รีวิวหนังฝรั่ง Hobbs And Shaw

รีวิวหนังฝรั่ง Hobbs And Shaw เป็นหนังภาคแยกที่แยกออกมาจากตระกูล Fast Furious ที่เป็นการเล่าเรื่องตัวละครแตกแยกออกมาเพิ่มเติม เล่าเจาะไปถึงตัวละคร พี่โล้น 2 คน คือ Hobbs ( The Rock ) และ Shaw ( Jason ) นั้นเองแน่นอนว่า ยังคงใช้ชื่อ Fast Furious อยู่แต่อาจจะไม่ได้อิงอะไรมากนักเป็นแค่เอาตัวละครมาเล่าเพิ่มเติม และอาจจะไม่ได้มีแข่งรถอะไรเท่าไรครับ ด้วยการที่ตัวหนังภาคหลังนั้น เล่าเรื่องได้เวอร์วัง หลุดโลกออกไปเรื่อยๆ ในภาคนี้ก็เช่นกัน เป็นภาคแยกที่เล่าเรื่องได้เวอร์กว่าเดิมขึ้นไปอีก ทั้งเรื่องแอคชั่น และ ตัวละคร ที่ต้องบอกว่าเป็น หนัง Superhero ก็ไม่เวอร์เกินไปจริงๆ และยิ่งภาคแยกแบบนี้คงไม่ต้องแข่งรถอะไรกันแล้วหละ ในตัวหนังเองก็ตอบโจทย์ความบ้า สนุก ได้ครบจัดเต็ม เว็บดูหนัง 

ตัวละครทั้งสองตัวนี้มีความ contrast กันอย่างมาก หนังก็พยายามสื่อออกมาให้เห็นตั้งแต่ซีนเปิดตัว เช่น Hobbs ก็จะ American style ส่วน Shaw ก็จะ British Style ก่อนหน้านี้ ตัวละครสองตัวนี้ไม่ถูกกัน ภาคนี้ก็ยังไม่ถูกกัน จึงมีจิกกัดและแกล้งกันตลอดเรื่องจนถึงวินาทีสุดท้ายของเรื่อง

แต่มันมีกรณี Hattie Shaw (Vanessa Kirby จาก MI6) น้องสาวของ Deckard Shaw (Jason Statham จาก The Transporter) ถูกกล่าวหาว่าขโมยไวรัสสำคัญไป และเธอยังต้องหนีจากการตามล่าของ Brixton Lore ด้วย (Idris Elba จาก Thor) ทำให้ Shaw(s) จำเป็นต้องมาร่วมมือกับ Luke Hobbs (Dwayne Johnson จาก Jumanji: Welcome to the Jungle) เว็บดูหนังฟรี

นี่เป็นหนังที่ขอแค่ดึงตัวละครจาก Fast ภาคหลักมาต่อยอดในแนวทางของตัวเอง ซึ่งภาคหลักหลังๆ ก็เรียกว่าเริ่มหมดมุกหรือออกทะเลไปเรื่อยๆ แล้วก็ว่าได้ แต่ในเมื่อรายได้ยังคงดีงามอยู่ สตูดิโอก็อนุมัติให้ไปต่อเรื่อยๆ แม้ว่าจะกำหนดจบที่ภาค 10 ตามข่าวก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ Fast And Furious Hobbs and Shaw ก็เหมือนตัวตายตัวแทนภาคหลัก และเป็นงานต่อยอดความโอเว่อร์ของภาคหลักให้หลุดจากคอนเซ็ปต์รถแข่ง โจรนักซิ่ง ไปเป็นอะไรที่เรียกว่าใกล้เคียงกับพวกแนว Super Hero จริงจังใกล้ๆ จะเป็นแบบ Avengers เลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เริ่มเรื่องมาหนังก็โฟกัสไปที่ภารกิจกู้โลกแบบหนังสายลับดีๆ นี่เองรีวิวหนังฝรั่ง Hobbs And Shaw

กับการเปิตตัวองค์กรลึกลับที่ครอบครองเชื้อไวรัสฆ่าล้างโลก และเป็นช่วงเปิดตัว Hattie (วาเนสซา เคอร์บี้) สายลับ MI6 น้องสาวของ Shaw ตัวละครใหม่ในจักรวาลนี้ ที่ล่าสุดก็พึ่งเล่น Mission: Impossible – Fallout ในบท The White Widow ที่แย่งซีนนางเอกภาคหลักไปเยอะ ด้วยดวงตางามขนตางอนสวยสะดุดตามากๆ ในเรื่องนี้เธอได้บทเด่นเต็มๆ ไม่น้อยไปกว่า Hobbs and Shaw และไม่ใช่แค่ภารกิจระดับกู้โลก หนังยังอัดความเหนือมนุษย์ให้กับองค์กรร้ายใหม่ให้ไฮเทคสุดๆ ระดับที่มีวิทยาการแบบใน Avengers เลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่มอเตอร์ไซด์สุดล้ำ (ที่เห็นในตัวอย่างบางส่วน) ไปจนถึง Brixton ตัวผู้ร้ายพลังระดับฝ่าบาทแบล็คแพนเธอร์หรือกับตันอเมริกา ที่มีทั้งชุดกันกระสุนแบบสุดยอด (ใช้มือบังกระสุนได้) หรือพลังทำลายเหนือมนุษย์จากจักรกลภายในร่างที่องค์กรมอบให้ ซึ่งในตัวอย่างที่บอกว่าเป็น “แบล็คซูเปอร์แมน” นี่ไม่ได้เกินเลยไปจริงๆ ถ้าภาคต่อมีชุดเกราะเหาะได้แบบ Iron man ก็คงไม่แปลกอะไรแล้วล่ะครับ ดูหนังฟรี 

ตัวหนังในเรื่องของตัวบทนั้นไม่มีอะไรอยู่แล้วเรียบๆ เดาง่าย แบะเล่าเรื่องแบบทั่วไป 1-2-3 ไม่ได้มีอะไร ให้คิดเยอะหรือ พลิกล็อคอะไรมากเลยแหละ ตัวหนังเล่าเรื่องแบบเรียบๆเดาได้ง่ายและไม่ได้มีดราม่า ประเด็นอะไรเยอะแยะครับ คือดูง่ายจนแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย เป็นหนังที่ดูแล้วคลายเครียด ฆ่าเวลาได้ดีครับ บทจะเน้นไปที่การเล่าเรื่องที่จะแก้ปัญหา กู้โลกแบบที่เราคุ้นเคยกันเป็นเรื่องปกติแต่แทรกเรื่องพี่น้อง ครอบครัวเข้ามาบ้างเล็กน้อยครับ เป็นปกติของตระกูล Fast ที่จะหยิบเรื่องครอบครัวเข้ามาบ้างเล็กน้อยให้มัน กลมกล่อมขึ้น ก็ถือว่าเป็นจุดปกติของหนังแอคชั่นนะในจุดนี้ จริงๆตอนเห็นตัวอย่างเราก็คงพอเดากันได้แล้วหละว่าอย่าไปหวังบทอะไรมันเยอะ เพราะจะเจอคำถามพอสมควรว่าทำไมแบบนั้น แล้วเรื่องนั้นจะเป็นยังไงอะไรแบบนี้จะขึ้นมาเรื่อยๆแน่นอน

รีวิวหนังฝรั่ง Hobbs And Shaw

ทว่าผลลัพธ์ของการขยายจักรวาลครั้งนี้นอกจากเสน่ห์ของนักแสดงนำแล้ว เราแทบจะไม่พบความสนุกแบบหนังตระกูลฟาสต์เคยเสิร์ฟให้เราเท่าไหร่ แม้ว่าจะมีการกล่าวเรื่องครอบครัวต้องช่วยเหลือกันบ้างแต่ก็ผิวเผินเหลือทน และนอกจากการตัดฉากแข่งรถออกแล้วแทนที่ด้วยพลอตหนังสายลับโคตรโม้แบบ มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล แทน- แต่ก็นะลำพังแค่พลอตไวรัสถูกขโมยแล้วนางเอกต้องฉีดเข้าแขนตัวเองนี่ก็นึกถึงพลอต M:I2 (2000) กันโต้งๆแล้วหนังดันใส่ฉากขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ล่า ฉากตบตาศัตรู จนเหลือแค่นกพิราบบินนี่แหละที่ไม่ได้ใส่มา – จนงานอ้างอิงกลายเป็นลอกการบ้านไปซะงั้น มิหนำซ้ำสิ่งที่พาให้หลุดโลกหนักเลยคือการใส่ หนังฟรี 

บริกซ์ตัน นักรบดัดแปลงพันธุกรรมซึ่งมองเผินๆก็เท่ดีแต่รถมอเตอร์ไซค์พี่แกนี่แหละที่เวอร์จนมันเกือบจะแปลงร่างเป็นทรานส์ฟอร์เมอร์อยู่มะรอมมะร่อ ซึ่งผลลัพธ์ของการคิดพลอตที่หยิบนี่ผสมนั่นเลยทำให้ตัวหนังไม่มีอะไรน่าจดจำเท่าไหร่ ซึ่งก็น่าเสียดายอีกเหมือนกัน เพราะนอกจากต้องจำทนดูหนังที่ไปลอกพลอต ลอกภาพจำชาวบ้านแถมเนื้อเรื่องที่แทบเดาได้ตลอดแล้ว ตรรกะของตัวละครที่เคยปูมาตั้งแต่ Fast 5 อย่างลุค ฮอบบส์ จะต้องสุขุมเยือกเย็น มีเหตุผลก็ถูกทำให้กลายเป็นกล้ามใหญ่ไร้สมอง ส่วนเดคคาร์ด ชอว์ ที่ดูโหดจัดจาก Fast7 ก็ดันดูติงต๊องแบบไม่ค่อยมีเหตุผล

รีวิวหนังฝรั่ง Hobbs And Shaw

มิหนำซ้ำพอทั้งคู่ร่วมซีนกันเรากลับไม่รู้สึกถึงเคมีที่ทั้งคู่จะมีร่วมกันนอกจากบทที่ให้ปะทะคารมกันยืดยาวที่ขำบ้างชวนหาวบ้างแล้ว หนังก็ดันไม่ใส่จุดอ่อนให้เราได้ลุ้นหรือเห็นใจพวกเขาเท่าที่ควรกลับให้ทั้งคู่ชนะตลอดจนแทบไม่ต้องเอาใจช่วยใดๆ ดังนั้นเราจึงต้องหวังกับการดีไซน์ฉากบู๊แล้วล่ะว่าจะช่วยให้หนังดูสนุกหรือน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นบ้างไหม

ตัวนักแสดง เองนั้นเป็นจุดเด่นมากๆที่ช่วยหนังเอาไว้ทั้งนักแสดงหลัง นักแสดงรับเชิญที่ค่อนข้างว้าว และ ช่วยเติมสีสันของหนังได้เยอะเลยไม่งั้นคงไม่ลงตัวเท่านี้ครับ และทั้งตัวร้าย ก็แสดงออกมาได้ค่อนข้างดีคือแบกหนังได้สบายๆและตัวหลักทั้ง 2 คนนั้นต้องบอกว่าเคมีค่อนข้างเข้ากันเลยคือทั้งการตอบโต้

การจิกกัดต่างๆก็ทำได้ลงตัวและเป็นส่วนนึงของหนังที่พยายามแทรกเข้ามาตลอดนะ ทั้งมุก ทั้งการจิกกัดหนังต่างๆ แน่นอนว่ามีหลายๆมุกอาจจะไม่ได้ฮาอะไรขนาดนั้น แต่พวกฮาๆจะไปตกกับนักแสดงรับเชิญที่เข้ามาแบบแย่งซีนได้ดีนะ ส่วนนักแสดงสาวก็เป็นจุดที่ดีอีกอย่างของหนังเรื่องนี้ VANESSA KIRBY นั้นมีความสวยและดึงดูดอย่างมากในทุกๆฉากที่ออกมา คือเป็นอีกจุดหลายๆคนน่าจะชอบกันครับ ด้านของการแสดงนั้นไม่มีอะไรต้องติดในหลายตัวละครครับถือว่าทำออกมาได้ดีเลย

ฉากแรกก็คือฉากทีมพระเอกขับ McLaren ไล่ล่ากับแก๊งบิ๊กไบค์ไฮเทค (ซีนนี้ขายรถได้จริง เพราะขนาดเราเป็นคนไม่อะไรกับซูเปอร์คาร์ เห็นแล้วยังว่าคันนี้สวย อยากได้ๆ) และฉากในองก์สุดท้ายที่เกาะซามัวซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Hobbs ก็จะมีฉากรถไล่ล่ากับเฮลิคอปเตอร์ แม้ว่าเราจะได้เห็นทั้งสองช่วงนี้ไปบ้างแล้วในเทรลเลอร์ แต่ในหนังตัวเต็มมีเยอะกว่านั้นมาก และซีจีเนียนตากว่าที่เห็นในเทรลเลอร์ด้วย หนังใหม่ 

ฉากไคลแมกซ์นี่เอาจริงชอบนะ มีความ brotherhood + มีความ Avengers ที่ต่อสู้กันแบบ Old School แต่บางซีนต่อสู้นี่แอบคล้าย Batman v Superman ด้วยเบา ๆ และชอบที่พามาเปลี่ยนบรรยากาศ มาต่อสู้บนเกาะของชาวเกาะแท้ ๆ ซึ่งโลเกชั่นสวย ปิดจบฉากสุดท้ายที่เกาะนี้ยังไงก็ภาพสวยตราตรึง

แน่นอนครับว่าการที่เราดูหนังแอ็กชันคงต้องทิ้งเหตุผลไว้บ้านแล้วไปรับความมันอย่างเดียว ซึ่งพอเราได้ลองสวมวิญญาณคอหนังแอ็คชั่นเพื่อดูและหวังว่าจะลุ้นกับฉากบู๊ต่างๆ ผลลัพธ์เหรอครับ เรากลับได้ดูหนังแอ็กชันที่มีการโคโรกราฟได้ขี้เกียจมาก ถามอย่างว่าใครไม่เคยเห็นฉากขับรถไล่ล่าใครไม่เคยเห็นซีนขับรถลอดรถบรรทุกหรือซีนพะบู๊ดวลหมัดเตะต่อยบ้าง..ก็เคยเห็นมาทั้งนั้นแหละ

และยิ่งในหนังคือแทบหาความสดใหม่ในการออกแบบไม่เจอยิ่งดูก็ยิ่งเฟลนะ ยิ่งการกำกับคิวบู๊ที่เราคาดหวังมากๆมาจบที่ก่ารเตะต่อยแบบนัดคิวถ่าย คือเราแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่แทนที่จะรู้สึกว่ามันเจ๋งหรือเท่ กลับรู้สึุกว่าเขาเอานักแสดงระดับนี้มาทำอะไรกันปัญญาอ่อนขนาดนี้แทน แถมฉากแอ็กชันเวอร์ๆส่วนใหญ่เรายังจำได้ชัดๆเลยว่าถ่ายหน้าบลูสกรีนความสดจึงหมดไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งก็ถือว่า เดวิด ลีตช์ เองที่เคยแจ้งเกิดจาก John Wick ดูมือตกและทำผลงานได้มือตกไปพอควร แต่ยังดีที่หนังได้วาเนสซ่า เคอร์บี ในบท แฮดดี้ ที่เอาเสน่ห์ความสวยของเธอมาผนวกในฉากบู๊จนทำให้ตัวหนังยังมีฉากแอ็กชันที่น่ามองอยู่บ้างครับ ดูหนังออนไลน์ 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *