รีวิวหนังฝรั่ง Teenage Mutant Ninja Turtles 2

ภาคนี้เล่าเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากภาคก่อน ยังคงมีตัวร้ายอย่างเชร็ดเดอร์ (Tohoru Masamune) ที่กลับมาอีกครั้ง แถมยังร่วมมือกับศาสตราจารย์สติเฟื่องอย่าง แบ็กซเตอร์ สต็อกแมน (Tyler Perry)  ดูหนังฟรี ผู้ใฝ่ฝันจะกลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลก โดยมีบีบ็อพ (Gary Anthony Williams) และร็อกสเตดดี้ (Stephen Farrelly) ดูหนังออนไลน์ สองนักโทษสมองน้อยที่บังเอิญหลุดคุกแล้วถูกแปลงร่างให้กลายเป็นมอนสเตอร์  ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา

โดยสำหรับเรื่องราวใน Teenage Mutant Ninja Turtles ครั้งนี้ 

รีวิวหนังฝรั่ง Teenage Mutant Ninja Turtles 2

มหานครนิวยอร์กได้ตกอยู่ในการครอบงำจากอำนาจมืดของ เชร็ดเดอร์ อีกครั้ง ซึ่งเกี่ยวพันกับความปลอดภัยในความเป็น “มนุษย์” ของผู้คน เมื่อสารเคมีสีม่วงลึกลับ ที่สามารถเปลี่ยนมนุษย์กลายเป็นสัตว์ประหลาด ได้ถูกใช้สร้างกองทัพเพื่อยึดครองโลก นำทีมโดย 2 วายรายตัวใหม่ ที่พึ่งถือกำเนิดขึ้นอย่าง พี่แรด และ เจ้าหมูป่า ขนาดบิ๊กบึ้ม! ภารกิจเก็บกวาดจึงตกเป็นหน้าที่ของเหล่า 4 เต่ามุดท่ออีกครั้ง ร่วมด้วยเพื่อนเก่า สาวนักข่าว เอพริล และพ่อหนุ่มหน้ากากขาว เคซี่ เพื่อรวมกันกอบกู้เมืองให้พ้นจากอันตรายครั้งใหม่ที่กำลังเผชิญจากแผนการชั่วร้ายของเชรดเดอร์

นอกจากนี้แล้ว เมแกน ฟ็อกซ์, วิล อาร์เน็ตต์, อลัน ริตช์สัน, พีท โพลสแซค, เจเรมี โฮเวิร์ด, วิลเลียม ฟิตช์เนอร์ และ โนอา ฟิชเชอร์ ยังกลับมารับบทนำเหมือนเดิม พร้อมเสริมทัพนักแสดงด้วย สตีเฟ่น อเมล, ไทเลอร์ เพอร์รี่, ลอร่า ลินนี่, เชมัส และแกรี่ แอนโธนี วิลเลี่ยมส์ พบกับลีโอนาร์โด, ราฟาเอล, โดนาเทลโล และไมกี้ ที่จะมาพิทักษ์โลกจากเชร็ดเดอร์ ศัตรูตัวฉกาจ ซึ่งภาคนี้ จะกลับมาพร้อมลูกสมุนอย่างบีบ็อบและร็อคสเตดี้

สำหรับคนที่ไม่เคยดูภาคแรกมาก่อนก็ไม่ต้องตกใจ รีวิวหนังฝรั่ง Teenage Mutant Ninja Turtles 2

รีวิวหนังฝรั่ง Teenage Mutant Ninja Turtles 2

เพราะว่าภาคนี้เขาแค่เอาตัวละครหลักในภาคที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น 4 เต่านินจา ราฟาเอล ไมเคิลแองเจลโล ลิโอนาร์โด ดอนนาเทลโล นางเอก และตัวร้ายมาใส่โดยไม่ได้อ้างอิงหรือเน้นปมในภาคที่แล้วมากมายจนทำให้มึนงง แม้คุณไม่เคยดูภาคก่อนหน้า แต่ก็สนุกไปกับมันได้ โดยเนื้อเรื่องจะเริ่มที่การแหกคุกของ Shredder ตัวร้ายหลักจากภาคก่อน โดยภาคนี้พี่แกมีแผนจะสร้างอาวุธจากสารสีม่วงที่สามารถเปลี่ยนคนให้เป็นสัตว์ได้ เพื่อสร้างกองทัพยึดครองนิวยอร์ก แต่ว่าพี่แกดันเจอกับเอเลี่ยนที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี ชื่อว่า Krang (อ่านว่าแครง คล้ายครองแครง) พอดีก็เลย เอ้อ! ชวนกันมาวางแผนยึดครองโลกซะเลยนี่

แต่พวกพี่แกต้องทำประตูมิติเพื่อเปิดให้อาวุธทำลายล้างจากนอกโลกเข้ามาในโลกได้ ก็เลยต้องไปตามล่าหาชิ้นส่วนประตูมิติที่ร่วงอยู่ตามจุดต่างๆของโลก พวกแก๊งฮีโร่เต่านินจาก็ไม่นิ่งดูดาย ออกมาพิทักษ์เมืองที่ตนเองให้สัตย์ว่าจะปกป้องจนสุดความสามารถ กลายเป็นการไล่ล่าวินาศสันตะโรข้ามน้ำข้ามทะเลที่ดูเพลินๆ สนุกๆ เบาสมอง เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี

พอหนังภาคแรกอย่าง ‘Teenage Mutant Ninja Turtles’ ประสบความสำเร็จ กวาดรายได้จากทั่วโลกมากกว่า 490 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็เป็นที่แน่นอนว่าค่ายหนังต้องผลักดันภาคต่อให้เกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน ยังคงเป็น Michael Bay ที่นั่งเก้าอี้โปรดิวเซอร์ โดยเปลี่ยนมือผู้กำกับมาเป็น Dave Green แห่ง ‘Earth to Echo’

พอดีผมได้ดูหนังเรื่องนี้ในระบบ IMAX 3 มิติ ทำให้ได้สัมผัสกับอรรถรสของหนังแอ็คชั่นบนจอใหญ่ๆ เสียงดีๆ ที่ได้ออกมาเต็มเปี่ยมตามคุณภาพของโรงหนังประเภทนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำได้ชัดเจนมากคือการสร้างภาพ 3 มิติที่ชัดและพุ่งอย่างชัดเจน ด้วยการดีไซน์ฉากและมุมมองกล้องที่รับกับการฉายในแบบ 3 มิติแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากการไล่ล่าบนถนนหรือในอุโมงค์ รวมถึงฉากของการต่อสู้ในอากาศ การหมุนวนกล้องรอบตัวนักแสดง หรือการปาของใส่หน้าคนดู หนังมีเสิร์ฟให้อย่างเต็มกำลังเพื่อการรับชมในแบบ 3 มิติ คอหนังแอ็คชั่นจึงน่าจะลองมาสัมผัสแบบ IMAX 3 มิติดูสักครั้ง

จุดดึงดูดในภาคนี้คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากดาราดังที่ขนกันมาอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

รีวิวหนังฝรั่ง Teenage Mutant Ninja Turtles 2

Megan Fox เธอได้กลับมาปลดปล่อยความเซ็กซี่อีกครั้ง เล่นเอาหนุ่มทั้งหลายหลงใหลล้มคว่ำกันไปตามๆกัน แม้ว่าตัวละครของเธอในเรื่องจะไม่มีการพัฒนาสักเท่าไหร่ก็ตาม อีกคนก็คือ Stephen Amell พ่อหนุ่มฮ็อตจากซีรี่ส์ Arrow ที่เพิ่งเข้ามาร่วมจอยก๊วนฮีโร่ในเรื่องนี้ ซึ่งสร้างสีสันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่บทไม่ค่อยปล่อยของเท่าไหร่ คงต้องดูกันภาคต่อไป

และที่ขาดไม่ได้คือเหล่าเต่านินจาที่ค่อนข้างมีบทบาทที่เท่าๆกัน จนเรารู้สึกว่าไม่มีตัวไหนที่ถูกทิ้งเลย ก็จะมีเจ้าไมเคิลแองเจโลที่เป็นตัวเด่นคอยปล่อยมุกให้ขำเป็นระยะๆ แต่บางทีก็รำคาญนะ มันจะเก็บทุกเม็ดอะไรขนาดนั้น โดยรวมค่อนข้างพอใจกับการสร้างคาแรคเตอร์ของทั้ง 4 ตัว ไม่ต้องสร้างให้แน่นมาก แต่รู้สึกจับต้องได้ แค่นั้นพอ

ถ้าจะมองหนังหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เกลื่อนเมืองอยู่ตอนนี้นั้นมีเหล่าอะเวนเจอร์สเป็นหัวหอก นำความบันเทิงในรูปแบบที่ค่อนข้างจริงจังแต่ก็เน้นเสิร์ฟใส่ความบันเทิงให้กับคนดูอยู่ไม่น้อย กับหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟากฝั่งดีซี ก็ดูจะจริงจังหนักแน่นเน้นความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเต่านินจา ก็คงจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เน้นความบันเทิงแบบเสพง่าย ดูง่าย เข้าใจง่าย ตัวละครหลักดูมีความขี้เล่น มีความเป็นเด็กในตัวอยู่ไม่น้อย

ในเรื่องเทคนิคก็คงไม่ต้องห่วง

เพราะซีจีทำออกมาได้เนียนตาอยู่แล้ว ผสมผสานกับการออกแบบฉาก ตัดต่อและเดินมุมกล้องที่เร้าใจ คงทำให้หลายคนเข้าไปดูหนังและละวางความเป็นสูตรของหนังไปเพื่อเสพความสนุกนั้นอย่างเต็มที่ หนังใช้เทคนิคที่ได้ผลเสมอในการสร้างความบันเทิงในฉากบู๊ลุ้นแบบมันๆ เช่นการสร้างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นควบคู่กันไป หรือการปล่อยให้คนดูได้ลุ้นกับความเร็ว หายนะของรถราสิ่งก่อสร้างและการเอาตัวรอดของตัวละคร

ต้องชมเลยว่าเทคนิคด้านภาพในภาคนี้ดีกว่าในภาคแรกนะ ไม่ว่าจะมุมกล้องที่ดูดีไม่ไก่กาสมกับเป็นหนังระดับฮอลลีวูด บวกกับ CG ที่สวยงามมีมิติ และดูเนียนสมจริงมากกว่า แม้ว่าความเนียนของมันจะทำให้เราได้เห็นสิว ฝ้า กระของเต่าแบบชัดเจนขึ้นมาก็ตาม ซึ่งไม่รู้ว่าจะเรียกเป็นข้อดีดีมั้ย ฉากแอคชั่นมันส์และสร้างสรรค์ดี มีโปรดิวเซอร์เป็น Michael Bay ก็คงไม่ปล่อยให้ง่อยแน่นอน เราจะได้เห็นฉากเหวอๆอยู่บ่อยมากด้วยความที่มันเป็นหนังฮีโร่แฟนตาซีที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ และอะไรก็ระเบิดได้ทั้งนั้น อย่างเช่นฉากต่อยกันบนเครื่องบินที่ขาดครึ่ง หรือฉากสู้กับบอสใหญ่บนยานที่รูปร่างคล้าย Death Star ใน Star Wars

ก็ล้วนน่าประทับใจทั้งสิ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะการตัดต่อที่โอเค ทำให้ฉากแอ็คชั่นดูเผ็ดมันส์ เนื้อเรื่องไม่ลากยาวและมีความต่อเนื่อง ไม่ทำให้เราเบื่อเลยแม้แต่น้อย ถ้าเป็นภาคที่แล้วก็ได้แต่นั่งถอนหายใจพร้อมอุทาน “เห้อ” ออกมาดังๆ แต่ก็ใช่ว่าบทจะดีขึ้นนะ บทภาคนี้ก็ยังคงสิ้นคิด และไร้ความสดใหม่ดังเช่นภาคที่แล้วนั่นแหละ แต่ระดับการยอมรับก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ทุเรศทุรังต่ำตมกระฎุมพี เพราะมันก็มีข้อคิดต่างๆแฝงไว้ตลอดเรื่อง ซึ่งสามารถสะท้อนถึงทัศนคติในสังคมปัจจุบันในเรื่องของการยอมรับความแตกต่างทางเชื้อชาติที่แม้ว่าเรามีความแตกต่างกัน แต่พวกเราก็สามารถจะอยู่ร่วมกันฉันมิตรได้ ดั่งเช่น เหล่าเต่านินจากับมนุษย์ นั้นแล หรือจะเป็นความสามัคคีกลมเกลียวกันในหมู่คณะที่ทุกหมู่เหล่าพึงจะมี เหมือนเป็นหนังสอนเด็กให้รู้จักกับสิ่งเหล่านี้ และย้ำเตือนผู้ใหญ่ให้ตะหนักยั้งคิดไปในตัว

เนื้อเรื่องของ รีวิวหนังฝรั่ง Teenage Mutant Ninja Turtles 2

ก็ดำเนินไปในแนวฮีโร่ในเงามืดที่คอยซุ่ม ช่วยพิทักษ์โลกจากแก๊งโจรและเหล่าร้าย แต่เนื่องจากรูปลักษณ์ที่เป็นเต่านินจา ที่ไม่เหมือนผู้เหมือนคน ทำให้หลายๆ คนตั้งข้อรังเกียจหรือกลัวพวกเขา   พวกเต่านินจาบางตัว เลยเกิดน้อยใจและอยากจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนซะให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ท้ายสุดพวกเขาก็ได้ค้นพบว่า การเป็นตัวของตัวเอง (จริงๆ ต้องพูดว่า การเป็นตัวของเต่าเอง 55) นั้นดีที่สุด เพราะสามารถทำอะไรหลายๆ อย่างที่คนอื่นๆ เขาทำไม่ได้

ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ คือ ข้อคิดที่คนดูได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการร่วมมือกันทำงาน การแบ่งงานกันทำ การเป็นผู้นำที่มีหน้าที่หลอมรวมและดึงเอาความสามารถอันแตกต่างของแต่ละคนในทีม ให้มาร่วมกันทำงานอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  อีกข้อคิดที่ผมชอบมากคือ หนังเรื่องนี้สอนให้เราชื่นชมในตัวเอง หากเราไม่สามารถมองเห็นข้อดีในตัวเรา หากเรายังอยากแสดงตนให้คนอื่นได้เห็นและยอมรับ  บางครั้งอาจทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวตนรวมทั้งจุดแข็งที่เรามีไปด้วย  เราอาจจะมีข้อดีที่คนอื่นๆ หลายคนไม่มี และเขาอาจจะกำลังอยากเป็นแบบเราอยู่ก็ได้  ดังนั้นจงภูมิใจในความเป็นเต่าเอ๊ยเป็นตัวของเรา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *