให้เห็นมาตลอด 

รีวิว Ant-Man and the Wasp

 

ส่วนตัวค่อนข้างชอบการปรากฏตัวของ แคง มากๆ รู้สึกว่า Marvel ตั้งใจมาขายตัวละครนี้โดยเฉพาะตอนที่เห็นจากตัวอย่าง วางมาให้ดูน่ากลัวน่าเกรงขาม แบบที่ค่ายปูมาว่าวายร้ายคนใหม่ที่น่ากลัวกว่าธานอส  

หนังมองหาลูกเล่นใหม่ๆมาขายผู้ชม การแสดงของ โจนาธาน เมเจอร์ส ดูลึกลับซับซ้อนมีหลายมิติดี

ไม่ได้ดูตลกเพี้ยนไร้สาระแบบตอน Loki ตรงข้ามเลยเขาไม่ได้เป็นนักแสดงสายคอมเมดี้ แต่เขามีทักษะการแสดงที่เข้าขั้นดีมากๆ  

ไม่แปลกใจที่ปีนี้มีผลงานใหม่เยอะแยะเต็มไปหมด สีหน้าแววตาเล่นได้ดี เพราะตัวละครนี้คือคนที่มีปมและใช้ชีวิตหลากหลายมิติ มันเลยเป็นงานหนักมากที่ต้องดึงอารมณ์ออกมา

เปรียบเสมือนระเบิดเวลา เป็นการเปิดตัวที่ไฉไลมากกว่าตอนซีรีส์ Loki ด้วยซ้ำ  รอคอยการของคุณพี่มากๆ คิดว่าเรื่องต่อๆไปเราจะได้เห็นอินเนอร์ของเขาที่มากกว่านี้อีกนะ ไม่แปลกใจที่หลายๆเสียงยกย่องให้เขาคือดาราที่น่าจับตามองในปี 2023 แค่บทแคงก็กินขาดไปแว้ว 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *