รีวิวหนังฝรั่ง Gemini Man
รีวิวหนังฝรั่ง Gemini Man สิ่งแรกที่เราต้องพูดถึงคือการเดินทางของโพรเจกต์ GEMINI MAN ตั้งแต่ปี 1997 มาสู่ 2019 จากโพรเจกต์ในเครือดิสนีย์ที่เกือบได้ดาราดัง ๆ มารับบทนำ จนกระทั่งโพรเจกต์หลุดมาสู่ สกายแดนซ์ ในปี 2016 ได้ส่งผลให้ระยะเวลา 20 กว่าปีดังกล่าวมีหนังไซไฟพลอตคล้าย ๆ กันออกฉายทั้งหนังแอ็กชันเกรดบีอย่าง Replicant ที่เอา ฌอง คลอดด์ แวน แดมม์ 2 คนมาซัดกัน ไปจนถึงหนัง ซูเปอร์ฮีโรอย่าง Logan ที่มีวูล์ฟเวอรีนวัยหนุ่มกับวัยแก่มาซัดกัน เว็บดูหนัง
ยิ่งไปกว่านั้นบทภาพยนตร์ที่ว่าด้วยการตามล่าตัวเองนั้น ถูกเล่าเรื่องราวได้อย่างราบเรียบ ใกล้เคียงกับคำว่า น่าเบื่อ ชวนง่วงหงาวหาวนอน กว่าที่ฉากแอ็คชั่นที่ตัวเอกสองช่วงอายุจะมาปะทะกัน หนังก็ผ่านเลยไปถึง 40 กว่านาทีแล้ว แถมช่วงเวลาก่อนหน้านั้น หนังก็ยัดทะนานไปด้วยบทสนทนาที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับเรื่องราวในภาพรวมนัก
ทันทีที่หนังเริ่มเผยรายละเอียดเกี่ยวกับจูเนียร์ ร่างวัยเด็กของเฮนรี่ โบรแกน (วิล สมิธ) ว่าเขาคือร่างโคลนนิ่ง ที่เคลย์ (ไคลฟ์ โอเว่น) พ่อเลี้ยง สร้างเขาขึ้นมา เราก็แทบจะหมดความสนใจในตัวหนัง เนื่องจากมันแทบไม่มีลูกล่อลูกชนอะไรให้เรารู้สึกว่า Gemini Man มีอะไรแปลกใหม่ที่หยิบเอาประเด็นทางวิทยาศาสตร์ที่ว่าเรื่องโคลนนิ่งมานำเสนอให้กับผู้ชมในยุคนี้เลยสักนิดเดียว
เมื่อเรามองทะลุความเชยนานับประการของหนัง ชื่อหนึ่งที่เราต้องยอมรับว่าเป็นดาราที่ฆ่าไม่ตายจริง ๆ คือ วิล สมิธ อ่ะ..หรือว่าจะเถียง เพราะต่อให้คุณดูหนังเขาไม่ครบทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยหนังแต่ละเรื่องไม่ว่าดีหรือแย่ก็ต้องเคยได้ยินชื่อ และเราต้องยอมรับว่า วิล สมิธ เป็นอีกหนึ่งชื่อสามัญสำหรับคอหนังบู๊จริง ๆ ไล่มาตั้งแต่ Bad Boys , ID4. I-Robot หรือจะเป็น I AM LEGEND อยู่ได้แทบทุกยุคสมัย เป็นชื่อแรก ๆ เวลานึกถึงดารานักบู๊ผิวสี และยิ่งมาอยู่ใน GEMINI MAN ต่อให้บทจะออกมาง่อยแค่ไหนแต่การได้เห็น วิล สมิธ กลับมาจับปืนบู๊ระห่ำ แถมยังบู๊กับตัวเองอีกแหนะ! แค่นี้คอหนังแอ็กชันก็น่าจะสะใจที่สุดแล้ว แต่ที่องค์ประกอบสำคัญที่สุดที่ส่งให้วิลโดดเด่นก็น่าจะเป็นฉากแอ็กชันที่ดีไซน์มาเป็นอย่างดีนี่แหละ
ในยุคสมัยที่หนังเกี่ยวกับการโคลนนิ่งมีให้ดูกันแทบชินตา Gemini Man คือหนังที่เชย ตกยุค และปราศจากความบันเทิง อีกทั้งแง่มุมที่พยายามชี้ชวนให้คนดูขบคิด ที่ว่าด้วยการที่มนุษย์เราจะทำอะไรถ้าหากมีโอกาสได้บอกตัวเองในอดีต ตัวละครอย่างเฮนรี่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการที่เขาจะบอกให้จูเนียร์เติบโตขึ้นมาด้วยความเป็นตัวเองและเลือกทำในสิ่งที่ชอบ ซึ่งนอกจากจะไม่กินใจ ซ้ำซาก ยังฟังดูเป็นบทที่เขียนมาเพื่อยัดใส่ปากตัวละครแบบทื่อๆด้วยซ้ำไป
ท้ายที่สุดแล้วเรายิ่งไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำไปว่านี่จะเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ของ “อังลี่” ที่สั่งสมการทำหนังดราม่าคุณภาพมาแล้วหลายเรื่องอาทิ The Wedding Banquet, Eat Drink Man Woman, Sense and Sensibility, Brokeback Mountain กระทั่ง Life of Pi จนเรามองว่า Gemini Man น่าจะเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดเท่าที่เราเคยดูการกำกับของผู้กำกับท่านนี้ เว็บดูหนังฟรี
Gemini Man เป็นหนังแอ็คชั่นที่แม้ว่าจะไม่ได้ระเบิดตูมตามกันบ่อยนัก แต่ก็มีฉากแอ็คชั่นที่แน่น แข็งแรง และดูสนุก ฉากยิงกันดูรุนแรงสะใจแม้ว่าจะเป็นเรต PG-13 (ยิงแล้วไม่เห็นเลือด) ฉากเตะต่อยที่สวยงามและเห็นการเตะต่อยชัดเจนเหมือนหนังจีน และการออกแบบแอ็คชั่นที่แม้ว่าจะไม่ได้ตัดต่อกันแบบหวือหวาโฉ่งฉ่างมากนัก แต่งานภาพที่สวยและการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆบนภาพ อย่างการเคลื่อนไหวเล็กๆของตัวละครก็ทำให้ฉากแอ็คชั่นออกมาดูสวยเท่ใช้ได้ทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อวิล สมิธสองคนต้องสู้กัน และอดทำให้นึกถึงหนังแอ็คชั่นยุค90ที่ผสมระหว่างความจริงจังและหลุดโลกอยู่พอสมควร (ตัวอย่างที่พอนึกออกก็น่าจะเป็น6th Day ของอารฺโนลด์ ชวาซเซนเนกเกอร์ที่อาร์โนลด์รับบทเป็นร่างโคลนนิ่งเหมือนกัน)
แต่อย่างที่บอก Gemini Man นั้นไม่ได้เน้นแอ็คชั่นมากอย่างที่คิด มีฉากแอ็คชั่นใหญ่ๆจริงๆแค่สองสามฉากเท่านั้น มันใช้เวลาเล่าเรื่องสำรวจจิตใจของเฮนรี่ ถึงความต้องการเกษียณจากการเป็นทหารลอบสังหารคนของเขา ความกลัวในจิตใจ และการที่เขาถูกไล่ล่าจากโคลนนิ่งของเขา ก็ดูราวกับว่าเขากำลังโดนเวรกรรมไล่ตามทันอยู่ จากผู้ล่ากลายเป็นคนที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนจากตัวเองในอดีตเสียเอง ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามล้างบาป ชดใช้ความผิดของตัวเองด้วยการช่วยร่างโคลนของตัวเอง ไม่ให้ต้องมามือเปื้อนเลือดแบบที่เขาเป็นด้วย
ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจเหมือนกัน แต่เสียดายที่ปมบางอย่างในอดีต (อย่างการกลัวจมน้ำ) ของเฮนรี่กลับถูกเอามาเล่นไม่สุดนัก ส่วนร่างโคลนของเฮนรี่ก็มีประเด็นที่น่าสนใจ อยู่เหมือนกันว่าด้วความไม่มั่นใจในตัวตนของเขา ว่าตกลงแล้วจุดประสงค์ในการมีชีวิตของเขาคืออะไรกันแน่ น่าเสียดายที่ประเด็นเรื่องศีลธรรมกับการโคลนนิ่งซึ่งเป็นสิ่งที่เลี่ยงที่จะพูดถึงไมได้ในหนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการโคลนนิ่งนั้น กลับไม่ได้ถูกขยี้มากนัก แม้ว่าไอเดียเบื้องหลังการโคลนนิ่งจะน่าสนใจและดู”ฟังขึ้น” แต่มันก็ต้องมาแย่งที่กับปมในอดีตของเฮนรี่ที่ถูกเล่าควบคู่กันจนไม่ได้ถูกเน้นให้เด่นอย่างที่ควรจะเป็น
รีวิวหนังฝรั่ง Gemini Man
สิ่งที่ไม่พูดถึงไมได้เลยคือซีจีใบหน้าของวิล สมิธในวัยหนุ่มที่ทำออกมาได้แนบเนียนมากๆ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างรอยย่นบนใบหน้าหรือการแสดงอารมณ์ที่หนักหน่วงซับซ้อน (ซึ่งวิล สมิธทำแสดงได้ดีมากๆ โดยเฉพาะตอนเป็นร่างโคลน) ก็ทำออกมาได้สมจริงไร้ที่ติจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นซีจี เหมือนกับเอาวิล สมิธมาแค่โกนหนวดแล้วเปลี่ยนทรงผมมากกว่า เรียกว่าสมจริงจนน่าขนลุกเลยทีเดียว หนังฟรี
สำหรับฉากแอ็คชันในหนังก็ปูมาตั้งแต่ต้นเรื่อง เพื่อให้เห็นความเก่งของ เฮนรี โบรแกน ที่ส่องเป้าหมายบนรถไฟกำลังวิ่งอยู่ได้อย่างแม่นยำ แต่ที่ถือเป็นไฮไลต์สุด ๆ คือฉากปะทะกับจูเนียร์ครั้งแรกที่โคลัมเบียที่การเห็นวิล สมิธ วัยหนุ่มก็ทำให้ภาพตอนดู Bad Boys กลับมาอีกครั้งเพราะอัดมาทั้งปืนสไนเปอร์ ชักปืนพก หรือระเบิดมือที่ตีกันอย่างกับลูกเทนนิส ยังไม่พอ..! มีขึ้นมอเตอร์ไซค์ขับไล่ล่าแบบรวมความตื่นเต้นของฉากคล้าย ๆ กันจากคนเหล็ก 2029 ภาค 2 มายำกับ Mission Impossible 2 แบบอาร์โนลด์กับทอม ครูซ ยังต้องอาย ซึ่งต้องยอมรับว่าพอดูผ่านการฉายแบบ 3D+แล้วทำให้เราร่วมเหตุการณ์ตื่นเต้นกับมันได้แบบสุด ๆ จริง ๆ ส่วนฉากบู๊ในสุสานใต้ดินก็ถือว่าระบบนี้ให้รายละเอียดภาพได้ดี แม้เราจะเห็นนางเอกถือปืนติดไฟฉายคอยส่องไฟให้คนดูเห็นก็ตาม
แต่อย่างที่บอกว่าข้อดีของมันคือ วิล สมิธ กับ ฉากแอ็กชัน ส่วนบทก็คือความพังพินาศด้านตรรกะอย่างรุนแรง ทั้งโพรเจกต์เจมิไนที่คนดูคิดภาพไปไกลแล้วว่ามันจะต้องมีกองทัพมนุษย์โคลนนิ่งมาตะลุมบอน เฮนรี โบรแกน ในฉากไคลแมกซ์ แต่เอาเข้าจริงหากบอกโดยไม่สปอยล์ตรง ๆ ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม เพราะหนังพยายามจะแถเข้าเรื่องคุณค่าของมนุษย์ มนุษยธรรม การต่อต้านสงครามแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ส่วนตัวละครผู้ร้ายในเรื่องอย่างตัวละครของไคลฟ์ โอเวนเองก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากสั่งการให้วิล สมิธ วัยหนุ่มไปฆ่าวิล สมิธ วัยแก่ ส่วนผู้ร่วมสมคบคิดที่ไปเอา ลินดา อีมอนด์ นักแสดงหนังอินดีมาเล่นก็ให้บทเธอน้อยเหลือเกินทั้งที่อุตส่าห์ปูว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลมีอำนาจมหาศาล แต่หนังก็ให้ออกแค่ 2 ฉากอยู่ดี ฮ่าาาาา. เอาเป็นว่าถ้าจะดูหนังเรื่องนี้ต้องทิ้งเหตุผลไว้บ้าน มามันส์กับหนังอย่างเดียวครับ หนังใหม่
หลังปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้น เขาตัดสินใจที่จะเกษียรตัวเอง แต่แล้วเขากลับได้รับข้อมูลจากเพื่อนเก่าว่า เหยื่อที่ถูกสังหารรายล่าสุดนั้นไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เขาจึงพยายามสืบหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ทว่า ในระหว่างที่เขากำลังจะสืบหาความจริงอยู่นั้น เขากลับถูกมือสังหารอีกคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า Junior (รับบทโดย Will Smith) คอยตามไล่ล่าเขาชนิดที่เรียกว่ากัดไม่ปล่อยเลยทีเดียว หนำซ้ำ มือสังหารรายนี้ยังมีเทคนิคและวิธีคิดที่สามารถตามติดเขาทุกฝีก้าวเลยและในจังหวะที่พวกเขาได้เผชิญหน้ากันซึ่งๆ หน้านั้น พวกเขาก็ได้พบกับคนที่มีหน้าตาเหมือนกันแต่ต่างวัยกัน เฮนรี่ จึงได้รู้ว่า โปรเจคเจมิไน ได้ทำการโคลนร่างของเขาขึ้นมาเพื่อนำไปใช้งาน และในภารกิจล่าสุดนี้ก็คือ การส่งร่างโคลนของตัวเขามาสังหารเขาเอง
หนังที่ขายการแสดงของ Will Smith และในไทยยังมีการฉายในระบบ 3D+ โดยฉายแบบเฟรมเรต 60 เฟรมต่อวินาที (จริงๆ ตัวหนังได้ถึง 120 แต่ประเทศไทยไม่มีโรงที่ฉายได้ขนาดนั้น) ซึ่งภาพสวยมาก สะกดสายตาตั้งแต่แรกจนจบเรื่องเลย ดูจบทำให้อยากจะซื้อทีวี 4K มาไว้ที่บ้าน ภาพชัดม๊ากกกก ดูหนังฟรี
สำหรับเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่อง ต้องบอกว่าพลอตเดิมๆ ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกแปลกกว่าเรื่องอื่นๆ จะมีดีก็ตรงฉากแอ็คชั่นที่ทำได้ดีมากๆ (โดยเฉพาะฉากไล่ล่าบนมอเตอร์ไซค์ ตื่นเต้นมากในฉากนั้น) สู้กันสนุก แถมฉายในระบบเฟรมเรตสูงทำให้การเคลื่อนไหวดูลื่นไหล และฉากสุดท้ายภาพสวยมากกกกกก!!! ย้ำว่าสวยมาก ไม่สามารถกระพริบตาในฉากนั้นได้เลย
การแสดงของ Will Smith ยังดีเหมือนเดิม ไม่ว่าเล่นบทไหนพี่แกก็สามารถแบกหนังเรื่องนั้นไว้ได้ ยอมรับว่าพี่แกเทพมากจริงๆ ในเรื่องนี่ Will Smith จะเล่นเป็นสองคน อีกคนนึงจะอยู่ในวัยรุ่ยโดยใช้ CG เข้าช่วย ต้องบอกว่าเนียนมาก ขนาดพยายามเพ่งก็แทบมองไม่ออก (แต่ฉากสุดท้ายดันหน้าลอยเฉย หรือตั้งใจก็ไม่รู้)
ขอพูดถึงในระบบ 3D+ ที่ฉายแบบเฟรมเรต 60 เฟรมต่อวินาที แค่เปิดเรื่องมา ภาพพุ่งเข้าหน้าจังๆ แถมภาพสวยมาก ลื่นไหลกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ใครจะดูหนังเรื่องนี้แนะนำให้ดูในระบบนี้เท่านั้นรับรองคุ้มค่าแน่นอนครับ แต่อาจมีเรื่องขัดใจ เนื่องจากตัวภาพจะไม่ใช่ Wide screen (พูดให้ง่ายคือภาพแคบกว่าภาพโฆษณาในโรงเยอะ) ตอนแรกผมก็ตกใจแต่ก็มีเรื่องเฟรมเรตสูงมาช่วยให้หนังดูโอเคมากๆ ดูหนังออนไลน์