รีวิวหนังฝรั่ง pinocchio

เชื่่อว่าหลายๆคนต้องโตมากับนิทาน กาตูน อะไรพวกนี้กันใช่มั้ยละครับ และหนึ่งในนิทานเรื่องโปรดของผม และ ผมเองก็คิดว่าของใครหลายๆคนเช่นกัน คือ Pinocchio พินอคคิโอ นั่นเอง วันนี้เราจึงจะมา รีวิวหนังฝรั่ง ที่ดัดแปลงนิทานเรื่องนี้ ออกมาในเวอร์ขั่นหนัง ภาพยนตร์ให้เราเห็นกัน เอาหละ ไปเริ่มกันเลยยยย

pinocchio 2019 ผลงานของ ผู้กํากับ ดีกรีออสการ์ นํา นิทานอิตาลี คลาสสิก “พิน็อกคิโอ”มาทําเป็นสต็อปโมชัน

ลง Netflix มาติดตามการเสี่ยง อันตราย สุต ปั่นป่วน ของ พิน็อกคิโอที่ต้องการเปลี่ยนมาเป็นเด็กชายจริงๆ กันบางทีอาจเกิดเรื่อง

ที่ คนอีกหลายๆคนเคยผ่านมาหลายเวอร์ชัน แต่ว่า ใครซักคนก็บางทีอาจหลงๆลืมๆ เวอร์ชัน ก่อนเก่า ไปบ้างแล้ว แต่ว่าอาจไม่

บางทีอาจไม่ยอมรับได้ว่า “Pinocchio’ เป็นวรรณกรรมอมตะที่ถูกถือจับมา สร้างเป็นหนังอยู่หลายครั้ง ด้วยแนวทาง รวมทั้ง ไอเดียที่ ต่างๆนาๆ

จนกระทั่งในวันนี้ มันได้ถูกผู้กํากับ โด่งดัง อย่าง Robert Zemeckis เอามาสร้างสรรค์ ใหม่ อีก คราวมั่นใจว่า ผู้คนจํานวนไม่ใช้น้อย อาจจะรู้จักดี กับ ผลงานอันเลื่องลือของเขาอย่างดีเยี่ยม

ถ้าหากพูดถึง ภาพยนตร์ มีชื่ออย่าง ‘Forrest Gump’, ‘Cast Away’ รวมทั้ง Back to the Future’ ทุกคนย่อมร้องอ้อ และก็เมื่อเขา ต้องการจะนําแอนิเมชันคลาสสิกแสน

อมตะประเด็นนี้มาสร้างใหม่ อีกที เขาก็เลือกให้มันเป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ คชันที่ประสานระหว่างการแสดง ของ คนจริง

กับ แอนิเมชัน ของ นักแสดง หลักอัน นานาประการ ผ่านบทที่เขียนร่วมกับ Chris Weitz ผู้ครอบครอง ผลงานอย่าง “Cinderella’

pinocchio เรื่องย่อ เจปเปตโต ช่างแกะสลัก ไม้เก่า ที่ได้สร้าง หุ่นไม้ขึ้นมาตัวหนึ่ง แต่ว่า อะไรบางอย่างแสนอัศจรรย์เกิดขึ้น! เมื่อเจ้า หุ่นน้อย กลับ กล่าวได้

และก็เดินเหิน วิ่ง และยังรวมไปถึง กินได้เสมือนเด็ก จริงๆ เกปเปต โต ตั้งชื่อเขาว่า พินอ คคิโอ แล้วก็เลี้ยงเขา อย่างกับลูกชายของตัวเอง ก่อนเกิดเหตุราวเสี่ยงภัยสุดอัศจรรย์ ตามมา

ในตอนเริ่มเรื่อง ของ Pinocchio (2019) พวกเรารู้สึกว่า ตอนก่อนรวมทั้ง ตอน ที่บิดา พึ่งสร้าง พิน็อคคิโอ ขึ้นมา ใหม่ๆ ซึ่งเป็นตอนที่ Roberto Benigni ยังเป็นตัวดําเนินเรื่อง

เป็นตอนๆที่ยังมองเพลิดเพลิน เพราะเหตุว่ามัน ทําให้ พวกเราระลึกถึงเขา ใน หน้าที่ ป่า นัก พูดเท็จ (ขาว) ผู้ไหลลื่น แล้วก็แสนดีในค่ายกักขัง ชาวยิว ใน Life Is Beautiful

ซึ่งเป็นหน้าที่ที่นําพาเขาไปสู่ออสการ์ในปีนั้น แต่ว่า ภายหลังที่ Pinocchio พลัดจากบ้านแล้วก็ห่าง จาก บิดา ไปแล้วนั้น หนังก็ออกจะเรื่อยเปื่อยเฉื่อย

ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจนักสิ่งที่น่าดึงดูดเป็น Pinocchio (2019) มิได้ให้พวกเรา จุดโฟกัสเพียงแค่การโกหก ของ Pinocchio แล้ว จมูก ยื่น ยาวแค่นั้น

แต่ว่าเสนอการโกหก ใน หลายๆ แบบอย่างในสังคมของคน คนจํานวนไม่น้อย ตั้งแต่ การโกหก ปั้นเรื่อง เพื่อชีวิต, การพูดเกินจริง หรือ ยกยอปอปั้นเพื่อความมีชีวิตรอด,

คนละโมบ โลภมาก ที่ โป้ปดมดเท็จเพื่อ ได้ของ ของคนอื่นๆ มาเป็นของ ตน, คน บิดเบือนเรื่องเล่าเพื่อ ตนเอง ดูดี หรือเปล่า ดูไม่ดี ในสายตาคนอื่นๆ, การโกหก ขาว เพื่อ อีกข้าง พอใจ,

จนกระทั่ง ความไม่ชอบธรรม ในชั้นศาล ของ ชนชั้น ดูแล อื่นๆอีกมากมาย จนถึงกล่าวได้ว่า การโกหก คือเรื่องธรรดา ที่เกิต ขึ้น ใน สังคม

ผู้กำกับ มัตเตโอ การ์โรเน ได้เนรมิตประเทศอิตาลีให้กลายเป็นฐานภูมิแห่งการทำไลฟ์แอ็กชันจากนิยายชื่อก้องโลกที่เคยถูกถ่ายทอดเป็นแอนิเมชันชื่อดังของดิสนีย์อย่าง

พินอคคิโอ ซึ่งนับเป็นความแปลกตาพอสมควร หากนับว่าเรารู้จักผู้กำกับท่านนี้ครั้งแรก ๆ จากผลงานมาเฟียอิตาลีสุดเข้มข้นจนเข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำในปี 2008

จากหนัง Gomorra นั่นล่ะ การเห็นเขามาจับสายแมสแบบดิสนีย์ไลฟแอ็กชันเรื่องนี้ ก็พอคิดได้ว่าไม่มีทางโลกสวยแบบมิกกี้เม้าส์สไตล์แน่ๆ

ซึ่งก็จริงดังคาด เพราะผู้กำกับการ์โรเนประเคนความดาร์กแบบโลกผู้ใหญ่ใส่มาในหนัง ราวกับเอาเวอร์ชันนิยายกริมที่ไม่ประนีประนอมยัดใส่ปากแอนิเมชันดิสนีย์

แล้วพูดตอกหน้าว่า โต ๆ ได้แล้วเฮ้ย! จะว่าไปพิจารณาตัวเรื่องเล่าเดิมเองเราก็สัมผัสความโหดร้ายและดาร์กในเนื้อหาได้อยู่เนือง ๆ อยู่แล้ว

ทั้งคำสาปที่จมูกยาวเมื่อพินอคคิโอพูดโกหก จนถึงการโดนปลาวาฬยักษ์เขมือบเข้าไปทั้งเป็น เป็นอาทิ และเมื่อผู้กำกับจงใจดึงเสน่ห์แบบดาร์กแฟนตาซีมาใช้

ผสมผสานท่าทีการเล่าเชิงปรัชญาแบบที่หนังยุโรปเป็นตามธรรมชาติ ที่แทบไม่คลี่คลายหรือเฉลยความประหลาดตรงหน้าผู้ชม มันก็เป็นงานที่สลัดทิ้งจากหัวได้ยากไม่น้อย

โดย หนัง ยังน่าเฝ้าดู สําหรับคนชอบดูหนังอิตาลี รุ่น กึ่งกลาง กระทั่งถึง รุ่น ดึกดื่น เมื่อหนังได้ โรกางร์โต เบนิญญี ดารา

แล้วก็ ผู้กํากับผู้ครอบครองรางวัลออสการ์ สาขา ดาราน่าชายเหมาะสมที่สุดจาก Life Is Beautiful (1997) มา รับบท เจปเปตโต

ช่างไม้ที่เป็นผู้ให้กําเนิด หุ่นไม้มีชีวิต ให้หาย นึกถึง ด้วย รวมทั้งจะว่าไปก็บางทีอาจเป็นการ แก้ตัว ภายหลังที่เบนิญญีเคย ควบคุม และก็แสดงเป็นพินอคคิโอในปี 2002 ที่ล้มเหลว

หนัก จนกระทั่งเอารางวัล แรซซี่อวอร์ด ไปครอบครอง ซึ่งนับว่าการเล่นบท บิดาผู้น่าเห็นใจของเขายังเป็นเสน่ห์ร้ายกาจ

ที่ยั่วยวนใจ หัวใจผู้ ชม ให้เอาใจช่วยเขา และก็เผื่อแผ่ไปลุ้นถึง พินอคคิโอ ได้อยู่ไม่น้อยทีเดียวโดยสรุป Pinocchio ก็ยังเกิดเรื่องเล่าที่มีคติสอนใจอีกทั้งเด็ก

รวมทั้งคนแก่ แต่ว่า หนังมิได้โลกงามราวกับหนัง ติ๊สนีย์ ทั้งยังมีความแปลกประหลาดมากยิ่งกว่า ความบันเทิง ด้วยเหตุนี้ มัน บางทีอาจจะมิได้เหมาะสมกับเด็กทุก คน

หนังเล่าเฉื่อยๆ จนกระทั่ง คิดว่า แอบยาว (สองชั่วโมง) และก็ชักชวนแอบให้ลําไยใน ความ ง่าวถูกหลอกซ้ํา ไปซ้ํามา ของเด็กน้อย แต่ว่า หนังก็ภาพงาม มีความอ่อนโยนพอสมควร และก็มีมุมสวยๆ แอบแฝง อยู่เสมอ