รีวิวหนังฝรั่ง The Terminal

รีวิวหนังฝรั่ง The Terminal ว่าด้วยเรื่องราวของ วิกเตอร์ ชายหนุ่มชาวยุโรปตะวันออก ที่เดินทางมายังนิวยอร์กซิตี้ แต่ในขณะเดียวกันบ้านเกิดของเขาเกิดเหตุร้ายขึ้นอย่างไม่คาดคิด ทำให้เขาที่กำลังจะออกเดินทางเพื่อทำตามความฝันในอเมริกาต้องหยุดลงก่อน และต้องติดอยู่ที่สนามบิน และต้องใช้ชีวิตอยู่ในสนามบินไปจนกว่าเหตุร้ายที่บ้านเกิดเขาจะสงบลง จะออกจากสนามบินไปอเมริกาก็ไม่ได้ จะบินกลับบ้านเกิดตัวเองก็ไม่ได้ รีวิวหนังฝรั่ง 

The Terminal เรื่องราวของชายหนุ่มวัยกลางคนที่มีชื่อว่าวิคเตอร์ ผู้เดินทางมาจากคาโคเชีย ประเทศทางฝั่งยุโรปที่กำลังประสบปัญหาสงครามกลางเมือง เขานั้นได้มาถึงสนามบินนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาอย่างสวัสดิภาพเพื่อทำตามคำสัญญาสำคัญที่ได้มอบไว้ให้กับคนสำคัญ ดูหนัง

แต่แทนที่เขานั้นจะได้ก้าวเข้าสู่เมืองที่เต็มไปด้วยเสรี เขากลับถูกเจ้าหน้าที่พาเข้าไปยังห้องแห่งหนึ่งและแจ้งว่าวีซ่าของชาวคาโคเชียนั้นถูกสหรัฐอเมริการะงับจากการมีสงครามทำให้เขาไม่สามารถเดินทางเข้าไปในสหรัฐอเมริกาได้ การทราบข่าวว่าประเทศของตนนั้นกำลังตกอยู่ในสงครามและตนเองนั้นจะเดินทางกลับประเทศก็ไม่ได้หรือจะเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาก็ไม่สามารถทำได้ ดูหนังออนไลน์

ทำให้เขาตกอยู่ในสภาวะที่สิ้นหวังแต่เขาก็ยังคงมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ เขาสามารถปรับตัวในการใช้ชีวิตอยู่ในสนามบินได้อย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านั้นมันยังเป็นสถานที่ที่ทำให้เขานั้นได้พบกับมิตรภาพมากมายและยังได้พบกับความรักอีกด้วย แม้ว่าการใช้ชีวิตอยู่ในโซนผู้โดยสารในสนามบินนิวยอร์กนั้นจะไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่สบายเท่าไรนักแต่เขาก็ยังคงสามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมีความสุข สุดท้ายแล้วเขาจะสามารถทำตามคำสัญญาได้หรือไม่สามารถติดตามรับชมได้ในภาพยนตร์ ดูหนังฟรี

แม้ว่าจะก้าวเข้าสู่ปี 2021 แล้วก็ตามประเทศไทยนั้นยังคงอยู่ในวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 รอบ 2 ซึ่งดูเหมือนว่าจะหนักหนากว่ารอบแรกทำให้หลาย ๆ คนนั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความกดดัน ไม่เพียงแต่กังวลเรื่องจะติดเชื้อหรือไม่แต่ยังมีความกังวลเรื่องความมั่นคงของหน้าที่การงานอีก เว็บดูหนัง 

ด้วยหลายคนรายได้ลดน้อยถอยลงไปเป็นจำนวนมาก The Terminal จะเป็นภาพยนตร์ที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีและมีความหวังมากขึ้นในสถานการณ์ที่กำลังแย่อย่างในปัจจุบัน ไม่แน่ว่าการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะทำให้คุณได้แง่คิดดี ๆ ในการใช้ชีวิตมากขึ้นก็ได้ เว็บดูหนังฟรี 

รีวิวหนังฝรั่ง The Terminal

วิคเตอร์ นาวาสกี้ ชายวัยกลางคนชาวยุโรปเขาเดินทางมายังสนามบิน JFK สหรัฐอเมริกา เพื่อสานฝันบางอย่าง แต่แล้วเอกสารการเดินทางเข้าเมืองของเขาเกิดมีปัญหา และประเทศที่วิคเตอร์มาก็กำลังเกิดสงคราม ทำให้วิคเตอร์ไม่สามารถเข้าประเทศได้ วิคเตอร์เปรียบเสมือนบุคคลไร้สัญชาติ และต้องติดอยู่ในสนามบินแห่งนี้ไม่สามารถออกไปไหนได้ และด้วยความที่วิคเตอร์ไม่เก่งภาษาทำให้เขาไม่ค่อยเข้าใจนัก จนบางครั้งเขาก็ต้องเออ ออไปกับเจ้าหน้าที่บ้าง

วิคเตอร์อยู่ด้วยคูปองอาหารที่ได้จากเจ้าหน้าที่ เขาต้องติดแหง็กอยู่ในสนามบินแห่งนี้ เพราะไม่ได้วีซ่า และจำใจใช้ชีวิตโดยไม่รู้อีกนานแค่ไหนถึงจะสามารถออกจากสนามบินไปได้ โดยอาศัยนอนในเกตที่กำลังปรับปรุงต่อเติม เป็นเวลาหลายเดือน และวิคเตอร์ก็ได้เจอกับแคเธอรีน

ซึ่งเป็นแอร์โฮสเตรทสาวสวย และวิคเตอร์ก็ตกหลุมรักเธอ ในความซวยซ้ำซ้อนของวิคเตอร์ก็ยังมีเรื่องดีๆ อย่างแคเธอรีนอยู่ และวิคเตอร์ยังสามารถสร้างมิตรภาพกับเจ้าหน้าที่ในสนามบินได้อีก ส่วนเขาจะทำอย่างไรเพื่อให้ตัวเองสามารถออกไปทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้นั้นต้องไปรับชมกันนะคะ

เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของเซอร์ อัลเฟรด เมฮ์ราน ซึ่งเป็นชายชาวอิหร่านคนหนึ่งถูกเนรเทศออกนอกประเทศ และได้ทำเอกสารลี้ภัยหาย ทำให้เขาต้องติดแหง็กอยู่ในสนามบินชาร์ล เดอ โกล ณ กรุงปารีสอยู่ถึง 18 ปีเต็ม ตั้งแต่ปี 1988-2006 เลยทีเดียว

โดยเนื้อเรื่องในภาพยนตร์นั้นแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่คิดบวกแบบสุดๆ แม้จริงๆ แล้วเรื่องราวจะดูสุดสะเทือนใจผู้ชมก็จริง แต่หนังไม่ได้ทำให้เราจมดิ่งและรู้สึกจิตตกไปกับตัวละครเลย โดยเนื้อเรื่องชวนให้เราคิดบวกไปกับตัวละครอย่างวิคเตอร์เอามากๆ

รีวิวหนังฝรั่ง The Terminal

นักแสดงนำ อย่างทอม แฮงค์ ถือเป็นดาราดังนักแสดงชั้นนำที่เล่นได้อย่างสมบทบาท ด้วยการแสดงเป็นวิคเตอร์ นาวาสกี้ คนที่ดูใสซื่อ มองโลกในแง่ดีแบบดีสุดๆ จนทำให้คนดูอย่างเราแอบคิดว่าเราจะสามารถคิดและทำได้เหมือนอย่างตัวละครนี้หรือไม่ ให้ความรู้สึกว่าโลกเราก็ยังมีเรื่องให้เราแก้ได้เรื่อยๆ ไม่มีทางตัน หากเรามองโลกในแง่ดีเสมอ

เป็นภาพยนตร์ที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูอย่างเรามากมาย ด้วยการสร้างหนังที่ใช้ทุนสร้างเพียง 60 ล้านเหรียญฯ และกวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 219 ล้านเหรียญ ถือเป็นความสำเร็จแถมยังกวาดรางวัลด้านภาพยนตร์อีกมากมาย อย่างเช่น รางวัลสมาคมผู้กำกับศิลป์

สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม อีกด้วย เอาเป็นว่าแอดมินเทคะแนนเทใจให้เรื่องนี้ไปเลย 8.5/10 ตอนแรกคิดว่าเมื่อดูแล้วคงจะเบื่อแล้วหลับแน่ๆ แต่ที่ไหนได้ดูแล้วต้องถึงกับร้องอู้หู เพราะไม่มีความรู้สึกเลยว่าหนังน่าเบื่ออย่างที่คิด แถมดูแล้วยังลุ้นติดตามไปกับการใช้ชีวิตของตัวเอกตลอด แอบทึ้งในความคิดบวก และใสซื่อ แถมวิคเตอร์ยังเป็นคนที่มีน้ำใจมากๆ อีกด้วย

แต่เหมือนเหตุการณ์จะยังเลวร้ายมากขึ้นไปอีก เมื่อ สหรัฐอเมริกา มีประกาศ ยกเลิกพาสสปอร์ตของคนประเทศ คาร์โคเชียร์ นั่นจึงทำให้เขาสารถเดินทางเข้าเมืองนิวยอร์กได้ หรือแม้กระทั่งเดินทางนั่งเครื่องบินกลับประเทศเขาเองก็ไม่ได้เช่นกัน จึงทำให้เขาต้องอาศัยอยู่ได้แต่ในอาคารสำหรับผู้โดยสารที่รอจะเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งพื้นที่นี้ไม่ผิดกฎหมายของ อเมริกา จนกว่าที่เรื่องราวทุกอย่างในประเทศของเขาจะคลี่คลาย หรือ อเมริกาได้อนุญาติให้สถานะยอมรับพาสสปอร์ตแก่เขาอีกครั้ง หากดูจากเรื่องราวที่เล่ามาข้างต้นนั้น เรื่องราวของวิกเตอร์ นาเวอร์สกี้ นั้นอะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวสุดดราม่าสะเทือนใจผู้ชมกันสุดเลยก็ว่าได้ แต่ทว่า ตัวหนังกลับไม่ได้พาคนดูให้จมดิ่งหรือรู้สึกมืดมนกับเรื่องราวและเหตุการณ์ของเขาเลย เนื่องจากว่า วิกเตอร์ นาเวอร์สกี้ นั้นเขาเป็นคนที่มองโลดในแง่ดีสุดๆ ถึงขั้นที่ผู้ชมอาจจะถึงขั้นปวดหัวกับการคิดแง่บวกของเขาเลยก็ว่าได้

แต่เพราะการมองโลกในด้านบวกของเขา และการไม่จมทุกข์กับเหตุการณ์ร้ายทำให้ วิกเตอร์ ได้หาทางออกให้กับสถานการณ์อันเลวร้ายของเขา อีกทั้งเขายังได้พบมิตรภาพใหม่ๆ อย่าง กุ๊ปตาร์ ชายแก่ชาวอินเดียที่เป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด, มัลรอย รปภ.

ร่างใหญ่ผิวสีแต่ใจดี, เอ็นริเก้ หนุ่มวัยรุ่น สเปนที่เป็นพนักงานขับรถขนอาหาร, ทอร์เรสต์ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสุดเข้ม พวกเขาได้เห็นความสามารถและการมองโลกในแง่ดีของ วิกเตอร์ พวกเขาจึงคอยช่วยเหลือ วิกเตอร์ทั้งในเรื่องต่างๆ เท่าที่ทำได้

แต่ทว่า แฟรงค์ ดิคสัน เจ้าหน้าที่ประจำสนามบิน เจเอฟเค จะไม่เห็นด้วย เขาต้องการที่จะไล่วิกเตอร์ออกไปจากสนามบินที่เขาดูแลอยู่เนื่องจาก วิกเตอร์นั้นอาจทำให้เขาหลุดจากตำแหน่งและเขาไม่สามารถควบคุมคนอย่างวิกเตอร์ได้เลย

ตัวหนัง The Terminal นั้นใช้ทุนสร้าง 60ล้านเหรียญแต่กับกวาดรายได้จากทั่วโลกไปได้ถึง 219 ล้านเหรียญ ซึ่งมากมายมหาศาล อีกทั้งยังกวาดรางวัลอีกมากมาย อาทิเช่น รางวัลสมาคมผู้กำกับศิลป์ สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม เอมิเลีย วอเรนท์

รีวิวหนังฝรั่ง The Terminal

หญิงสาว แอร์โฮสเตสแสนสวย ที่วิกเตอร์ได้ตกหลุมรัก เรียกได้ว่าเธอนั้นเป็นรักแรกของวิกเตอร์เลยก็ว่าได้ แต่บางอย่างเหมือนจะไม่เป็นใจให้กับรักของเขาและเธอเลยเสียเลย เพราะวิกเตอร์นั้นปิดปังความจริงกับเธอเรื่องที่เขาโดนกักตัวอยู่ที่สนามบิน อีกทั้งเธอนั้นต้องการจะหาใครซักคนที่จะลงหลักปักฐานและใช้ชีวิตรักที่มั่นคงทำให้ วิกเตอร์ต้องซ่อนความจริงเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดและพยายาม ทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นเหมือนชายที่เธอได้วาดฝันไว้

ถึงแม้หนังเรื่องนี้นั้นจะสร้างความสนุกสนานและเรื่องราวให้ผู้ชมมากมายนั้น แต่ทว่า ก็ยังมีนัยยะแอบแฟงอยู่มากมายอาทิเช่น การที่หญิงสาวแอร์โฮสเตสแสนสวย ต้องการชายที่สมฐานะกับเขา เขาจะไม่มองชายที่ด้อยกว่าเขาเด็ดขาด หรือเหล่าเพื่อนๆ

ของวิกเตอร์ที่ต้องมาทำงานในสนามบินทั้งที่ไม่ใช่คนชาติอเมริกาและแฟรงค์ ดิคสัน ชายชาวอเมริกาที่ต้องการขับไล่คนที่ไม่ใช่ชาวอเมริกาออกจากประเทศตัวเอง อาจเปรียบเหมือนกับการเหยียดเชื้อชาติของคนอเมริกาในสมัยในนั้น ก็ได้ ไม่รู้ว่าผู้กำกับอย่างสตีเว่น สปีลเบิร์ก นั้นจงใจที่จะใส่เข้าไปหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่คนเขียนคาดว่าเขาอาจจงใจก็ได้นะ

อีกทั้งการมองโลกในแง่ดีของพระเอกก็ทำให้คนดูรู้สึกว่า หนังนั้นให้ความรู้สึกที่ feel good เพราะวิกเตอร์ นั้นเขาไม่โทษความผิดใครเลยแต่เขาพร้อมที่จะรอคอย เพื่อนที่สิ่งดีๆจะเข้ามาหาเขา นี่อาจจะทำให้คนดูที่กำลังทุกข์ใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน นั้นรู้สึกก้าวผ่านเรื่องร้ายๆ ก็ได้

เป็นหนังเก่าปี 2004 แต่ดูได้ไม่เบื่อเลยจากผลงานกำกับของ Steven Spielbergเรื่องราวเกี่ยวกับ Viktor Navorski (วิคเตอร์ นาวอร์สกี้) แสดงโดย Tom Hanksซึ่งเขาเดินทางจากประเทศคาโครเชีย โดยเครื่องบินแต่เมื่อถึงสนามบินที่ New York, USA เขากลับเข้าประเทศไม่ได้เนื่องจากเกิดการปฎิวัติยึดอำนาจในประเทศของเขา ทำให้ Passport ถูกยกเลิกไป เขาจึงติดอยู่ในอาคารผู้โดยสารสนามบินทำให้เขาต้องนอนและใช้ชีวิตอยู่ในนั้น

และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันน่าประทับใจ ส่วนตัวแล้วเป็นภาพยนตร์ที่ดูง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ ดูแล้วอมยิ้มไปกับเนื้อเรื่องได้ตลอด แถมสอดแทรกไปด้วยแนวคิดดีๆ ที่ให้กำลังใจเราได้อีก
เป็นหนังถ่ายทอดความรู้สึกตาม concept หนัง Life is waiting. ได้ดีมากเรื่องนึงเลย

รีวิวหนังฝรั่ง The Terminal

เนื่องจากตอนนี้ประเทศคาโคเชียที่เขาอยู่ได้เกิดสงครามขึ้น รัฐบาลของเขาได้สั่งระงับวีซ่า และการเดินทางเข้าออกในประเทศ ทำให้ตอนนี้วิกเตอร์เปรียบเสมือนบุคคลไร้สัญชาติ และเขาไม่สามารถเดินทางไปที่ไหนได้ นอกจากต้องติดอยู่ในสนามบินแห่งนี้ และด้วยความที่วิกเตอร์ไม่เก่งภาษาทำให้เขาเอออออย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ปล่อยตัวเขาให้ออกมาอยู่ในโซนผู้โดยสารพร้อมยื่นบัตรอาหารให้กับวิกเตอร์ เขาเดินไปรอบๆแถวนั้นยังไม่ทันไรเขาก็เห็นข่าวการก่อการปฎิวัติในประเทศของเขา เขาทั้งตกใจ เสียใจ ท่ามกลางเวลานั้นเขาพยายามขอความช่วยเหลือพูดคุยกับผู้คน แต่ไม่มีใครสนใจ เขามองไปรอบๆท่ามกลางผู้คนมากมายแต่ตัวเขาเองกับดูเคว้งคว้างด้วยภาวะสงครามในประเทศ ทำให้เขาไม่ได้วีซ่า

และที่สนามบินเขายังได้เจอกับเจ้าหน้าที่ในสนามบินที่กลายมาเป็นเพิื่อนของเขาได้เจอกับแอร์โฮสเตสสาวสวย นามว่า เอมิเลีย (แคเธอรีน ซีต้า โจนส์)ที่เขาตกหลุมรัก และมิตรภาพของเขากับคนอื่นๆตลอดการใช้ชีวิตอยู่ในสนามบินแต่ถึงกระนั้นชีวิตก็ใช่ว่าจะมีเรื่องดีๆเสมอไป

เพราะการที่วิกเตอร์ต้องนอนพักอ้างแรม ใช้ชีีวิตอยู่ในนี้ก่อให้เกิดการรบกวนใจต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่นั่นซึ่งเขามองว่าวิกเตอร์คือตัวปัญหาและอยากกำจัดให้พ้นทางและสุดท้ายนี้วิกเตอร์จะสามารถออกจากสนามบิน เพื่อไปทำตามคำสัญญาสำเร็จได้หรือไม่ และเส้นทางความรักของเขาจะเป็นเช่นไรต้องลองติดตามกันเอง

คะเแนน 8/10 คะแนน ช่วงเวลาที่ดูหนังเรื่องนี้ มีแต่ความสนุก อิ่มเอมใจ รอยยิ้มตามไปด้วย หนังสนุกน่าติดตามถึงแม้จะมีเพียงสนามบินเป็นจุดเดินเรื่องเท่านั้น แต่คุณค่าความสนุกก็ไม่ได้ลดลงไปเลย การที่วิกเตอร์เป็นคนมองโลกในแง่ดี ดูซื่อๆ บางครั้งฉันก็คิดว่ายังมีคนอย่างนี้อีกรึเนี่ย แต่เพราะอย่างนั้นละ ถึงเป็นเสน่ห์ในตัวเขา และเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ ที่ดูกี่ครั้งก็ยังงดงามไม่เสื่อมคลาย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *