รีวิวหนัง Ender’s Game

ว่าด้วยเรื่องราวของโลกที่ถูกรุกรานโดยมนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธ์ Formics ที่ครั้งหนึ่งเผ่าพันธ์นี้ทำให้มนุษย์โลกเกือบสูญสิ้น ถึงแม้ว่ามนุษย์จะสามารถชนะสงครามไปได้แล้วครั้งหนึ่งแต่ดูเหมือนนั้นยังไม่ปลอดภัย เหล่ามนุษย์จึงก่อตั้งกำลังพิเศษที่รวบรวมเอาเด็กที่มีความสามารถในการเล่นเกมมาฝึกฝนให้ทำสงครามกับ Formics รีวิวหนัง Ender’s Game รีวิวหนังฝรั่ง

โดยให้เหตุผลว่าเหล่าเด็กๆนี้แหละมีความคิดที่ดีกว่าผู้ใหญ่ นั้นทำให้เราได้รู้จักกับครอบครัว Wiggin ที่เหล่าสมาชิกในบ้านนั้นเคยได้อยู่ในกองกำลังพิเศษนี้ แต่ไม่มีใครสามารถผ่านข้อจำกัดต่างๆได้ แต่ครั้งนี้น้องคนเล็กสุดอย่าง Ender จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปได้หรือไม่ ต้องไปลุ้นเอาใจช่วย Ender กันนะครับ ดูหนัง

หนังเล่าเรื่องผ่านตัวละตร Ender Wiggin น้องคนสุดท้องของครอบครัว Wiggin ที่เรียกได้ว่าเป็นความหวังสุดท้ายของครอบครัวกันเลยทีเดียว เราจะได้เห็นการฝึกฝนของตัวละครนี้จากเด็กตัวเล็กๆ จนกลายเป็นผู้บังคับบัญชากองกำลังรบ โด Ender นั้นจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆด้วยตัวเองคนเดียว แต่ระหว่างทางนั้นเขาก็ได้พบกับมิตรสหายที่คอยช่วยเหลือเขาให้ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆไปได้

ห่างหายกันไปหลายวันทีเดียวกับการเข้าโรงภาพยนตร์เพื่อดูหนัง หรือการเข้าโรงหนังเพื่อชมภาพยนตร์เนี่ย ด้วยอะไรบางอย่างทำให้เราอยู่บ้านมากกว่าจะออกไปข้างนอก แต่พอผ่านมาถึงสัปดาห์ใหม่ ก็ได้มาเยี่ยมบ้านหลังที่สองอีกจนได้ ก็โรงหนังนั่นยังไง วันนี้ มีคิวมาพบกับ Ender’s Game หนังที่สร้างจากวรรณกรรมเลื่องชื่อ คราวนี้ไม่ใช่หนังแฟนตาซีรักๆ ใคร่ๆ อีกแล้ว แต่เป็นแนววิทยาศาสตร์ ไซไฟๆ ไม่เหมือนที่แล้วๆ มา

เรื่องราวของโลกที่ถูกรุกรานโดยเหล่าสิ่งมีชิวตต่างดาวจนเราเกือบสิ้นสูญเผ่าพันธุ์มาแล้วเมื่อครั้งหนึ่ง จนต้องมีการก่อตั้งกองกำลังเพื่อรับมือกับสงครามที่เสี่ยงว่ากำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งในไม่ช้า พวกเขาจึงเลือกเด็กที่มีความสามารถด้านเกมมาฝึกฝนการรบ เด็กๆ ในครอบครัวของเอนเดอร์ (Asa Butterfield) ทุกคนเคยผ่านการฝึกมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งพี่ชายและพี่สาว แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครผ่าน และเขาคือคนสุดท้ายที่เป็นความหวัง

หนังเล่นเปิดเผยให้เห็นตั้งแต่ช่วงของการฝึกในขั้นตอนต่างๆ กว่าที่เอนเดอร์จะกลายมาเป็นผู้บัญชาการรบในเผ่าพันธุ์ต่างดาว ซึ่งในระหว่างนั้นก็สอดแทรกบทสนทนาคมๆ ที่แฝงแง่คิดอันชวนให้คิดไว้มากมาย นี่ไม่ใช่แค่หนังสงครามที่จะดูกันเพลินๆ เสียแล้ว ดูหนังออนไลน์

ด้วยความที่ไม่ได้อ่านฉบับหนังสือมาก่อน จึงไม่อาจจะรู้ได้ว่าเรื่องราวต่อไปจะเป็นเช่นใด หนังเลือกจะเก็บงำบางอย่างเอาไว้และเปิดเผยมันออกมาเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผสมผสานแนวความคิดทางด้านปรัชญาที่พูดถึงด้านดีและร้ายของสงคราม ด้านดีและร้ายของมนุษย์ ได้เห็นความฉลาดของมนุษย์คนหนึ่งที่ถูกนำมาใช้เพื่อทำลายและปกป้องไปในคราวเดียวกัน

ถ้าพูดถึงการแสดงแล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็ก ต่างก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีทั้งสองฝ่าย บทหนังที่ค่อนมีน้ำมีเนื้อให้คนดูรู้สึกจับต้องได้ ขณะเดียวกันก็หนักอึ้งเกินกว่าจะเป็นแค่หนังสำหรับเยาวชนทั่วไป ส่วนงานด้านภาพก็ถือว่าอยู่ในขั้นดี และโดยลักษณะของเทคนิคต่างๆ ดูจะเหมาะสมที่จะทำออกมาในรูปแบบ 3 มิติไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่ผมได้ดูมันในแบบ 2 มิติเท่านั้น หลายคนว่าเดินเรื่องเชื่องช้า แต่ผมว่ามันก็โอเคแล้ว ดูเรื่องนี้ไม่ได้หาวเลยสักแอะ นี่เรื่องจริง

แต่เรื่องนี้ว่ากันไม่ได้ บางเรื่อง ผมหาวไปหลายหน ผมว่ายังมันเป็นหนังดีเลยนะ

นอกจากฉากการต่อสู้ในลักษณะเกมแล้ว หนังยังมีแบ่งพักให้กับความดราม่าเป็นบางช่วง ทำให้หนังมีน้ำหนักหลายๆ ส่วนประกอบเข้าด้วยกัน ไม่ได้มีแต่น้ำหนักของแอ็คชั่นอยู่ฝั่งเดียว Gavin Hood ผกก. ผู้มีเครดิตที่ไม่ดีนักจาก ‘X-Men Origins: Wolverine’ ก็ลงมาเล่นเองด้วย ถือว่ากำกับเรื่องนี้ได้สอบผ่าน ‘สงครามพลิกจักรวาล’ กลายเป็นหนังจากหนังสือที่ดีที่สุดในปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย (หากไม่นับ Catching Fire ที่กำลังจะเข้าโรงจ่อก้นอยู่ตอนนี้)

โลกถูกรุกรานจากสิ่งมีชีวิตต่างดาวหรืออีกชื่อคือบัคเกอร์ ทางรอดของโลกมีไม่มากนอกจากว่าต้องให้คนอัจฉริยะมาร่วมมือกัน เอนเดอร์ วิกกิน(Asa Butterfield) เค้าเป็นเด็กอัจฉริยะซึ่งถูกคัดเลือกให้เข้ารับการศึกษาในสถาบันพิเศษ การฝึกฝนมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือกำจัดสิ่งที่มันรุกรานโลกอย่างบัคเกอร์ ดูหนัง4k

หนังเปิดเรื่องโดยให้เห็นถึงการฝึกฝนของขั้นตอนที่จำเป็นต่าง ๆ ในการใช้เพื่อต่อกรกับภัยร้ายที่จะมารุกรานโลก และเราจะได้เห็นพัฒนาการของพระเอกจากเด็กปกติขึ้นมาบัญชาการรบกับพวกต่างดาวซึ่งในระหว่างนั้นนางก็จะมีการสนทนาที่แฝงแง่คิดไว้เยอะแยะเพราะว่าต้องบอกกว่านี้ไม่ใช่หนังสงครามแบบที่ยิงกันจบแล้วแยกย้ายเพราะระหว่างการฝึกพระเอกจะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ถ้าพูดถึงบทบาทการแสดงในหนังเรื่องนี้มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่บอกเลยว่าไม่มีใครเหนือไปกว่าใครทั้งเด็กและผู้ใหญ่แสดงบทบาทและแสดงอารมณ์ได้ดีมันเลยทำให้หนังดูมีน้ำหนักและน่าดูมากยิ่งขึ้น และก็ไม่ใช่หนังที่ผู้ใหญ่จะเอาเปรียบเด็กหรือคิดว่าเด็กก็คือเด็กไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าผู้ใหญ่ แม้ว่าหนังจะเน้นใช้เด็กเป็นตัวแสดงนำแต่ด้วยบทของหนังที่ค่อนข้างแน่นและเข้มข้นก็ไม่เหมาะที่เยาวชนจะดูแล้วเข้าใจได้ง่าย ๆ อะไรขนาดนั้น เพราะเป็นหนังที่ต้องใช้จิตวิทยาพอสมควร

ถ้าพูดถึงงานCG หนังทำออกมาได้ดีแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นว่าดีมากค่ะส่วนมากหนังจะถ่ายทอดแกแล็กซี่ให้ดู รวมถึงระบบต่างๆภายในยานอวกาศซึ่งถ้าหากรับชมในระบบ3D ก็ถือว่าคุ้มค่าตั๋วพอสมควร

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือพระเอกยังเด็กและต้องฝึกหนักคนเดียวเพราะเป็นเพียงความหวังเดียวที่จะเอาชนะบัคเกอร์ได้ แม้ว่าจะเหมือนโดดเดี่ยวแต่เค้าก็ยังมีเพื่อนที่ให้กำลังใจและพากันผ่านเหตุการณ์เลวร้ายไปได้

คะแนนเนื้อเรื่อง 9/10 หนังทำภาพและการใช้มุมกล้อง ทำออกมาได้ดีรวมถึงการสอดแทรกให้ผู้ใหญ่คิดตามว่าบางทีความหวังก็อาจจะอยู่ที่เด็กก็ได้ แม้หนังมีพล็อตเรื่องที่อาจจะไม่ใหม่มากนักแต่การดำเนินเรื่องก็ถือว่าดีอยู่

ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้

1. สิ่งที่น่ากลัวคือมนุษย์ถ้าพูดถึงพล็อตเรื่องของหนังเรื่องนี้คือความน่ากลัวของมนุษย์ต่างดาว ท่านอาจจะคิดผิดเพราะที่จริงแล้วสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือมนุษย์ต่าง จริง ๆ แล้วมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่พยายามฆ่าและห้ำหั่นกันเอง เหมือนอย่างในปัจจุบันไม่เคยมีข่าวว่ามนุษย์ต่างดาวฆ่าคน มีแต่คนฆ่ากันเอง

2. แม้แต่เด็กก็เป็นฮีโร่ได้เหมือนกับในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ตอนนี้ทั้งโชคฝากความหวังไว้ที่เด็กเพียงคนเดียวบางครั้งบางปัจจัยผู้ใหญ่ก็อาจจะทำบางเรื่องไม่ได้ แต่เด็กอาจจะทำได้ก็ได้ บางครั้งบางตอนผู้ใหญ่ก็ดูถูกความสามารถของเด็กมากเกินไป

หนังมีการเดินเรื่องที่ดีและรวดเร็วทำให้ไม่น่าเบื่อและยังสอดแทรกแนวคิดในระหว่างการนำเสนอตลอดภาพมีความสวยงามจะเรียกว่าเป็นหนังม้ามืดก็ได้เพราะไม่ได้มีกระแสอะไรมาก แต่หนังกับสนุกมากกว่านั้นกระแสบางเรื่องซะอีก

เรื่องราวของโลกที่ถูกรุกรานโดยเหล่าสิ่งมีชิวตต่างดาวจนเราเกือบสิ้นสูญเผ่าพันธุ์มาแล้วเมื่อครั้งหนึ่ง จนต้องมีการก่อตั้งกองกำลังเพื่อรับมือกับสงครามที่เสี่ยงว่ากำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งในไม่ช้า พวกเขาจึงเลือกเด็กที่มีความสามารถด้านเกมมาฝึกฝนการรบ เด็กๆ ในครอบครัวของเอนเดอร์ (Asa Butterfield) ทุกคนเคยผ่านการฝึกมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งพี่ชายและพี่สาว แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครผ่าน และเขาคือคนสุดท้ายที่เป็นความหวัง

จริงๆ ผมชอบหนังเรื่องนี้นะ คือมันอาจจะไม่ได้สุดยอดหรือลงตัวอะไรมากมาย แต่มันดูเพลิน มี Effect ที่ค่อนข้างตื่นตา ด้านดาราก็ถือว่าคัดของดีมาลงจอ ส่วนเนื้อหาแม้จะลงสูตรสำเร็จ แต่ก็ถือว่าเป็นการเอาสูตรเก่ามาใช้ใหม่ได้ออกรสดีอยู่เหมือนกัน

หลักๆ เลยก็คือเอนเดอร์ (Asa Butterfield) ตัวเอกของเรื่องเป็นเด็กที่เก่งกาจน่ะครับ และเป็นความหวังของมนุษย์โลกในการสู้รบกับเผ่าพันธุ์ต่างดาว โดยภาคนี้จริงๆ ก็ถือเป็นภาคแรกที่ปูพื้น ปูเรื่องราวให้ผู้ชมได้รู้ว่าโลกในหนังนั้นเป็นยังไง ตามด้วยการฝึกเอนเดอร์ให้มีความพร้อม และสามารถต่อสู้รับมือกับพวกต่างดาวในสนามรบของจริงได้

เสียดายเหมือนกันครับที่หนังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ลงทุนไป $110 ล้าน แต่ได้คืนมาจากทั่วโลกราวๆ $125 ล้านซึ่งถือว่าขาดทุนครับ (เพราะรายได้ที่ทำนั้น ได้คืนสตูดิโอมาแค่ครึ่งเดียว กล่าวคือสตูดิโอได้เงินคืนมาจริงๆ แค่ $60 กว่าล้านนิดๆ เท่านั้น) และเพราะหนังทำเงินไม่เข้าเป้า เราก็เลยหมดโอกาสในการดูภาคต่อกัน (ถ้าอยากรู้เรื่องราวต่อไปก็ต้องหานิยายอ่านเอาครับ) ดูหนังออนไลน์4k

แต่สำหรับผมแล้ว หนังเพลินดีครับ พลังอย่างแรกของดาราที่แม้จะไม่ถึงกับแสดงกันแบบท็อปฟอร์ม แต่ก็ไม่ด้อยกว่ามาตรฐาน ไม่ว่าจะรุ่นใหญ่อย่าง Harrison Ford, Ben Kingsley และ Viola Davis หรือรุ่นเล็กแต่ฝีมือดีอย่าง Butterfield (Hugo), Hailee Steinfeld (True Grit, Begin Again) และ Abigail Breslin (Little Miss Sunshine และ Zombieland)

พลังอย่างต่อมาคืองาน Effect ที่ละลานตาใช้ได้เลยครับ เนี๊ยบเอาเรื่อง และสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ชมได้ค่อนข้างดี ในขณะที่แอ็กชันนั้นก็อาจจะไม่ได้เล่นใหญ่หรือคอขาดบาดตายอะไรมากมาย แต่ก็จัดว่าดูตื่นเต้นในฐานะหนังสไตล์วรรณกรรมเยาวชนสักเรื่องหนึ่ง

หนังกำกับโดย Gavin Hood แห่ง Tsotsi, X-Men Origins: Wolverine และผลงานล่าสุดอย่าง Eye in the Sky ก็ถือว่าน่าจับตาไม่น้อย ในขณะที่เรื่องนี้ก็ถือว่าดูได้เพลินๆ สนุกไม่เลวครับ ผมดูตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เบื่อนะ สนุกดี เพียงแต่อาจจะไม่สุดยอด ไม่ถึงกับขึ้นหิ้งอะไรขนาดนั้น

ว่าด้วยเรื่องราวของโลกที่ถูกรุกรานโดยมนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธ์ Formics ที่ครั้งหนึ่งเผ่าพันธ์นี้ทำให้มนุษย์โลกเกือบสูญสิ้น ถึงแม้ว่ามนุษย์จะสามารถชนะสงครามไปได้แล้วครั้งหนึ่งแต่ดูเหมือนนั้นยังไม่ปลอดภัย เหล่ามนุษย์จึงก่อตั้งกำลังพิเศษที่รวบรวมเอาเด็กที่มีความสามารถในการเล่นเกมมาฝึกฝนให้ทำสงครามกับ Formics

โดยให้เหตุผลว่าเหล่าเด็กๆนี้แหละมีความคิดที่ดีกว่าผู้ใหญ่ นั้นทำให้เราได้รู้จักกับครอบครัว Wiggin ที่เหล่าสมาชิกในบ้านนั้นเคยได้อยู่ในกองกำลังพิเศษนี้ แต่ไม่มีใครสามารถผ่านข้อจำกัดต่างๆได้ แต่ครั้งนี้น้องคนเล็กสุดอย่าง Ender จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปได้หรือไม่ ต้องไปลุ้นเอาใจช่วย Ender กันนะครับ

หนังเล่าเรื่องผ่านตัวละตร Ender Wiggin น้องคนสุดท้องของครอบครัว Wiggin ที่เรียกได้ว่าเป็นความหวังสุดท้ายของขอบครัวกันเลยทีเดียว เราจะได้เห็นการฝึกฝนของตัวละครนี้จากเด็กตัวเล็กๆ จนกลายเป็นผู้บังคับบัญชากองกำลังรบ โด Ender นั้นจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆด้วยตัวเองคนเดียว แต่ระหว่างทางนั้นเขาก็ได้พบกับมิตรสหายที่คอยช่วยเหลือเขาให้ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆไปได้

ห่างหายกันไปหลายวันทีเดียวกับการเข้าโรงภาพยนตร์เพื่อดูหนัง หรือการเข้าโรงหนังเพื่อชมภาพยนตร์เนี่ย ด้วยอะไรบางอย่างทำให้เราอยู่บ้านมากกว่าจะออกไปข้างนอก แต่พอผ่านมาถึงสัปดาห์ใหม่ ก็ได้มาเยี่ยมบ้านหลังที่สองอีกจนได้ ก็โรงหนังนั่นยังไง วันนี้ มีคิวมาพบกับ Ender’s Game หนังที่สร้างจากวรรณกรรมเลื่องชื่อ คราวนี้ไม่ใช่หนังแฟนตาซีรักๆ ใคร่ๆ อีกแล้ว แต่เป็นแนววิทยาศาสตร์ ไซไฟๆ ไม่เหมือนที่แล้วๆ มา

เรื่องราวของโลกที่ถูกรุกรานโดยเหล่าสิ่งมีชิวตต่างดาวจนเราเกือบสิ้นสูญเผ่าพันธุ์มาแล้วเมื่อครั้งหนึ่ง จนต้องมีการก่อตั้งกองกำลังเพื่อรับมือกับสงครามที่เสี่ยงว่ากำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งในไม่ช้า พวกเขาจึงเลือกเด็กที่มีความสามารถด้านเกมมาฝึกฝนการรบ เด็กๆ ในครอบครัวของเอนเดอร์ (Asa Butterfield) ทุกคนเคยผ่านการฝึกมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งพี่ชายและพี่สาว แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครผ่าน และเขาคือคนสุดท้ายที่เป็นความหวัง

หนังเล่นเปิดเผยให้เห็นตั้งแต่ช่วงของการฝึกในขั้นตอนต่างๆ กว่าที่เอนเดอร์จะกลายมาเป็นผู้บัญชาการรบในเผ่าพันธุ์ต่างดาว ซึ่งในระหว่างนั้นก็สอดแทรกบทสนทนาคมๆ ที่แฝงแง่คิดอันชวนให้คิดไว้มากมาย นี่ไม่ใช่แค่หนังสงครามที่จะดูกันเพลินๆ เสียแล้ว