รีวิวหนังฝรั่ง The Call of the Wild ภาพยนตร์เรียกน้ำตา ของคนรักสุนัข เรื่องใหม่ล่าสุด 2022
สวัสดีครับ วันนี้เราจจะมา รีวิวหนังฝรั่ง เรื่อง The Call of the Wild ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหมา บิ๊กเป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือ นิยาย โดยตัวหนังจะเป็นแนวชีวิต ดราม่า นิดหน่อย ๆ เรียกได้ว่าคนรักหมาเนี่ย ไม่ควรพลาดเลยแหละครับ สำหรับผม เป็นทาสแมว ดูเรื่องนี้ยังอินเลย บอกตามตรงไม่ดูคือพลาดมาก
รีวิวหนังฝรั่ง The Call of the Wild ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ คริส แซนเดอร์ส
มั่นใจว่างานยาก สําหรับในการเอา the call of the wild เสียงเพรียกจากพงไพร ของ ผู้กํากับ คริส แซนเดอร์ส วรรณกรรม มีคุณค่าระดับ หนังสืออ่านนอกเวลาที่อยู่ในใจคนอ่านมานานแสนนาน
ตั้งแต่ปี 1903 อาจจะไม่พ้นการจําต้อง ทายใจ แนวทาง ลม สําหรับการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไข เรื่องราว ให้เอาอกเอาใจผู้ชมยุคนี้
ซึ่ง ทําเป็นอย่างทุกข์ยาก เนื่องจาก ขณะที่รายละเอียด ใน หนังสือ เฝ้า ติดตามความเคลื่อนไหว และก็ชะตาชีวิตอันเปลี่ยนของ บั๊ก เจ้าสุนัข ตัวโต ที่มีทั้งยังความน่าตื่นเต้น
แล้วก็ ความจริง ชีวิต ที่มิได้มี แต่ว่า ด้านสว่าง มา ติดต่อสื่อสารกับเยาวชนให้มองเห็น ข้อเท็จจริง ของชีวิต และก็แน่ๆว่าการที่มันแปลงเป็นหนังมาหลายรอบก็ยิ่งทําให้ความซ้ํา
รวมทั้ง บอบช้ําของเรื่องราวที่หามุม เล่าใหม่ได้ยากเหลือเกิน แม้กระนั้น สําหรับเพื่อการปรับเปลี่ยนปัจจุบันข้างหลัง ดิสนีย์ ซื้อ ฟอกซ์ ถือ ครั้งแรก
เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น Twentieth Century Studio ตัวหนังเลือก ทําเป็น ไลฟ์แอ็กชัน ที่ประสานคนจริง กับเจ้าตูบ ที่เป็นซีจี และก็ยังดัดแปลงปรับปรุงแก้ไข เรื่องราวให้สั้นลงเหลือเป็นหนัง 100 นาทียก
เรื่องย่อ The Call of the Wild
the call of the wild เรื่องย่อ หนังตา ความเห็น โชคชะตาชีวิตอันเปลี่ยนของ บิ๊ก หมาประเภทเซนต์เบอร์ ท้องนาร์ด สก็อต คอลลีย์ จาก สุนัข ดื้อ ด้าน ของ นายอําเภอ ที่ถูกลักพาตัว จากบ้าน ข้างหลัง ใหญ่ แสนสบาย
แปลงเป็น หมาลากเลื่อน ส่งจดหมาย รวมทั้ง ในที่สุดก็ได้ผูกสัมพันธ์กับ จอห์น ธอร์นตัน (แฮริสัน ฟอร์ด) ชายแก่ที่เคยสูญเสียลูกชายที่รัก
รวมทั้งการได้มา พบบั๊กก็ทําให้เขากล้ายืนขึ้นมาดําเนินชีวิต อีกรอบ กระทั่งก่อให้เกิดการเสี่ยงภัยเพื่อค้นหาทองในตํานาน แต่ว่า ยังมี ฮาล(ดินแดน สตีเฟนส์) นักทัศนาจรแสวง โชค
ที่ความโลภละโมบ ทําให้เขากล้าทําทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อ กําจัด ทุกคน รวมทั้ง ทุก ตัว ที่มาขัดขวาง ร่ารวยของเขา
ความรู้สึกหลังรับชม The Call of the Wild
หนังเล่าเป็นเส้นตรงที่เข้าใจได้ง่าย แต่มีศูนย์กลางหลักเป็นเจ้าหมาน้อยบัค ผ่านเหตุการณ์ขึ้นเข้าลงห้วยต่าง ๆ ที่บางอารมณ์ก็เหมือนกำลังได้ดูอนิเมชั่นมากกว่าหนังใหญ่เสียด้วยซ้ำ
แทรกด้วยความยิ่งใหญ่ของฉากทิวทัศน์อลาสก้า อารมณ์ขันที่แทรกมาอย่างถูกจังหวะ และความขี้เล่นของเจ้าบัคที่แม้จะเป็นซีจีและดูแปร่ง ๆ ไปบ้าง แต่ก็ถอดอารมณ์มาได้ค่อนข้างดี
ณ ตอนนี้ เรายังคงหาข้อมูลไม่ได้ว่าบทภาพยนตร์ตอนแรกถูกเขียนมาเล่าเรื่องราวในแต่ละพาร์ตของเจ้า บั๊ก ยังไง แต่สำหรับหนังในฉบับที่เสร็จออกมา
ปัญหาประการแรกเลยคือมันไม่สามารถแบ่งสัดส่วนการเล่าเรื่องให้พอดีและทำให้เราเข้าใจ เห็นใจหรือเอาใจช่วยเจ้าบั๋กหรือกระทั่งธอร์นตันได้เลย
โดยหนังเลือกไปใช้การเล่าเรื่องเรียงลำดับเวลาแบบเดียวกับนิยายแต่ขลิบทุกอย่างให้สั้นลงราวกับดูคลิปยูทูบแล้วกดเลื่อนให้มันจบเร็วขึ้นเพื่อหวังเอาใจคนดูยุคใหม่ที่ไม่อดทนกับการเล่าดรามาให้ยืดยาว
ผลลัพธ์คือนอกจากความต่อเนื่องทางอารมณ์ไม่ได้แล้ว ทิศทางของหนังยังสะเปะสะปะ เพราะมันเริ่มเรื่องราวกับหนังคอเมดีน้องหมาสุดป่วนตอนอยู่กับนายอำเภอ ไปสลับกับดราม่าชีวิตหมาบัดซบอยู่ราว 5 นาทีหลังถูกขโมย
และอยู่ ๆ ก็กลายเป็นน้องหมาผจญภัยกลายเป็นหมาลากเลื่อนหลังได้เจอกับคู่รักไปรษณีย์ชาวแคนาดา (ที่ดูมีเรื่องมีราวที่สุดแล้ว)แล้วอยู่ดี ๆ เจ้าบั๊กก็ได้มาขโมยขวดเหล้าธอร์นตันอย่างงง ๆ
แล้วโดนฮาลตามล่าเพื่อหวังให้คนน้ำตาแตกกับชะตากรรมสุดท้ายที่หนังเลือกดัดแปลงและตัดจบให้สั้นกว่าฉบับนิยาย
ซึ่งสิ่งที่หายไปอย่างเห็นได้ชัดคือ ดูแล้วก็ไม่เข้าใจว่ามันคือ “เสียงเพรียกจากพงไพร” ยังไง เพราะนอกจากวิญญาณหมาดำที่โผล่มางง ๆ แล้วหนังก็ตัดรายละเอียดที่ถือเป็นหัวใจของหนังสือ
อย่างการใช้ชีวิตในป่าของคนอย่างธอร์นตันและการพาตัวเองจากหมาบ้านไปรู้จักกับเผ่าพันธุ์หมาป่าของบั๊ก
โดยคนดูจะได้เห็นแค่บั๊กเข้าป่าไปหาเมียแล้วช่วยชีวิตคนในครอบครัวเมียไว้จนได้สละสถานะโสดแค่นั้นเอง ซึ่งถือว่าน่าเสียดายมากที่บทประพันธ์ดี ๆ ต้องมาถูกสร้างแบบตามมีตามเกิดเช่นนี้
มาว่ากันถึงหมา CG กันบ้าง ถามว่าผลลัพธ์ที่ออกมาน่าเกลียดมากมั้ยก็ยังถือว่ารับได้นะครับ คือหากคิดว่ามันเป็นผลงานกำกับอนิเมชันเรื่องใหม่ของ
ผู้กำกับหนังฝึกมังกรอย่าง How to train your dragon สองภาคแรก แถมอาการและความขี้เล่นของเจ้าบั๊กก็แอบทำให้เรานึกถึงเจ้าเขี้ยวกุดไม่น้อย
แต่เฮ้ย ! เราผ่านหนังหมาที่เขาเอาหมามาฝึกได้จริงกันมาเป็นร้อยเรื่องแล้ว พอเจอหมาซีจีต่อให้มันได้อารมณ์การ์ตูนแค่ไหนแต่ตอนดูมันตะหงิดตลอดเลยว่าทำไมเอาหมาจริงมาฝึกไม่ได้
แถมใช้พร่ำเพรื่อแม้ในฉากแค่หมาจ้องหน้าที่เราเคยได้เห็นน้องหมาตัวจริงมาขายความน่ารัก นี่ต้องมาดูซีจี หมาทำหน้าทะเล้น ๆ ในฉากที่เป็นซีจีแถมคุณภาพยังห่างไกลจากมาตรฐานดิสนีย์อย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะหนังใช้ซีจีกว่า 70% แต่ทุนสร้างไปจบที่ 150 ล้านเหรียญทำให้เราเห็นจุดบกพร่องของซีจีได้ชัดเจนหลายฉากเลยทีเดียว
รีวิวหนังฝรั่ง The Call of the Wild เรื่องราวชีวิตระหว่าง คน และ สุนัข
จากวรรณกรรมอันทรงคุณค่าอย่าง The Call Of The Wild ที่เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาขวัญใจนักอ่านมาเป็นระยะเวลายาวนานมาสู่ภาพยนตร์ผจญภัยในครั้งนี้ ที่เล่ามุมชีวิตของมนุษย์และสุนัขที่เราหลายคนคาดไม่ถึง
เรื่องราวของ “เจ้าบั๊ก” สุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด สก็อตคอลลีย์ ที่มีชีวิตสุดพลิกผันจากสุนัขที่มีเจ้าของเป็นนายอำเภอ ได้กินอิ่มนอนหลับอย่างมีความสุขทุกวันในบ้านแสนอบอุ่น
ต้องกลับกลายมาเป็นสุนัขลากเลื่อนส่งจดหมายให้กับ “ธอร์นตัน” และครอบครัวของเขาชาวแคนาดา ซึ่งมันเป็นดินแดนอันแสนหนาวเหน็บ การเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเจ้าบั๊ก ไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่น้อย
การเป็นสุนัขบ้านมาก่อนแล้วต้องมาลากเลื่อนที่ไม่เคยทำก็เป็นเรื่องยาก การเข้ากันกับฝูงไม่ได้โดนจ่าฝูงข่มตลอดเวลาจนเสียความมั่นใจอีก
แต่ไม่ว่าอุปวรรคจะเข้ามามากมายสุดท้ายเลือดนักสู้ของเจ้าบั๊กก็ทำให้มันฝ่าฟันทุกอย่างไปได้ และกลายเป็นสุนัขที่มีความสุข
จนกระทั่งเพื่อนของธอร์นตันต้องการจะออกผจญภัยเพื่อค้นหาทองคำ เราก็จะได้เห็นความละโมบโลภมากในจิตใจของมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังเห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นระหว่างเจ้าบั๊กกับตัวของธอร์นตันเองมากขึ้น
บทสรุป The Call of the Wild
สรุป แล้ว นับได้ว่า The Call of The Wild เปลี่ยนเป็นงานที่น่าผิดหวังที่สุด หากอ่านมา ทั้งผอง จะสังเกตว่า ผมไม่ เอ่ยถึงแม้กระทั้ง แฮริสัน ฟอร์ด ที่อุตส่าห์มาโผล่
ประเด็นนี้ ข้างหลังไปโดนลูกชาย ฆ่าตายใน Star Wars The Force Awaken แม้กระนั้นตัวหนังก็มิได้เกื้อหนุนงานการรวมทั้งรากฐานอาชีพอะไร ส่วน ความสนุกสนาน ร่าเริง
หนังก็ยังมิได้มาตรฐาน หนังเสี่ยงภัยที่พวกเราต้องการมองเห็น ในโรงภาพยนต์นัก แถมพอเพียง พบ โมเมนต์คลีเช่ๆ ซ้ําซากก็เกือบจะหลับ ใส่จนถึง ต้องการที่จะให้น้อง Millie ไปร้องใส่หูดิสนีย์ถ้าจะปลดปล่อยวัด หนัง ฟอกซ์ ขนาดนี้ว่า พักก่อน !