รีวิว สายพันธุ์มฤตยู

หนังเรื่อง “Life สายพันธุ์มฤตยู” เป็นหนังที่ถ้าตัดสินแค่จากตัวอย่างหนัง บอกได้เลยว่ามันเป็นหนังที่โคตรน่าดูมาก ๆ ครับ เพราะว่ามันเป็นหนังสยองขวัญเอเลี่ยนนอกอวกาศ ซึ่งการหนีเป็นเพียงตัวเลือกเดียว และเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่พวกเขาจะรอดพ้นจากภัยร้ายในครั้งนี้ สุดท้ายแล้วถ้าอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป เราไปดูรีวิวกันเลย เว็บหนัง

 

เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งบนอวกาศในสถานียานอวกาศ ISS ที่กำลังนำสิ่งมีชีวิตจากพื้นผิวบนดาวอังคารมาวิเคราะห์ หลังจากที่พวกเขาได้ปลุกสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวนี้ให้ตื่นขึ้นมา โดยใช้ไฟฟ้ากระตุ้นจนมันมีชีวิต แต่พวกเขากลับไม่รู้เลยว่ากำลังนำหายนะมาสู่ตัวเอง เรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไรเชิญทุกท่านรับชมภาพยนตร์เรื่องเต็มได้เลย

 

สำหรับผมหลังจากดูหนังเรื่องนี้จบผมคิดว่า เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งเลยนะครับ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเหนือความคาดหมายมากในหนังแนวของเอเลี่ยนแบบนี้ครับ และต่อมาหนังเริ่มสร้างความกดดันให้กับผู้ชมโดยการค่อย ๆ ไล่ระดับ

 

ความลุ้นระทึกจากน้อยค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนลุ้นหนักในช่วงท้าย และสร้างความน่าสะพรึงกลัวให้กับผู้ชมให้ขวัญผวากันไม่มากก็น้อยเลยครับ ซึ่งหนังเรื่องนี้ยังแปลกตรงที่เป็นหนังแนวเอเลี่ยน แต่ไม่มีการไล่ยิงไม่มีการไล่ล่าแต่อย่างใดเหมือนหนังเรื่องอื่น ๆ

 

รีวิว สายพันธุ์มฤตยู

 

โดยหนังเรื่องนี้จะเน้นดำเนินเรื่องราวแบบการแก้ปัญหาเป็นจุด ๆ กับสิ่งที่เอเลี่ยนได้ทำไว้ และด้วยมีการพลิกแพลงของเนื้อหา สร้างอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ หนังจึงมีความน่าสนใจมากจริง ๆ ครับ เพราะนอกจากความฉลาดของเอเลี่ยนต่างดาวแล้ว มันยังมี

 

ความโหดร้ายไร้ความปรานี มันยิ่งทำให้หนังนี้มีความตื่นเต้น ระทึกขวัญมากขึ้นไปอีกครับ ด้านภาพและฉาก โดยภาพในยานอวกาศกับนอกยานทำออกมาได้สวยมาก ๆ สมจริงเหมือนอยู่บนยานอวกาศยังไงยังงั้นเลยครับ และตัวหนังยังมีการดำเนิน เรื่องที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนอะไรมากมาย มีที่มาที่ไปทำให้เรารู้สึกว่าหนังก็ยังคิดจะออกแบบให้มีความตื่นเต้นในแต่ละฉากออกมาได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว เว็บดูหนัง

 

หนังเรื่อง “Life สายพันธุ์มฤตยู” เป็นหนังที่มีพล็อตเรื่องธรรมดา และไม่ได้เป็นหนังเอเลี่ยนที่มีความแปลกใหม่อะไร แต่อย่างน้อยมันก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งหนังยังมีอะไรให้ผู้ชมได้ชวนคิดติดตามตลอดเวลาว่าสรุปแล้วเรื่องราวจะเดินมาในทิศทางไหนกันแน่ แต่หนังก็ไม่ได้มีแค่ข้อดีนะครับ ยังมีข้อด้อยอยู่บ้างในเรื่องของการปูพื้นฐานตัวละครในช่วงแรก ๆ ที่จะนำเสนอออกมา

 

ถ้าถามถึงผลงานของ Daniel Espinosa ผู้กำกับฯ ชาวสวีดิชคนนี้มีงานในวงการฮอลลีวูดไม่มากนัก มีเพียง ‘Safe House’ (2012) และ ‘Child 44’ (2015) ก่อนหน้านั้นก็เป็นงานในแถบบ้านเกิดเสียมากกว่า งานส่วนใหญ่ของเขาก็มักจะเป็นหนังแนวอาชญากรรม แต่เขาก็ได้รับโอกาสมาสร้าง ‘Life’ หนังไซไฟอวกาศที่มีดาราฮอลลีวูดชื่อดังร่วมแสดง

 

รีวิว สายพันธุ์มฤตยู

 

ภาพจากตัวอย่างแสดงให้เห็นภายในของสถานีอวกาศนานาชาติที่ถูกจำลองมาได้เหมือนของจริง การเคลื่อนของนักแสดงที่เหมือนอยู่ในอวกาศจริง แต่ที่นั่นไม่ได้ทำการทดลองอะไรที่เราพอจะรู้ๆ กันอยู่ ทว่ากลับกลายเป็นการทดลองเพาะพันธุ์สิ่งมีชิวิตดาวอังคาร ก่อนที่มันจะเลยเถิดจนกลายเป็นความยุ่งเหยิง

 

มนุษย์อวกาศกลุ่มหนึ่งในสถานีอวกาศที่ประกอบไปด้วย เดวิด จอร์แดน (Jake Gyllenhaal)​ นักบินสุดหล่อที่อยู่ในอวกาศมานานที่สุด เขาคือคนบอกว่าเบื่อมนุษย์โลกจนไม่อยากจะกลับไป มิแรนด้า นอร์ธ​ (Rebecca Ferguson) หมอสาวสวยที่คอยควมคุมกักกันโรค รอย อดัมส์ (Ryan Reynolds) ช่างประจำสถานีที่ต้องคอยซ่อมให้ทุกอย่างใช้งานได้ เว็บดูหนังฟรี

 

นอกจากนี้ก็ยังจะมี ฮิวจ์ เดอร์รี่ (Ariyon Bakare) หนุ่มผิวดำที่ขาพิการลีบเล็ก เขาคนนี้คือคนที่จะไปทำการทดลองกับเจ้าสิ่งมีชีวิตจากดาวอังคาร อ่อ ยังมีอีกคน โช (Hiroyuki Sanada) หนุ่มญี่ปุ่นที่คอยดูแลปฏิบัติงานบนยาน

 

รีวิว สายพันธุ์มฤตยู

 

ทั้งหมดรับเอาดินตัวอย่างจากโครงการพิลกริมที่เก็บมาได้จากการลงสำรวจดาวอังคาร การทดลองที่ทำกันบนสถานีเพื่อไม่ให้อะไรร้ายแรงตกลงไปถึงพื้นผิวโลก แต่ก่อนที่เขาจะรู้ว่ามันคือสิ่งมีชีวิตที่รอดจากการจำศีลยาวนานนั้นโคตรอันตราย พวกเขาก็ไม่มีอันได้คิดอย่างอื่น นอกจากหนีตายและกำจัดมันให้ได้โดยเร็ว พล็อตของการมีเอเลี่ยนปรากฏตัวอยู่ในสถานที่ปิดและมีมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่ต้องเอาตัวรอดของจากเอเลี่ยนผู้ร้ายกาจกว่านั้นมันไม่ได้เป็นสิ่งแปลกใหม่แต่อย่างใดเลย

 

ในอีกด้าน โลเกชั่นของสถานีอวกาศ มันก็คือยานลำนึงที่ลอยอยู่เหนือบรรยากาศโลก ทุกสิ่งอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก การออกไปข้างนอกสถานี นั่นหมายถึงการต้องสวมชุดอากาศเพื่อป้องกันทั้งสภาพไร้อากาศและความร้อนที่ร่างกายมนุษย์ไม่อาจทนทานได้ ทั้งสองอย่างเราเคยพบพานมาหมดแล้วทั้งนั้น ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็คือ เราพบมาแล้วใน ‘Alien’ และ ‘Gravity’ และหันมาให้สนใจกับสิ่งอื่นที่เหลือในหนังเรื่องนี้กันต่อ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ การดำเนินเรื่องที่สร้างสถานการณ์ชวนไม่ไว้วางใจและพาไปสู่ช่วงเวลาลุ้นระทึกได้ตลอดเวลาของหนัง

 

ด้วยการค่อยๆ ไต่ระดับความลุ้นระทึกจากน้อย ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนลุ้นหนักในช่วงท้าย จากเริ่มแรกที่เรายังเห็นมันเป็นแค่สิ่งมีชิวิตเซลล์เดียวที่แทบจะทำอะไรไม่ได้ จนเติบโตถึงขึ้นสร้างความน่าสะพรึงให้กับเหล่ามนุษย์อวกาศและผู้ชมให้ขวัญผวาที่เหลือคือผู้ชมต้องนั่งลุ้นกันไปสิว่า พวกเขาจะเอาตัวรอดหนีตายจากเอเลี่ยนตัวฉกาจนั่นได้อย่างไร จะรอดกันมั้ย แล้วใครคนไหนที่จะไปก่อน เท่านั้นไม่พอ หนทางรอดอย่างเดียวก็คือการตามล่าและฆ่าเอเลี่ยนนี่ให้ตาย ซึ่งมันไม่ได้ง่ายดายเลย

 

 

โดยเฉพาะการอยู่บนสถานีอวกาศที่ลอยอยู่เหนือบรรยากาศโลกเยี่ยงนั้น โปสเตอร์หนังไซไฟอวกาศ ‘สายพันธุ์มฤตยู’ ยอมรับเลยว่า ระหว่างการดู ‘สายพันธุ์มฤตยู’ นั้น หัวใจก็เต้นระรัวว่าพวกเขาจะเอาตัวรอดกันยังไง สภาพบนนั้นถ้าเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นมา โอกาสไม่รอดจะสูงมาก

 

เมื่อหนังมีความเป็นไซไฟอย่างไม่อาจสลัดหลุดได้แน่ ตัวละครจึงต้องพูดคุยกันในสิ่งที่เป็นศัพท์เฉพาะ ซับไตเติลจึงเป็นปัญหาในการทำความเข้าใจเรื่องพอสมควร เพราะศัพท์แสงมันต้องคิดสองชั้นสามชั้น เพื่อจะเข้าใจว่าทำไมตัวละครจึงเลือกตัดสินใจทำแบบนั้นแบบนี้

 

ด้วยการออกแบบเอเลี่ยนจากดาวอังคารให้ค่อยๆ เทพขึ้นเรื่อย ๆ แข็งแรง ดุ และฉลาดเอาเรื่อง หนทางการเอาตัวรอดพร้อมกำจัดมันจึงเป็นอะไรที่ลุ้นระทึกกันสุดๆ หลังแทบไม่ติดเบาะ นิ้วแทบจะจิกเบาะ มืออาจจะเผลอจับคนข้างๆ อยู่ก็เป็นไปได้ผู้กำกับฯ​ และทีมงานเข้าใจจุดที่ทำให้คนลุ้นความเป็นความตายได้ดีทีเดียว แม้จะรู้สึกว่ามันดูเวอร์ ๆ ไปบ้างที่เอเลี่ยนตัวเดียวนี้ช่างแสนอึดและแทบไร้จุดอ่อนจนดูไม่น่าที่มนุษย์จะต่อกรอะไรได้เลยด้วยซ้ำ เว็บหนังฟรี

 

จุดเด่นและจุดด้อยของหนังเรื่องนี้ รีวิว สายพันธุ์มฤตยู

สำหรับจุดเด่น หนังสยองขวัญ Life สายพันธุ์มฤตยู เต็มไปด้วยฉากการสังหารที่น่าสะพรึงกลัว เมื่อบวกกับพลังของเหล่านักแสดงทั้ง 6 คน ที่สามารถแสดงความกลัวออกมาให้เห็นอย่างเหมาะสม กลับยิ่งทำให้หนังเรื่องเต็มไปด้วยน่าตื่นเต้น และสิ่งที่ชวนให้สงสัยหลายประการ

 

ในส่วนของการดำเนินเรื่องราว หนังสยองขวัญ Life สายพันธุ์มฤตยูสามารถเล่าเรื่องและร้อยเรียงเหตุการณ์ให้ผู้ชมเห็นด้วยความรวดเร็ว ตื่นเต้นและระทึกใจ ที่สำคัญคือการออกแบบของสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ห่างไกลจากมนุษย์ เป็นสิ่งที่สร้างความแปลก ใหม่ให้หลุดพ้นจากความซ้ำซากจำเจ อย่างที่หนังดังอย่างเอเลี่ยน ได้ปลูกฝังความคิดเรื่องลักษณะภายนอกของมนุษย์ต่างดาวเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

 

 

สัตว์ประหลาดในหนังสยองขวัญ Life สายพันธุ์มฤตยู เองก็ทำออกมาได้ดีมาก มันแข็งแกร่ง เฉลียวฉลาดและสามารถอยู่รอดได้ท่ามกลางสถานการณ์อันเลวร้ายที่สุดอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มขีดจำกัดในด้านของจินตนาการของคนดูได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

 

จุดด้อยของหนังสยองขวัญ Life สายพันธุ์มฤตยู คือ เนื้อเรื่องย่อและคลิปตัวอย่างที่แทบจะสปอยสิ่งสำคัญทั้งหมดในเรื่องไปจนหมด ส่งผลให้เนื้อหาของหนังเดาได้ค่อนข้างง่ายดาย แถมยังเต็มไปด้วยฉากที่รุนแรงอย่างมากจนอาจทำให้คนที่ไม่ได้ปลื้ม! เลือดมากเป็นพิเศษอาจรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวนัก

 

 

สำหรับผู้เขียน ถึงแม้ว่าโครงเรื่องของหนังสยองขวัญ Life สายพันธุ์มฤตยูจะสามารถเดาได้ง่ายไปสักหน่อย แต่โดยรวมแล้วมันก็ยัง “สนุก” อยู่ดี โดยเฉพาะในส่วนของการแสดงที่ได้ดารามากฝีมือมารวมทีมกันทำให้การแสดงทำออกมาได้สมจริงเป็นอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตาม หนังสยองขวัญ Life สายพันธุ์มฤตยู ไม่เหมาะกับคนที่อยู่ในห้วงอารมณ์ไม่ปกติหรือจิตตกนัก เพราะหนังเรื่องนี้อาจจะมอบ “ความสิ้นหวัง” อย่างรุนแรงให้กับผู้ชม ดังนั้น ถ้าหากใครกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์ที่ไม่อยากเสพผลงานสยองขวัญที่ค่อนข้างตึงเครียด ขอแนะนำให้เก็บหนังสยองขวัญ Life สายพันธุ์มฤตยู เอาไว้ดูในภายหลังจะดีกว่า..

 

 

ประวัตินักแสดง รีวิว สายพันธุ์มฤตยู

เจค จิลเลนฮาล เป็นหนึ่งในนักแสดงฮอลลีวูดแถวหน้าที่มักมีภาพลักษณ์ว่าเป็นพระรองที่หลายคนชื่นชม ตั้งแต่การเป็นน้องชายของนักแสดงสาว แม็กกี้ จิลเลนฮาล การรับบทเป็นคู่รักของฮีธ เลดเจอร์ ในภาพยนตร์ Brokeback Mountain (2005) หรือการโดนเทย์เลอร์ สวิฟต์ เทเหมือนผู้ชายอีกหลายคน

 

ถึงจะมีชื่อเสียง แต่เจคเองก็แทบไม่มีหนังที่ได้รับบทหลักเป็นตัวดำเนินเรื่อง และประสบความสำเร็จทั้งด้านคำวิจารณ์และตัวเงินเหมือนอย่างที่แบรด พิตต์ หรือลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ทำได้ แต่กับหนังเรื่อง Stronger เราคิดว่าเจคกำลังจะก้าวสู่สมรภูมิการเป็นนักแสดงนำอย่างเต็มตัว และเขาจะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหนังฮอลลีวูดต่อไป

 

 

เจค จิลเลนฮาล หรือชื่อเต็มว่า เจค็อบ เบนจามิน จิลเลนฮาล เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 1980 ที่เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ครอบครัวของเขาคลุกคลีอยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ คุณแม่นาโอมิ โฟเนอร์ เป็นคนเขียนบทและโปรดิวเซอร์

 

หนัง เช่น Running on Empty (1988) ที่ริเวอร์ ฟีนิกซ์ นำแสดง และเธอยังได้เข้าชิงออสการ์สาขา Best Original Screenplay จากเรื่องนี้อีกด้วย ส่วนคุณพ่อสตีเฟน จิลเลนฮาล ก็เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ทางทีวีและเคยกำกับซีรีส์สุดคลาสสิกอย่าง Twin Peaks อีกด้วย

 

 

แม้ว่าเจคจะเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดี ไม่ต้องลำบาก และเต็มไปด้วยอิสระทางความคิด แต่เขาและพี่สาวก็ถูกสั่งสอนให้ติดดิน ช่วยเหลือคนอื่น และสร้างความสำเร็จด้วยมือของตัวเอง ซึ่งเจคเองก็เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดช่วยเหลือคนจมน้ำ ผู้ช่วยในร้านอาหาร และยังเคยไปช่วยคนยากจนในสถานสงเคราะห์ตอนอายุ 13 ในช่วงที่พ่อแม่เขาอยากให้เรียนรู้ว่าความลำบากและไม่มีกินมีใช้เป็นอย่างไร รีวิวหนัง

 

เพราะความเป็นศิลปินในสายเลือด เจคได้ตัดสินใจทำงานในอุตสาหกรรมบันเทิงในฐานะนักแสดง ซึ่งหนังเรื่องแรกที่เจคแสดงคือภาพยนตร์คอเมดี้เรื่อง City Slickers (1991) ของผู้กำกับ รอน อันเดอร์วูด และผลงานสร้างชื่อคือหนังไซไฟเรื่อง DonnieDarko (2001) ที่เขาได้รับบทนำร่วมกับพี่สาว แม็กกี้ จิลเลนฮาล และดรูว์ แบร์รีมอร์ ดาราสาวชื่อดังในยุคนั้น ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะไม่ทำเงินที่บ็อกซ์ออฟฟิศ แต่ก็กวาดคำวิจารณ์แง่บวกและกลายเป็นหนังคัลต์สุดคลาสสิก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *