รีวิวหนังฝรั่ง Fall (2022)
เรื่องราวของหญิงสาว 2 คนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน ได้แก่ เบ็คกี้ (เกรซ ฟุลตัน) และ ฮันเตอร์ (เวอร์จิเนีย การ์ดเนอร์) โดยตัวของเบ็คกี้มีสามีที่ชื่อว่าแดน ซึ่งแดน เบ็คกี้ และฮันเตอร์ ชอบในกีฬาปีนผาหรือขึ้นที่สูง เปิดเรื่องมาทั้ง 3 ได้ไปปีนหน้าผาด้วยกัน ทว่าดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเมื่อแดนได้ผลัดตกลงไปและเสียชีวิต หลังจากแดนเสียชีวิตไป เบ็คกี้ก็เศร้าอย่างมาก กลายเป็นคนขี้กลัว และไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดูหนังฟรี จนในวันหนึ่งฮันเตอร์ได้มาหาเบ็คกี้และได้ชวนเธอไปปีนเสาส่งสัญญาณที่สูงที่สุดในอเมริกา เนื่องจากเธอหวังว่าถ้าหากไปปีนที่นี่ได้สำเร็จ เบ็คกี้จะหายกลัวและมีความกล้ามากขึ้น จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เดินทางไปยังเสาส่งสัญญาณดังกล่าวและได้ปีนขึ้นไปจนถึงยอดเสา แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อจู่ๆ บันไดทางลงได้ถล่มลงไป ทำให้พวกเธอทั้งสองไม่สามารถลงจากเสาได้ ทั้งคู่จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอด ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
หนังเรื่อง Fall (2022) เป็นหนังที่ออกฉายในปี 2022 รีวิวหนังฝรั่ง Fall (2022)
ซึ่งได้นักแสดงนำอย่าง Grace Caroline Currey รับบท เบกกี้ หญิงสาวที่ชอบกีฬาผาดโผนและน่าตื่นเต้น ซึ่ง Grace Caroline Currey มีผลงานการแสดงภาพยนตร์ เช่น Shazam! (2019), Annabelle: Creation (2017) และ Most Guys Are Losers (2020) หนังยังได้นักแสดงสมทบอย่าง Virginia Gardner รับบท ฮันเตอร์ เพื่อนสาวคนสนิทของเบกกี้ ซึ่งเป็นคนชวนเธอไปปีนเสาสัญญาณสูง 2,000 ฟุต ซึ่ง Virginia Gardner มีผลงานการแสดงเช่น Project Almanac (2015), Halloween (2018) และ All the Bright Places (2020) ซึ่งหนังได้ผู้กำกับชื่อดังอย่าง Scott Mann ซึ่งมีผลงานกำกับภาพยนตร์ชื่อดังเช่น Heist (2015), The Tournament (2009) และ Chaingangs (2003) ดูหนังออนไลน์
หนังเรื่อง Fall (2022) หนังแนวเอาชีวิตรอด เมื่อเบกกี้และฮันเตอร์ 2 เพื่อนสาวที่สนิท ชวนกันไปปีนเสาส่งสัญญาณซึ่งมีความสูงถึง 2,000 ฟุต ทั้ง 2 สามารถปีนไปบนจุดสูงสุดของเสาส่งสัญญาณได้ แต่ด้วยอุบัติเหตุบางอย่าง ทำให้ทั้ง 2 ปีนลงมาไม่ได้ ทั้ง 2 จะเอาชีวิตรอดไปได้อย่างไร หนังเรื่องนี้ ดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรงครับ คือการเล่าหนังไปเรื่อย ๆ ไม่มีการย้อนอดีตหรือไปในอนาคต ทำให้ผู้ชมดูหนังเข้าใจได้ง่าย โดยฉากการปีนของเบกกี้และฮันเตอร์ ทำได้ตื่นเต้นดีครับ หนังใช้ CG ที่ปีนไปบนเสาสูง ๆ ได้สมจริงมากครับ เหมือนนักแสดงทั้ง 2 ท่านได้ปีนไปบนเสาส่งสัญญาณจริง ๆ ชอบฉากการปีนที่ดูหวาดเสียวมากครับ
ยิ่งถ้าใครกลัวความสูงแล้วดูหนังเรื่องนี้ คงหวาดเสียวน่าดู
ในส่วนของเนื้อเรื่อง หนังได้ปูเรื่องได้น่าดูมากครับ เบกกี้ที่มีปมในอดีตเรื่องที่แฟนเธอตายไปจากอุบัติเหตุเล่นกีฬาผาดโผน ทำให้เบกกี้ไม่กล้าเล่นกีฬาผาดโผนอีกเลย จนได้ฮันเตอร์กลับมาชวนเธออีกครั้ง เบกกี้จึงตัดสินใจมาปีนเสาสัญญาณที่สูงขนาดนี้ รวมไปถึงปมตัวละครฮันเตอร์ที่เป็นตัวละครดำเนินเรื่อง ที่ทำให้เรารู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว เธอกลับอยู่เบื้องหลังเรื่องราวบางอย่าง ซึ่งในตัวหนัง
เมื่อเบกกี้และฮันเตอร์ไม่สามารถปีนลงมาได้ หนังได้แสดงให้เห็นถึงการทำทุกวิถีทางของทั้ง 2 เพื่อเอาตัวรอดให้ได้ แต่เมื่อคิดว่าทั้ง 2 คิดว่ารอดแล้ว หนังกลับทำให้มีอุปสรรคขึ้นมาอีก ทำให้ผู้ชมยิ่งลุ้นไปกับทั้ง 2 ว่า ทั้ง 2 จะเอาชีวิตรอดและปีนลงไปได้หรือไม่ จนหนังจบด้วยเหตุผลที่สมเหตุสมผล
เป็นเรื่องราวชีวิตของ “เบ็คกี้” (เกรซ แคโรไลน์ เคอร์รีย์) วุ่นวายไปหนึ่งปีหลังจากอุบัติเหตุการปีนเขาอันน่าสลดใจที่ได้เห็นการเสียชีวิตของ “แดน” (เมสัน กู๊ดดิ้ง) สามีของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนติดเหล้าที่ไม่มีทิศทางและพ่อของเธอ “เจฟฟรีย์” เป็นห่วงเธอ อย่างไรก็ตาม เขาพูดเรื่องเลวร้ายเกี่ยวกับสามีผู้ล่วงลับของ “เบ็คกี้” เพื่อพิสูจน์จุดยืนของเขาว่าเธอต้องหยุดเสียเวลาตอนเช้ากับเขา เขามีความหมายดีและกำลังมองหาลูกสาวของเขา แต่บทสนทนาไม่ได้วาดให้เขาเป็นพลังบวกในชีวิตของ”เบ็คกี้”อย่างแน่นอนเพื่อความเป็นธรรม พ่อตระหนักดีว่าเขามีวิธีที่ไม่ก่อผลในการเข้าถึงลูกสาวที่อยู่ห่างไกลของเขา
ด้วยเหตุนี้เขาจึงเกลี้ยกล่อมเพื่อนสนิทของ”เบ็คกี้””ฮันเตอร์” (เวอร์จิเนีย การ์ดเนอร์) ซึ่งอยู่ที่นั่นด้วยในวันที่แดนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุประหลาด ให้ตรวจดูเธอและทำอะไรร่วมกันเพื่อให้เธอมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น หวังว่า.เห็นได้ชัดว่า”เบ็คกี้”และ”ฮันเตอร์”ไม่ได้พูดอะไรมากตั้งแต่เกิดโศกนาฏกรรม ฮันเตอร์แนะนำให้ปีนหอวิทยุขนาดใหญ่ สูงเกือบสองเท่าของหอไอเฟล และกระจายขี้เถ้าของแดน นำเสนอหัวข้อเกี่ยวกับการเผชิญความบอบช้ำทางจิตใจและการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความปรารถนาความตายสำหรับบางคน
Fall (2022) เบคกี้ กับ ฮันเตอร์ สองสาวเพื่อนรักนักท้าทายความตาย
ซึ่งข้างหนึ่งสูญเสียพ่อไป จากอุบัติเหตุระหว่างไต่เขา โน่นทำให้คุณเปลี่ยนเป็นคนกลัวที่สูง แล้วก็อีกข้างเพียรพยายามจะช่วยเพื่อนฝูง ให้ผ่านความหวาดกลัวนี้ไปให้ได้ จนกระทั่งวันหนึ่งพวกคุณทดสอบกัน ไปปีนป่ายเสาวิทยุสูงจากพื้นดินกว่า 2,000 ฟุต ที่รกร้างไม่มีผู้คนเดินทาง แล้วอุบัติเหตุอะไรบางอย่าง ก็ทำให้พวกคุณจำต้องเดือดร้อน เสี่ยงที่จะตกลงมาซี้แหงแก๋กันทั้งสอง พวกคุณจำเป็นต้องใช้สกิลการเป็นนักป่ายปีน เพื่อเอาชีวิตรอดจากเสาเมืองนรกต้นนี้
เป็นแบบฝึกหัดประเภทที่มีประสิทธิภาพอย่างไร้ความปราณี ตัวละครและแรงจูงใจตามลำดับถูกกำหนดขึ้นอย่างรวดเร็วและตรงไปตรงมา: ฮันเตอร์ (ในบทที่สนุกสนานอย่างไม่เกรงกลัวของเวอร์จิเนียการ์ดเนอร์) เป็นผู้ใช้ YouTube ที่แสวงหาความตื่นเต้นในการไล่ตามอิทธิพลโดยการปีนขึ้นไปบนหอคอยที่สวม เบ็คกี้เพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ
(เกรซ แคโรไลน์ เคอร์รีย์ ผู้ประกาศข่าวทางอารมณ์และผู้ชมแทนช่วงเวลา “ไม่!”) เป็นพ่อหม้ายผู้โศกเศร้าที่หวังจะเอาชนะความกลัวในการปีนเขาของเธอ ทั้งคู่กำลังหาทางยุติหลังจากเกิดโศกนาฏกรรมเมื่อ 12 เดือนก่อนใน ฉากเปิดสไตล์ Mission: Impossible 2 ( การเปรียบเทียบเปิดกว้างเมื่อตัวละครตัวหนึ่งเรียกอีกคนหนึ่งว่า “อีธาน ฮันท์”)
เมื่อเทียบกับการตัดสินที่ดีกว่าที่มีอยู่ทั้งหมด รีวิวหนังฝรั่ง Fall (2022)
เพื่อนสองคนตกลงที่จะปีนขึ้นไปบน “โครงสร้างที่สูงเป็นอันดับสี่ในสหรัฐอเมริกา” และภายใน 20 นาทีของรันไทม์ที่ผ่านไป พวกเขากำลังขึ้นบันได ไม่นาน สายเคเบิลเหล็กที่เป็นสนิมก็เริ่มส่งเสียงดัง และทำให้ประสาทของคุณสั่นสะท้าน ทำให้เราไม่มีภาพลวงตาว่านี่คือภาพยนตร์ประเภทใด โดยพื้นฐานแล้วมันคือชุดของปัญหาที่ได้รับการแก้ไขภายใต้สภาวะที่รุนแรง (เราจะหาสัญญาณโทรศัพท์ได้อย่างไร เราดื่มน้ำอย่างไร เรากระจ้อยร่อยอย่างไร); ความพ่ายแพ้ซ้อนขึ้นและมีชัยชนะเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นไปตามเส้นทางที่ค่อนข้างคุ้นเคย แต่ก็มีที่ว่างสำหรับเซอร์ไพรส์สำคัญอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
หนังเรื่องนี้พล็อตคือไม่มีอะไรมากมาย หลักๆ ก็คือทั้งคู่ติดบนเสาสูง 2,000 ฟุต (609 เมตร) เปรียบเทียบง่ายๆ ก็คือสูงกว่าตึกใบหยก 2 ประมาณเกือบ 2 เท่า และด้วยความที่พล็อตหลักมีเท่านี้ การที่จะทำให้หนังออกมาดึงดูดและมีความน่าสนใจจึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ทว่าหนังเรื่องนี้กลับทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งเลย ในส่วนของบทส่วนตัวผมมองว่ายังธรรมดาทั่วไป แต่อย่างที่บอกว่าบทไม่ใช่ประเด็นสำคัญมากนัก สิ่งที่สำคัญสำหรับหนังแนวนี้คือการสร้างบรรยากาศ ความลุ้นระทึกเสียมากกว่า ซึ่งเรื่องนี้ทำได้ดีเลยทีเดียว การดำเนินเรื่องก็ทำได้ดี ไม่ได้มีการปูเรื่องราวอะไรมากมาย เรื่องราวทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วและน่าติดตาม บอกเลยว่าลุ้นจนเหงื่อตกจริงๆ
สิ่งที่ชอบคือการเติมแต่งเรื่องราวส่วนตัวของตัวละครเข้ามา
เพื่อทำให้เรื่องราวมันมีมิติมากขึ้น นั่นคือเรื่องความสัมพันธ์ลับๆ ของฮันเตอร์และแดน ซึ่งถ้าหากได้ดูจะรู้เลยว่ามันเดาได้ง่ายมากๆ ว่าสองคนนี้แอบคบกันแน่ๆ แต่ถ้าหากไม่มีประเด็นนี้เข้ามามันก็จะไม่มีประเด็นอะไรนอกจากการเอาชีวิตรอด โดยการปูเรื่องราวให้ตัวละครหลักมีปมกันนั้นเป็นเหมือนสิ่งที่หนังแนวนี้มีเสมอ
มันเป็นเหมือนสูตรสำเร็จที่เริ่มเรื่องด้วยตัวละครมีความลับในใจต่อกัน จนได้ไปเจอกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน จนทำให้ต้องเปิดใจและเชื่อมสัมพันธ์กัน รวมถึงปมในใจของเบ็คกี้กับพ่อที่ไม่ค่อยลงรอยกันในทีแรก แต่พอรอดมาได้ก็เปิดใจกันมากขึ้น ส่วนนี้ก็เป็นมุขเดิมๆ ของหนังแนวนี้เช่นกัน และถึงแม้ว่ามันจะซ้ำซากแต่มันก็ไม่ได้แปลว่าแย่ เพราะทุกอย่างอยู่ที่การนำเสนอเสียมากกว่า สำหรับเรื่องนี้ประเด็นดราม่าส่วนตัวผมมองว่าอยู่ในระดับธรรมดาทั่วไปไม่ได้อิมแพ็คอะไรมากมาย ต่อมาในด้านการแสดง ส่วนตัวผมยังมองว่าธรรมดาทั่วไปเช่นกัน นักแสดงหลักทั้งสองคนแสดงได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป แต่บทมันไม่ได้ส่งอะไรมากมายจึงไม่ได้โชว์ทักษะอะไรขนาดนั้น