รีวิวหนังฝรั่ง Boyhood

รีวิวหนังฝรั่ง Boyhood เราก็จะได้เห็นพัฒนาการของแต่ละคน การเติบโตของแต่ละช่วงชีวิต ซึ่งการเล่าเรื่องนี้จะพูดถึง เมสัน กับพี่สาวคือ ซาแมนธา ที่ใช้ชีวิตจากวัยเด็กขึ้นมาเป็นวัยรุ่น รวมไปถึงแม่ของเขาที่ต้องผ่านชีวิตร้อนหนาวมาร่วมกัน ส่วนพ่อของเขาก็มาบ้างหายบ้าง เอาจริงๆ พลอตเรื่องก็ไม่ค่อยจะมีอะไรเท่าไหร่นัก แต่พอดูเข้าจริงๆ ก็อยากจะรู้ความเป็นไปของแต่ละคน ว่าชีวิตมีการเปลี่ยนไปแปลงไปในทางไหนกันบ้าง การก้าวผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตที่มีทั้งดีและร้าย แถมหนังเรื่องนี้ก็ยาวนานกว่า 2 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว รีวิวหนังฝรั่ง

ผลงานกำกับและเขียนบทของ Richard Linklater จากเรื่อง Before Sunrise (1995), Before Sunset (2004) และ Before Midnight (2013) ถูกฉายครั้งแรกในงานเทศกาล Sundance 2014 ทั้งคว้ารางวัลมาจากงาน Berlin International Film Festival ครั้งที่ 64 และงานอื่นๆอีกมากมาย ดูหนัง 

โดยหนังเรื่องนี้ใช้นักแสดงคนเดียวกันตลอดทั้งเรื่องและใช้เวลาการถ่ายทำถึง 12 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2002 จนมาจบลงที่ปี 2013 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงบทอยู่ตลอดเวลาโดยอิงกับตัวนักแสดงตัวจริงที่โตขึ้นตามวันเวลา ยุคสมัย และเหตุการณ์บ้านเมืองต่างๆ

Boyhood เป็นเรื่องราวชีวิตของเด็กชายชื่อเมสัน (Ellar Coltrane) ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ถึง 18 ปี ในครอบครัวอเมริกันชนชั้นกลางที่มีเรื่องของการหย่าร้าง แต่งงานใหม่ การทะเลาะหรือแกล้งแหย่กันระหว่างพี่น้อง การย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียน เพื่อนใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ มีความรัก อกหัก จนสอบเข้ามหาลัย ดูหนังออนไลน์ 

ซึ่งเป็นชีวิตที่ค่อนข้างเป็น pattern หรือ เป็น stereotype ของครอบครัวอเมริกันที่มักจะเกิดเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติ และอันที่จริงแล้วก็ไม่ได้ต่างไปจากชีวิตของคนทั่วๆไปอย่างเราๆสักเท่าไหร่ เพราะพวกเราทุกคนต่างเคยเป็นเด็กและเติบโตผ่านเรื่องราวที่อาจเหมือนหรือคล้ายในหนังมาเช่นกัน มันจึงทำให้หนังเรื่องนี้มีจุดเชื่อมโยงกับคนดูอย่างมากและมีจุดที่เรียกว่ามีประสบการณ์ร่วมกันมาของทั้งช่วงวัย ห้วงความรู้สึก และช่วงเวลาที่เหตุการณ์นั้นๆที่เกิดขึ้นจริงในโลก ดูหนังฟรี 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพลง หนัง ของเล่น กีฬา เทคโนโลยี หรือแม้แต่ด้านการเมืองอเมริกันที่มีการแอบจิกกัดได้ฮาอยู่ จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามสำหรับหนังเรื่องนี้ที่คนดูจะเห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการอย่างชัดเจนของทั้งนักแสดงตัวจริงและทั้งตัวละครในเรื่องอย่างต่อเนื่อง จนหนังจบแล้วก็ยังอยากติดตามต่อว่าชีวิตตัวละครจะเป็นอย่างไรต่อไป เว็บดูหนัง

สิ่งที่ชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้คือ ความตั้งใจมุ่งมันของผู้กำกับ ทีมงานและนักแสดงที่ทำให้หนังเรื่องนี้สำเร็จออกมาดีมาก นักแสดงทุกคนในเรื่องแสดงได้ดีมากโดยเฉพาะ Ethan Hawke ซึ่งเล่นเป็นพ่อของเมสัน บทส่งมาก และชอบช่วงวัยเด็กของเมสัน เพราะโตขึ้นมาแล้วโดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบบุคลิกหน้าตาของเมสันสักเท่าไหร่ เว็บดูหนังฟรี 

หนังที่ใช้เวลาสร้าง 4-5 ปี อาจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าหนังเรื่องหนึ่งใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี นั่นถือว่าแปลก ยิ่งระยะเวลา 12 ปีนั้นเกิดจากความตั้งใจของผู้กำกับเอง ไม่ใช่เป็นผลมาจากปัญหาในการถ่ายทำจนทำให้ต้องลากยาว ยิ่งทำให้แปลกและน่าสนใจว่า หนังอะไรถึงได้สร้างนานขนาดนั้น ซึ่ง “Boyhood” ก็คือคำตอบของเรื่องนี้

รีวิวหนังฝรั่ง Boyhood

หนังเรื่องนี้ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 12 ปี โดยใช้นักแสดงชุดเดิมตลอดระยะเวลาการถ่ายทำ โดยมีศูนย์กลางของเรื่องราวอยู่ที่ “Mason Evan, Jr.” (Ellar Coltrane) เด็กหนุ่มที่เราจะได้เห็นการเติบโตของเขาตั้งแต่ 6 ขวบไปจนถึง 18 ขวบ

“Richard Linklater” ผู้กำกับ ต้องการสร้างให้ Boyhood เป็นหนังแนว “Coming of Age” ที่สมจริง เห็นการเปลี่ยนผ่านช่วงวัยอย่างชัดเจน โดยไม่ต้องใช้เมคอัพแต่งช่วย จึงเป็นที่มาของการวางแผนถ่ายทำยาวนานถึง 12 ปี เป็นแนวคิดที่ท้าทายมาก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแนวคิดที่ “บ้าพลัง” มากเช่นกัน

เพราะโปรเจคระยะยาวแบบนี้ มีความเสี่ยงที่จะทำให้ล่มได้ไม่น้อย เกิดผู้กำกับเบื่อขึ้นมากลางคัน หรือนักแสดงถอดใจไม่เล่นต่อ หรือเป็นอะไรไป ที่ทำมาหลายปีก็ถือว่าล้มเหลว แต่โชคดีที่ “Boyhood” ผ่านสิ่งเหล่านั้นมาได้ และกลายมาเป็น “ประวัติศาสตร์” อีกหน้าหนึ่งในวงการภาพยนตร์

แค่ความกล้าบ้าบิ่นในการทำ 12 ปีให้มาอยู่ในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง 35 นาที ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ไม่ควรจะพลาดหนังเรื่องนี้แล้ว Boyhood ยังมีดีที่บทหนัง หนังไม่ได้เป็นเพียงการนำภาพในแต่ละปีมาต่อๆ กัน เพื่อให้เห็นว่าหน้าตาของ Mason Evan, Jr. และตัวละครรอบข้างเปลี่ยนไปยังไงเท่านั้น

รีวิวหนังฝรั่ง Boyhood

แต่หนังยังมีเส้นเรื่องของตัวเองที่น่าสนใจและทำให้เราอยากติดตามต่อว่าชีวิตของ Mason จะดำเนินไปในทิศทางใด ที่น่าทึ่งคือแม้จะเขียนบทเพิ่มกันปีต่อปีตามเวลาที่ถ่าย บางปีบทเพิ่งเสร็จในคืนก่อนถ่ายทำ แต่หนังยังสามารถคุมให้ทั้ง 12 ปีอยู่ในโทนเดียวกันได้ตลอด พร้อมๆ กับทำให้เห็นพัฒนาของการเรื่องราว สภาพแวดล้อม ประเด็นที่โตไปพร้อมๆ กับตัว Mason ด้วย

ความน่าสนใจในชีวิต Mason คือเขาเติบโตมาในสภาพครอบครัวที่แตกแยก พ่อแม่หย่ากันตั้งแต่เด็ก เขาและพี่สาว “Samantha Evans” (Lorelei Linklater) อาศัยอยู่กับแม่ “Olivia” (Patricia Arquette) ขณะที่พ่อ “Mason Evan, Sr.” (Ethan Hawke) มาเจอเขาและพี่ได้แค่ประมาณ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง

หรือไม่ก็ทิ้งช่วงนานกว่านั้น แม้ว่าสังคมครอบครัวอเมริกาที่มองเผินๆ จะเป็นสังคมที่สามารถแยกเรื่องความรักฉันชู้สาวระหว่างสามีภรรยากับความรักที่พ่อแม่มีต่อลูกออกจากกันได้ คือถึงแม้จะหย่ากัน แต่ทั้งพ่อและแม่ต่างสิทธิที่จะมาพบลูกได้เป็นครั้งคราว พาไปเที่ยว พาไปเล่นได้ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ครอบครัวให้คงอยู่ได้

และทำให้เด็กไม่รู้สึกว่าขาดความรักจากแต่พ่อแม่ แต่ชีวิตแบบนี้ใช่ว่าจะไม่ส่งผลอะไรต่อเด็กเลย กับ “Samantha” อาจไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจน เพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกันกับแม่ แต่กับ “Mason” เขาเป็นผู้ชาย และยังมองพ่อในลักษณะไอดอล เมื่อต้องแยกจากพ่อมาอยู่กับแม่และพี่สาว ลึกๆ Mason จึงรู้สึกไม่ต่างว่าเขาเป็น “ส่วนเกิน” ของบ้าน

แต่ขณะเดียวกันเขาก็เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ความขัดแย้งนี้เก็บกดไว้ในใจของ “Mason” จนทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกอะไร หลักลอย และใช้ชีวิตแบบดูเหมือนไร้จุดหมาย บางทีเพราะกลัวว่าถ้าเขาจริงจังกับอะไรมากเกินไปมันจะทำให้เจ็บให้เสียใจมากยิ่งขึ้น

รีวิวหนังฝรั่ง Boyhood

นอกจากตัวของ Mason แล้วตัวละครรอบข้างต่างก็มีพัฒนาการตลอดระยะเวลา 12 ปี โดยเฉพาะตัวละครของพ่อและแม่ ซึ่งสังเกตได้ชัดว่า “Mason Evan, Sr.” จากพ่อที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย กลายมาเป็นพ่อคนที่คิดถึงครอบครัวก่อน อาจเพราะความรู้สึกที่ว่าเขายังไม่สามารถทำหน้าที่พ่อให้กับ “Mason” และ “Samantha” ได้เท่าที่ควร

ขณะที่ “Olivia” เราก็ได้เห็นมุมมองของ Single Mom ที่เลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คนด้วยตัวคนเดียว แต่ขณะเดียวกันก็พยายามไขว่คว้าหา “ความรัก” ทั้งเพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับลูกๆ และเพื่อเติมเต็มความรักที่ผิดพลาดในอดีตระหว่างเธอกับ “Mason Evan, Sr.” นั่นทำให้หลังจากนั้นเธอแต่งงานใหม่ถึง 2 ครั้ง ก่อนที่เวลาจะทำให้เข้าใจว่าบางทีเธอก็วิ่งหาความรักมากเกินไป และการที่เธอแต่งงานบ่อย ย้ายที่บ่อย มันสร้างปมในใจให้กับลูกๆ อย่างไม่รู้ตัว

หลังจากเสร็จสิ้นจากงานสร้างภาพยนตร์ไตรภาคสุดคลาสสิก Before Sunrise, Before Sunset และ Before Midnight ซึ่งภาพยนตร์เรื่องหลังสุดได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับภาพยนตร์อีกเรื่องที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของกาลเวลา

Boyhood เป็นภาพยนตร์ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ เป็นอีกหนึ่งโปรเจคท์ที่ไม่เหมือนภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ โดยใช้เวลาถ่ายทำในช่วงเวลา 12 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2002 จนถึงปี 2013 โดยที่ลิงค์เลเตอร์ พร้อมด้วยทีมงานและนักแสดงของเขาจะกลับมาเจอกันเพียงไม่กี่วันในทุกปี

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการติดตามเรื่องราวชีวิตของเด็กชายชาวออสติน เมสัน (เอลลาร์ โคลเทรน) ซาแมนธา พี่สาวของเขา (ลอเรไล ลิงค์เลเตอร์) และโอลิเวีย แม่ของพวกเขา (แพทริเซีย อาร์เควทท์) ท่ามกลางกระแสขึ้นลงของชีวิตรอบตัวพวกเขา และยังมี เมสัน ซีเนียร์ (อีธาน ฮอว์ค) พ่อของเด็ก ๆ ที่เข้า ๆ ออก ๆ ชีวิตของพวกเขาอีกด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *