รีวิวหนังฝรั่ง Enemy of the State
เมื่อรัฐบาลกำลังพยายามผ่านกฏหมายที่อนุญาตให้รัฐดักฟังประชาชน แต่มี ส.ส. คนหนึ่งที่พยายามจะคัดค้าน เลยถูกเจ้าหน้าที่รัฐฆ่าทิ้ง แต่แล้วกลับมีคนถ่ายเหตุการณ์การอำพรางศพเอาไว้ได้ และเทปเจ้ากรรมดันบังเอิญตกไปอยู่ในมือของ ดีน ทนายดวงซวย เขาเลยกลายเป็นเป้าหมายต่อมาในการจับตามองของรัฐ ว่าเขาจะทำอะไรกับคลิปวิดีโอนี้ จนทำให้เขาต้องใช้ไหวพริบในการเอาตัวรอดจากการตามจับของหน่วยงานที่แทบจะติดตามเขาได้ทุกอย่าง รีวิวหนังฝรั่ง Enemy of the State รีวิวหนังฝรั่ง
สำหรับ Enemy of the State นั้น ไม่เพียงแค่เหมาะกับคอหนังสายทริลเลอร์ธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่ยังตั้งคำถามถึงอำนาจของรัฐที่จะเข้าถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนในด้านต่างๆ เข้ามาด้วย จนเสริมให้เนื้อเรื่องและเรื่องราวนั้นมีความเข้มข้นมากขึ้นไปอีก จนทำให้หนังเรื่องนี้สร้างสรรค์ความระทึกชวนลุ้นให้กับคนดูได้แบบนั่งไม่ติดเก้าอี้ โดยที่ไม่ต้องเน้นฉากแอคชั่นมากมาย ซึ่งใครชอบหนังสไตล์พระเอกที่ต้องหนีๆ บวกกับประเด็นเข้มๆ เช่นนี้แบบ The Fujitive หรือ U.S. Marshalls แล้วนี่คืออีกเรื่องที่ต้องดูเลยจริงๆ ดูหนัง
หนังที่ตั้งคำถามเรื่องของการที่รัฐเข้าถึงข้อมูลของประชาชนแบบมาก่อนกาล จากการขยี้ประเด็นสิบแรงมือด้วยมือของผู้กำกับอย่าง Tony Scott ที่โดยปกติแล้วเขามักทำหนังแอคชั่นในแบบตลาดๆ มากกว่าผู้พี่อย่าง Ridley Scott แต่เรื่องนี้ต้องยอมรับเลยว่าเป็นอีกผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก และกลายเป็นผลงานที่เราชอบมากที่สุดของเขาแล้ว ด้วยความที่หนังเรื่องมันปรับลดระดับความเป็นแอคชั่นลงมา และเน้นไปโทนจารชนไล่ล่าแทน ประกอบกับการยัดประเด็นหนักๆ ที่วิจารณ์ถึงการทำงานของรัฐที่ดูจะเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ ก็ยิ่งลงตัวกับหนังแนวของเขาได้ดีจริงๆ ดูหนังออนไลน์
เพราะตัวหนังสะท้อนถึงความซวยของตัวละครเอกอย่าง ดีน ที่ต้องเผชิญ ถ้าหากว่ารัฐนั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งหมดจริงๆ นั้นจะเกิดอะไรขึ้น และเราก็จะเห็นได้ว่า ขนาดในยุคนั้นยังสามารถติดตามในทุกฝีก้าวขนาดนี้ ถ้าเป็นยุคนี้จะมีความน่ากลัวขนาดไหน นั่นคือจุดประสงค์จริงๆ ที่หนังต้องการทำให้เราเห็น ผ่านทางการไล่ล่าระหว่างหน่วยงานกับ ดีน ที่ปรากฏอยู่ในเวลา 2 ชั่วโมงกว่า ที่แม้ว่าจะมีฉากแอคชั่นไม่มาก แต่ก็ทำเอาคนดูต้องลุ้นไปกับชะตากรรมของตัวละครจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ ซึ่งยังดีที่มาดกวนๆ ของ วิล สมิธ ยังช่วยดึงโทนหนังให้มีอารมณ์ขันเข้ามาได้บ้าง
จนทำให้แม้ว่าหนังจะเป็นสไตล์จารชนแบบสูตรสำเร็จ แต่ด้วยตัวพล็อตเรื่องที่เหนือชั้นในยุคนั้น ประกอบกับจังหวะการดำเนินเรื่องไล่ล่าที่ชวนลุ้น และวัดกันด้วยการชิงไหวชิงพริบ ที่ดูมีชั้นเชิง แก้ทางกันพอดู และอาศัยการวางมุมกล้องสไตล์ตามติดตัวละครแบบไกลๆ เสมือนว่าถูกจับตามองอยู่ตลอด ซึ่งการที่หนังประเด็นหนัก แต่กลับทำออกมาได้แมสเช่นนี้ ก็คงเป็นเพราะได้ Producer ของหนังอย่าง Jerry Bruckheimer ที่ชื่อนี้การันตี คุณภาพความบันเทิงแบบมันส์ๆ ดูง่าย เข้าถึงง่ายกันอยู่แล้ว มันเลยกลายเป็นหนังแนวไล่ล่า เสียดสีรัฐบาลในยุค 90s ที่โคตรสนุก และอยากแนะนำมากๆ อีกเรื่องเลย ดูหนังฟรี
ดูหนังเรื่องนี้จบก็มีความรู้สึกว่ามันน่าหวั่นวิตกมากครับ เพราะในเรื่องพูดถึงการแทรกแซงข้อมูลความมั่นคงภายในประเทศของรัฐบาลโดยการรับรู้ข้อมูลหมดทุกอย่างของพลเรือนในประเทศทั้งข้อมูลการเงิน บัตรเครดิต ทะเบียนรถ ข้อมูลแฟน คนเกี่ยวข้องของเราตั้งแต่วัยมัธยมยันวัยทำงาน แม้แต่บังคับยานดาวเทียมใช้กล้องสอดแนมเราทุกฝีก้าวก็ยังได้… เป็นหนังที่พล็อตฉลาดล้ำและแสดงให้เราเห็นถึงแสนยานุภาพที่น่าทึ่งของสหรัฐฯ
หนังครบสูตรความเป็นจารกรรมไล่ล่าเลยครับ พระเอกตกกระดพลอยโจรต้องมาชิงไหวพริบสู้รบทางสมองทั้งเรื่องกับผู้ร้ายที่เครื่องมือครบครันกว่า …เรื่องนี้ไม่ได้หนักหรือลงเน้นไปทางระเบิดล้างผลาญนะครับ เป็นในแนวทางทริลเลอร์ระทึกขวัญ แทรกอารมณ์ขันสไตล์มาดของวิลล์ สมิธ (แต่ในเรื่องก็มีฉากต่อสู้มันส์ๆ เสิร์ฟมาตลอด) ผู้กำกับโทนี่ สก็อตต์ ก็ยังคงแทรกความเป็นสไตล์ตัวเองลงไป ทั้งมุมกล้องหวือหวา วูบวาบอันเป็นเอกลักษณ์ เน้นภาพมุมสูงจากฮ. ก็ทำให้เข้ากับหนังให้อารมณ์การสอดแนม เหมือนถูกติดตามแอบดู เว็บดูหนัง
หนังยาวประมาณ 130 นาที หนังสามารถเหนี่ยวคนดูให้ติดตามกับการไล่ล่าพระเอกได้อย่างเหนียวแน่น หนังทำได้ดีครับ สถานการณ์ต่างๆ เทคนิคงานสร้าง อันนี้คือสอบผ่านอยู่แล้วเพราะโปรดิวเซอร์ของเรื่องนี้คือเจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์ (โปรดิวเซอร์ The Rock, Armageddon, Bad boy) จึงหายห่วงได้เรื่องงานสร้างฉากแอ๊คชั่นมันส์ๆ ส่วนวิลล์ สมิธก็เล่นได้ดีน่าติดตาม แถมยังเอาสไตล์มาดกวนๆ ของตัวเองหยอดลงไปในหนังจนทำให้ในบางฉากที่ดูเครียดๆ เล่นเอาฮากับพี่แกได้เลยครับ
โทมัสไบรอันเรย์โนลด์สเจ้าหน้าที่ของ NSA พบกับฟิลแฮมเมอร์สลีย์ (R-NY) สมาชิกรัฐสภาสหรัฐในสวนสาธารณะเพื่อหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายฉบับใหม่ที่รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกากำลังผลักดันให้ขยายอำนาจการเฝ้าระวังของหน่วยข่าวกรองมากกว่าบุคคลและกลุ่ม แฮมเมอร์สลีย์ยังคงมุ่งมั่นที่จะปิดกั้นการเดินทางโดยต้องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของพลเมืองสหรัฐฯ
เรย์โนลด์ต้องการให้ใบเรียกเก็บเงินที่ส่งผ่านไปช่วยติดตามการโปรโมตที่ล่าช้าเป็นเวลานานประสบความสำเร็จในการสั่งให้แฮมเมอร์สลีย์ถูกสังหารโดยจัดฉากให้ดูเหมือนว่าเขาเป็นโรคหัวใจวาย ในขณะเดียวกันทนายความแรงงาน โรเบิร์ต “บ๊อบบี้” ดีน มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกี่ยวข้องกับ มาเฟียคิงพิน พอลลี่ ปิเนโร่ บ๊อบบี้พบกับราเชลแบงส์อดีตแฟนสาวของเขาซึ่งทำงานให้กับ “บริลล์” ซึ่งบ๊อบบี้จ้างงานเป็นครั้งคราวเพื่อสอดส่อง เธอส่งเทปกล่าวหาปิเนโร่
ขณะที่ตำรวจตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมของแฮมเมอร์สลีย์ชายของเรย์โนลด์สังเกตเห็นนักชีววิทยาคนหนึ่งเอาเทปจากกล้องสัตว์ป่าระยะไกลที่ประจำการอยู่ตรงข้ามทะเลสาบ พวกเขาระบุว่านักชีววิทยาคือ เดวิด ซาวิทซ์ เมื่อซาวิทซ์ ดูภาพการฆาตกรรมของสมาชิกรัฐสภาเขาติดต่อเพื่อนนักข่าวทันที ทีมของเรย์โนลด์ดักฟังโทรศัพท์และรีบไปที่อพาร์ตเมนต์ของซาวิทซ์ ซาวิทซ์ถ่ายโอนวิดีโอไปยังแผ่นดิสก์และซ่อนไว้ในอุปกรณ์เกมอิเล็กทรอนิกส์ก่อนหลบหนี
ซาวิทซ์ปะทะบ๊อบบี้เพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซาวิทซ์ตื่นตระหนกยัดแผ่นดิสก์ลงในกระเป๋าช้อปปิ้งของบ็อบบี้โดยที่เขาไม่รู้และวิ่งหนี ในขณะที่ถูกไล่ล่าซาวิทซ์ชนกับรถดับเพลิงและถูกฆ่าตาย เพื่อนนักข่าวของซาวิทซ์ก็ถูกฆาตกรรมเช่นกัน ทีมงานของโนลด์สระบุบ๊อบบี้และเชื่อว่าเขามีวิดีโอนี้ เว็บดูหนังฟรี
พวกเขามาถึงบ้านของบ็อบบี้เพื่อค้นหาสินค้าที่เขาซื้อล่าสุด เมื่อบ๊อบบี้ปฏิเสธพวกเขาก็ปลูกอุปกรณ์เฝ้าระวังในบ้านและบนเสื้อผ้าของบ๊อบบี้ พวกเขาเผยแพร่หลักฐานเท็จที่มีนัยว่าบ๊อบบี้ทำงานให้กับมาเฟียฟอกเงินและมีความสัมพันธ์กับราเชล ภัยพิบัติทำลายชีวิตของบ็อบบี้เขาถูกไล่ออกบัญชีธนาคารของเขาถูกแช่แข็งและคาร์ลาภรรยาของเขาก็ไล่เขาออกไป
ในตอนแรกบ๊อบบี้เชื่อว่าพินเทอโรอยู่เบื้องหลังแคมเปญละเลงเป็นการแก้แค้น เขาเชื่อว่าบิลผู้ติดต่อของราเชล สามารถช่วยเขาได้และขอให้เธอจัดการประชุม NSA ซึ่งเฝ้าติดตามการโทรของเขาส่งผู้แอบอ้างเพื่อสกัดกั้นบ็อบบี้ บิลตัวจริงช่วยบ็อบบี้และเตือนว่า NSA กำลังตามล่าเขา บริลถอดอุปกรณ์ติดตามในเสื้อผ้าของบ็อบบี้ ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ของ NSA ได้สังหารราเชลแต่เพียงผู้เดียวเพื่อล้อมบ๊อบบี้
บ๊อบบี้ได้รับแผ่นดิสก์และบริลล์ระบุเรย์โนลด์ส NSA ค้นหาและบุกค้นโกดังลับของบิล บิลและบ๊อบบี้หลบหนี แต่ดิสก์ถูกทำลาย ชื่อจริงของบิลคือชเอ็ดเวิร์ดไลล์อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารของ NSA ที่ประจำการในอิหร่านในช่วงการปฏิวัติอิหร่าน คู่หูของเขาพ่อของราเชลถูกฆ่าตาย แต่ไลล์หนีไปได้และทำงานอย่างลับๆตั้งแต่นั้นมาโดยจ้างราเชลเป็นคนส่งของ ไลล์ขอให้บ๊อบบี้ลงไปใต้ดิน แต่เขาต้องการล้างชื่อของเขา
บ็อบบี้และไลล์ตามรอยแซมอัลเบิร์ตสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ (R-NH) ซึ่งสนับสนุนร่างกฎหมายการเฝ้าระวังด้วยวิดีโอเทปกับนายหญิงของเขา บ็อบบี้และไลล์ “ซ่อน” อุปกรณ์การฟังเครื่องหนึ่งของ NSA ในห้องพักของโรงแรมของอัลเบิร์ตเพื่อที่เขาจะได้พบมันและเริ่มการสอบสวนภายในว่าเขาถูกดักฟัง ไลล์มุ่งความสนใจไปที่เรย์โนลด์สโดยการฝากเงินจำนวนมากเข้าบัญชีธนาคารของเรย์โนลด์สเพื่อให้ดูเหมือนเป็นการจ่ายสินบน
ไลล์นัดพบเรย์โนลด์เพื่อแลกเปลี่ยนวิดีโอและให้เรย์โนลด์กล่าวหาตนเอง คนของเรย์โนลด์แทนที่จะซุ่มประชุมและจับไลล์และบ็อบบี้ไปจ่อโดยเรียกร้องเทป บ็อบบี้โกหกและบอกว่าภาพการฆาตกรรมของแฮมเมอร์สลีย์อยู่กับพินเทอโรโดยรู้ว่าร้านอาหารของพินเทอโรอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังของเอฟบีไอ บ็อบบี้และเรย์โนลด์เข้าไปในพินเทอโร การพูดอย่างคลุมเครือบ็อบบี้ทำให้ทั้งพินเทโรและเรย์โนลด์สับสนเกี่ยวกับเทปวิดีโอสองรายการที่แตกต่างกัน
การเผชิญหน้าครั้งนี้ทวีความรุนแรงไปสู่การยิงกันตายสังหารพินเทโรเรย์โนลด์สและเจ้าหน้าที่ NSA ระหว่างการทดสอบนี้ไลล์ใช้อุบายล่อลวงเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังของเอฟบีไอให้บุกเข้าไปในร้านอาหาร ไลล์ซึ่งปลอมตัวเป็นตำรวจหลุดออกไปในขณะที่เอฟบีไอช่วยเหลือบ็อบบี้และเปิดโปงการสมรู้ร่วมคิดทั้งหมด รัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกายกเลิกการเรียกเก็บเงินเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องอื้อฉาวระดับชาติโดยปกปิดการมีส่วนร่วมของ NSA เพื่อรักษาชื่อเสียงของหน่วยงาน บ๊อบบี้เคลียร์ข้อกล่าวหาทั้งหมดและคืนดีกับคาร์ล่า ไลล์ส่งข้อความ “อำลา” ให้บ๊อบบี้ผ่านทางทีวีบางส่วนแสดงให้เห็นว่าตัวเองกำลังพักผ่อนอยู่บนเกาะเขตร้อนกับเบ๊บแมวของเขา
อยากได้อะไรบ้างล่ะครับ หนังที่พระเอก (Will Smith) ต้องใช้สมองรับมือกับผู้ร้าย ส่วนพวกผู้ร้ายก็มากันเพียบ อุปกรณ์ไฮเทคจัดเต็ม มีฉากไล่ล่าทั้งวิ่ง ไล่ยิง ระเบิดตูม ไหนจะฉากลุ้นๆ ประเภทไปไต่ตรงหน้าต่างตึกสูงๆ หรือวิ่งกลางถนนที่อุดมรถ
ด้านบทก็มีซับซ้อนพอหอมปากหอมคอ มีเนื้อหาสไตล์ Conspiracy Theory ได้กลิ่นอายลับลมคมในของรัฐบาล มีตัวละครเก๋าๆ ที่ทำตัวลึกลับและรู้มันสารพัดอย่าง (Gene Hackman)
และที่ขาดไม่ได้คือลีลามุมกล้องฉับไวตามมาตรฐานของลุง Tony Scott ผู้กำกับผู้ล่วงลับ
หนังครบสูตรความสะใจครับ ดูสนุก น่าติดตาม ดาราแน่น ดนตรีของ Harry Gregson-Williams และ Trevor Rabin ก็ติดหูเร้าอารมณ์ตื่นเต้นได้ดี (ละครบ้านเรานำมาใช้บ่อยๆ ขนาด “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” ยังนำไปใช้เลยครับ)
ดาราในเรื่องถือว่ามากันล้นจอ ไม่ว่าจะJon Voight, Regina King, Loren Dean, Barry Pepper, Ian Hart, Jake Busey, Scott Caan, Jason Lee, Gabriel Byrne, Jack Black, Jamie Kennedy บางคนโผล่มาก บางคนโผล่น้อย บางคนตอนนั้นก็ยังไม่ดัง แต่ถ้าคอหนังยุคนี้ไปดูเชื่อว่าคงคุ้นหน้าคุ้นตากันหลายคน
หนังทำเงินไปราว $250 ล้านเหรียญจากทั่วโลก ก็ถือว่าคุ้มทุน $90 ล้านที่ลงไป ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จของผู้สร้าง Jerry Bruckheimer
สิ่งหนึ่งที่ผมคิดเสมอในการเป็นคนรักหนังก็คือ หนังดีของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ แต่หากเราสามารถเจอหนังที่เราชอบได้ นั่นถือเป็นโชคดี เพราะเท่ากับเราเจอแหล่งพลังเล็กๆ ที่จะเติมเต็มเรา ให้ความสุขกับเรา ให้สาระเรียนรู้ชีวิตกับเรา หรือไม่ก็ช่วยปลดปล่อยอารมณ์ต่างๆ (ทั้งตลก, รัก, เศร้า, ดราม่า, มันส์, ลุ้น, ตื่นเต้น หรือสยอง)